จุลพันธ์ ลุกแจง หลังฝ่ายค้าน ห่วงนำงบกลางเติม ดิจิทัลวอลเล็ต กระทบงบแก้ปัญหาอื่น
เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ 2567 ในช่วงบ่ายนั้นส.ส.ฝ่ายค้าน และส.ส.ฝ่ายรัฐบาล สลับกันอภิปราย โดย ส.ส.พรรคก้าวไกล พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายในทางเดียวกันว่าคัดค้านร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว ไม่เชื่อว่า จะทำให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจได้ เพราะโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ขาดความชัดเจน ไม่มีแหล่งงบประมาณที่ชัดเจน นอกจากการกู้เงินมาแจก รวมถึงแสดงความเป็นห่วงการนำงบกลางมาใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต จะส่งผลกระทบกับงบประมาณการแก้ปัญหาในกรณีอื่นๆ หากเกิดกรณีฉุกเฉิน เช่นภัยพิบัติ น้ำท่วม
ขณะที่ ส.ส.เพื่อไทยอภิปรายสนับสนุนการของบเพิ่มเติมปี 2567 เพื่อนำมาใช้กระตุ้นเศรษฐกิจ เชื่อว่าจะทำให้เกิดพายุหมุนทางเศรษฐกิจ อาทิ น.ส.ปิยะนุช ยินดีสุข ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การของบเพิ่มเติมปี 2567 ไม่ได้ลิดรอนเงินช่วยเหลือส่วนอื่นๆ ของประชาชน และโครงการดิจิทัลวอลเล็ตจะช่วยกระตุ้นความสามารถการลงทุน การแข่งขันให้เศรษฐกิจเติบโต นำคนเข้าสู่ระบบภาษี สร้างความเข้มแข็งให้ธุรกิจรายย่อย เป็นรากฐานทิศทาง
ต่อมาเวลา 16.00 น. นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ชี้แจงถึงโครงการดิจิทัลวอลเล็ตว่า ข้อห่วงใยเรื่องรัฐบาลจะนำงบกลางนำไปใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ตอย่างเดียวนั้น จะพิสูจน์ได้จากเหตุการณ์อ่างเก็บน้ำห้วยเชียงคำ อ.บรบือ จ.มหาสารคาม แตกทำให้เกิดน้ำท่วมใหญ่ในพื้นที่ เรื่องนี้นายกรัฐมนตรีสั่งการรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องลงไปแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วนแล้ว ในฐานะกำกับดูแลกระทรวงการคลัง ได้สั่งการไปที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.)ให้ลงพื้นที่นำถุงยังชีพไปช่วยประชาชน และสรุปความเสียหายจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อช่วยเหลือการพักหนี้เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ
“รัฐบาลนี้ไม่ได้ละเลยช่วยเหลือ เรื่องนี้จะเป็นการพิสูจน์ว่างบกลางที่นายกฯและครม.มีอยู่ จะบริหารจัดการช่วยเหลือประชาชนอย่างไร จะได้เห็นกัน เชื่อว่านายกฯเตรียมความพร้อมแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าแล้ว” นายจุลพันธ์ กล่าว