โรม ชี้หาก ‘ทักษิณ’ คัมแบ๊กการเมือง ต้องอยู่ภายใต้กติกา
เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ต่อกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เตรียมตัวเข้ามาทำงานในช่วงเดือนสิงหาคม หลังจากการพ้นโทษอย่างเป็นทางการ ว่า เป็นสิทธิของนายทักษิณที่ทำได้ หากเป็นไปตามมกฎหมาย ทั้งนี้การตั้งดังกล่าวหากเป็นจริงต้องไม่ขัดกับกฎหมายย แต่ตนไม่ทราบรายละเอียดต้องไปพิจารณาอีกครั้งว่าทำได้มากน้อยแค่ไหน
อย่างไรก็ดีในทางการเมืองมีฝ่ายที่คัดค้านกับบทบาทของนายทักษิณ แต่หากนายทักษิณมีความรับผิดชอบบางอย่างอย่างเป็นทางการและตามกฎหมาย พรรคก้าวไกลฐานะฝ่ายตรวจสอบพร้อมจะตรวจสอบ อำนาจ การใช้งบประมาณว่าถูกต้องหรือไม่
นายรังสิมันต์ กล่าวด้วยว่าในมุมมองของตน มองว่าบทบาทของนายทักษิณที่ลงพื้นที่และมีรัฐมนตรีเดินตาม ทำให้เกิดคำถามว่า ใครคือนายกฯ ตัวจริง เพราะเมื่อมีรัฐมนตรีเดินตามนายทักษิณ ไม่ส่งผลดีต่อนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ แน่นอน
เมื่อถามว่าการเดินสายของนายทักษิณ มีมิติที่ส่งสัญญาณใดๆ ในทางการเมืองหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า คนที่เฝ้ามองการเมืองยอมรับว่าคงคิดมาก แต่ปฏิเสธวาระเชื่อมโยงทางการเมืองไม่ได้ ทั้งนี้ฐานะที่ตนเป็น สส.ทำงานในสภา ให้ความสำคัญกับประเด็นการทำงาน หากต้องเปลี่ยนแปลงนโยบายหรือดำเนินนโบายบางอย่างเพื่อประโยชน์ประเทศ ประชาชน ต้องคุยกับใคร
“เป็นเรื่องสำคัญของประเทศ หากมีลักษณะ ที่มีนายกฯ สองคน จะมีปัญหาต่อกรบริหารราชการรแน่นอน เช่น สมัยก่อนที่เมียนมา พบว่ามีอองซาน ซูจี เป็นผู้ที่มีบทบาท แต่เป็นนายกฯไม่ได้ ซึ่งเป็นภาวะที่ดูไม่ปรกติ ผมไม่รู้ว่า คุณทักษิณคิดโมเดลแบบนี้หรือไม่ แต่หากไม่ว่าจะใช้โมเดลไหน ประเทศมีปัญหาแน่นอน” นายรังสิมันต์ กล่าว
เมื่อถามว่าการเคลื่อนไหวของนายทักษิณมองว่า ส่งผลถึงพรรคก้าวไกลหรือไม่ทั้งในการเมืองท้องถิ่นหรือระดับชาติ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า การเมืองท้องถิ่น หรือระดับชาติต้องว่าตามมกติกา โดยในยุคนี้ประชาชนอยากเห็นการเมืองมีสถียรภาพ การเมืองที่ไม่ได้เล่นละคร ต้องตรงไปตรงมา ซึ่งจุดขายของพรรคก้าวไกล คือ ทำหน้าที่ตรงไปตรงมา ซึ่งได้รับการตอบสนองที่ดีจากประชาชน คนอยากเห็นการเมืองลักษณะแบบนี้
หากเป็นผู้ใช้อำนาจต้องใช้อำนาจอย่างตรงไปตรงมา เป็นการเมืองแบบชักใย มีคนที่ใช้อำนาจ แต่อีกคนที่รับผิดชอบทำให้การบริหารราชการมีปัญหา ตนเชื่อว่าประชาชนไม่อยากเห็นการเมืองแบบนี้ หากนายทักษิณมีตำแหน่ง ทางการเมือง ซึ่งไม่แน่ใจว่าแบบไหน นายทักษิณต้องอยู่ภายใต้การตรวจสอบ ทั้งนี้ตนมองว่าวันนี้สังคมรู้สึกว่า ระหว่างนายเศรษฐา กับ นายทักษิณ ใครมีอำนาจมากกว่ากัน
เมื่อถามย้ำว่ามีคนมองว่าการเดินสายของนายทักษิณคือการช่วงชิงมวลชนจากก้าวไกล นายรังสิมันต์ กล่าวว่า การแข่งขันเพื่อชิงมวลชน หรือ นโยบายเป็นเรื่องต้องแข่งกันทั้งสองพรรค และเป็นธรรมดาของการเมือง อย่างไรก็ดีการทำแบบนั้นต้องว่าไปตามกติกา
ยืนยันว่าในมุมมองของตน ต้องการเห็นประเทศเดินหน้า พัฒนา ฐานะฝ่ายค้าน มีบทบาทตรวจสอบ เสนอแนะ รัฐบาลทำหรือไม่ บังคับไม่ได้ อยู่ที่รัฐบาลพิจารณา และสังคมมส่งเสียง หากนายทักษิณ ประสงค์ใช้อำนาจต้องอยู่ภายใต้การตรวจสอบของฝ่ายค้านเช่นเดียวกัน