ปลัด มท.ออกโทรสารด่วน เร่ง ผวจ.ในพื้นที่ภัยแล้ง ตรวจสอบข้อเท็จจริงหลังสื่อนำเสนอข่าว ขาดแคลนน้ำขั้นวิกฤต แนะหาแหล่งน้ำสำรองหากไม่เพียงพอ ระบุเฝ้าระวัง. กปภ. 11 สาขา ชี้หากเกินขีดความสามารถจังหวัด ให้ขอความช่วยเหลือจากส่วนกลาง
เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย ออกโทรสารในราชการกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ระบุว่าด้วยสถานการณ์ภัยแล้งที่มีความรุนแรงขึ้นตามลำดับ และสื่อมวลชนได้นำเสนอข่าวขาดแคลนน้ำในหลายพื้นที่ จึงขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดดำเนินการดังนี้ 1.จังหวัดที่สื่อมวลชนเสนอข่าวว่าน้ำขาดแคลนน้ำแล้วขั้นวิกฤตคือจังหวัดพิจิตร เลย นครสวรรค์ หนองคายและแพร่ จึงขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง และในส่วนจังหวัดมีการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ตามที่สื่อมวลชนเสนออย่างไร ให้แจ้งกระทรวงมหาดไทยรับทราบ 2.สั่งการให้นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดชุดปฏิบัติการร่วมตรวจสอบตามแหล่งน้ำเพื่อป้องกันไม่ให้มีการปิดกั้นหรือลักลอบสูบน้ำเพื่อการผลิตน้ำประปา 3.หากพบว่าปริมาณน้ำในแหล่งน้ำที่สำรองเหลือน้อยให้ดำเนินการหาแหล่งน้ำสำรองใหม่แล้วใช้เครื่องสูบน้ำเข้าแหล่งเก็บกักน้ำ หรือแจกจ่ายน้ำให้กับประชาชน เพื่อป้องกันไม่ให้มีการร้องเรียนหรือนำเสนอข่าวสารที่มีลักษณะขาดแคลนน้ำหรือหน่วยราชการไม่ให้ความช่วยเหลือ และ 4.ให้จังหวัดที่รับแจ้งว่ามีสาขาการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) มีความเสี่ยงต่อการขาดแคลนน้ำ 11 สาขา และเฝ้าระวังจำนวน 51 สาขา รวมถึงจังหวัดในภาคเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ กลางและตะวันออก ซึ่งได้ประกาศเขตให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยแล้ง) ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดหากเกินขีดความสามารถของจังหวัดให้ขอรับการสนับสนุนจากส่วนกลาง
