ปารมี จ่อเชิญผู้บริหาร สพฐ.แจง กมธ. จัดอบรมครูสอนประวัติศาสตร์ไทย 6 วัน แต่ให้ทหารเป็นวิทยากร ไม่เข้าใจทำไมไม่ใช้บุคลากร สพฐ.หรืออาจารย์ในมหา’ลัย ห่วงผลลัพธ์ที่ได้ไม่คุ้มกับงบจัดงาน
จากกรณี นายกมล รอดคล้าย ประธานคณะทำงานฝ่ายอำนวยการ รมช.ศธ. เป็นประธานในพิธีเปิดการอบรมเชิงปฏิบัติการพัฒนาครูด้านการจัดการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ไทย จัดขั้นระหว่างวันที่ 28 พฤษภาคม-2 มิถุนายน ที่โรงแรมเอวาน่า แกรนด์ แอนด์ คอนเวนชั่น เซนเตอร์ กรุงเทพฯ โดยมีวิทยากรจากศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน 3 คน คือ นายกองเอก ธารณา คชเสนี นายหมวดตรี น้ำเพชร คชเสนี สัตยารักษ์ และ ดร.ลักษิกา เจริญศรี พร้อมกำลังพลทหารผู้ช่วยวิทยากรอีก 30 นาย ให้ความรู้แก่ผู้เข้าร่วมอบรม ได้แก่ ครูผู้สอนวิชาประวัติศาสตร์จากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา 245 เขต
นายกมลกล่าวเปิดการอบรมตอนหนึ่งว่า กระทรวงศึกษาธิการมีหน้าที่ในการพัฒนาประชากรตั้งแต่วัยแรกเริ่ม ปลูกฝังค่านิยมที่ดีและสร้างวิวัฒนาการที่ทันสมัย รวมถึงให้ความสำคัญกับการส่งเสริม สนับสนุน การเรียนการสอนประวัติศาสตร์หน้าที่พลเมือง ศาสนาศีลธรรมและจริยธรรมมาอย่างต่อเนื่อง และได้กำหนด “โครงการผลิตทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพ สร้างจิตสำนึกความเป็นไทย” ขึ้น การอบรมในครั้งนี้จะทำให้ครูผู้สอนมีรูปแบบการจัดการเรียนการสอนประวัติศาสตร์ หน้าที่พลเมืองและศีลธรรม ให้มีความทันสมัย น่าสนใจ เหมาะสมกับวัยและบริบทของพื้นที่ และนำองค์ความรู้เรื่องความรักชาติ ศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย ไปขยายผลในการจัดกระบวนการเรียนการสอนให้กับนักเรียนได้อย่างถูกต้อง ปลูกฝังการรักในสถาบันชาติ ศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย และดำรงตนเป็นคนดีของชาติสืบไป (คลิก เพื่ออ่านข่าวการอบรม โดย สพฐ.)
โดยธีมของการอบรมตั้งชื่อตาม “อัญมณี” ทั้ง 10 อาทิ มุกดาหาร นิลกาฬ ไพลิน เพชร มรกต ไพฑูรย์ ซึ่งชื่ออัญมณีใช้แทนการอบรมและฝึกทักษะต่างๆ ที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ไทย เช่น อบรมหลักสูตร “มุกดาหาร” หัวข้อ ความเป็นมาของชนชาติไทยและประวัติศาสตร์ท้องถิ่น
อบรมหลักสูตร “นิลกาฬ” หัวข้อ เสาหลักและการดำรงอยู่ได้ของชาติไทย (1) และ (2)
อบรมหลักสูตร “เพชร” หัวข้อ พระราชประวัติ พระบุญญาธิการ พระอัจฉริยภาพ และพระราชกรณียกิจ ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10
ล่าสุด เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน นายปารมี ไวจงเจริญ หรือ ครูจวง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะกรรมาธิการและที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การศึกษาการ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีดังกล่าวทาง X ว่า จากกรณีที่ในขณะนี้มีการออกคำสั่งให้ ผอ.เขตพื้นที่ต่างๆ ในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการจัดครูสังคมศึกษาให้เข้าร่วมอบรมการสอนวิชาประวัติศาสตร์โดยมีวิทยากรเป็นทหาร ซึ่งไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านในสาขาการสอนประวัติศาตร์ หรือการสอนสังคมศึกษาโดยตรง ดิฉันเห็นว่าโครงการอบรมครั้งนี้อาจไม่เหมาะสมนัก เพราะจะกลายเป็นการอบรมให้สอนประวัติศาสตร์แบบยัดเยียดท่องจำแต่เพียงด้านเดียว ไม่ใช่การสอนประวัติศาสตร์ที่แท้จริงตามแบบนานาอารยประเทศเขาสอนกัน ที่ต้องเป็นการเรียนการสอนวิชาประวัติศาสตร์ที่เน้นไปในกระบวนการถกเถียงวิเคราะห์อย่างรอบด้านทุกมิติ และทั้งๆ ที่เราต้องการให้เด็กและเยาวชนรุ่นใหม่มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ กล้าคิด กล้าแสดงออก รู้จักคิดวิเคราะห์อย่างเป็นระบบ เพื่อเป็นพลังสำคัญในการพัฒนาประเทศให้ก้าวไปข้างหน้า แต่เรากลับสอนวิชาประวัติศาสตร์แบบยัดเยียดท่องจำแต่เพียงมิติเดียว การศึกษาที่เรามุ่งหวัง และความหวังให้เยาวชนมีพลังสร้างสรรค์ในการพัฒนาประเทศ มันจึงสวนทางกันอย่างสิ้นเชิง
นายปารมีระบุว่า อีกประการหนึ่งเหตุใดกระทรวงศึกษาธิการไม่ใช้วิทยากรที่เป็นครูสอนประวัติศาสตร์ที่เชี่ยวชาญและมีสมรรถนะโดยตรงในด้านนี้ที่มีอยู่มากมายในโรงเรียนต่างๆ ในสังกัด สพฐ. หรือบรรดาอาจารย์สอนประวัติศาสตร์ในมหาวิทยาลัยต่างๆ ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญสาขาประวัติศาสตร์โดยตรงมาเป็นวิทยากรอบรม การกระทำเช่นนี้นอกจากจะเป็นการใช้งบประมาณที่ไม่มีประสิทธิภาพแล้วนั้น การให้ครูเข้าร่วมอบรมกับผู้ที่ไม่มีสมรรถนะและทักษะด้านการสอนประวัติศาสตร์ซึ่งเป็นศาสตร์เฉพาะด้าน ดิฉันคิดว่าผลลัพธ์ที่ได้จะไม่คุ้มกับงบประมาณและทรัพยากรที่ลงทุนไป และยังเป็นการเพิ่มภาระงานครู ดึงครูออกนอกห้องเรียนอีกด้วย ซึ่งดิฉันจะใช้กลไกกรรมาธิการการศึกษา สภาผู้แทนราษฎร เรียกผู้บริหาร สพฐ. เข้ามาชี้แจงเรื่องนี้ให้กระจ่างแจ้งต่อไปค่ะ
จากกรณีที่ในขณะนี้มีการออกคำสั่งให้ ผอ.เขตพื้นที่ต่าง ๆ ในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการจัดครูสังคมศึกษาให้เข้าร่วมอบรมการสอนวิชาประวัติศาสตร์โดยมีวิทยากรเป็นทหาร ซึ่งไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านในสาขาการสอนประวัติศาตร์หรือการสอนสังคมศึกษาโดยตรง… pic.twitter.com/0NHJ3NuzmK
— ปารมี ไวจงเจริญ Paramee Waichongcharoen (@AjJuang) June 2, 2024
