‘หมอเปรม’ ชี้ ไม่ควรรวมก๊วนต่อรองเลือกปธ.-รองปธ.วุฒิฯ วอน 200 สว.ฟังวิสัยทัศน์ก่อนโหวต-ไม่สนใบสั่ง ชี้คนเป็นประธานสภาสูงต้องมีศักดิ์ศรี ไม่ถูกครอบงำจาก สส.-พรรคการเมือง รับหากถูกเสนอชื่อ คงเซอร์ไพรส์มาก
เมื่อเวลา 10.45 น. วันที่ 19 กรกฎาคม ที่รัฐสภา นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ ส.ว.กลุ่ม 4 สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงการเลือกประธาน และรองประธานวุฒิสภา ในวันที่ 23 ก.ค.นี้ว่า ขณะนี้มีกลุ่ม มีก๊วน ประชุมกันเพื่อที่จะรวมกลุ่มค่อนข้างมาก เรียกว่าคึกคักมาก ซึ่งตนก็ได้รับเชิญไปร่วมด้วย แต่ด้วยความเป็น ส.ว.ในยุคนี้ ตนคิดว่า ไม่ควรจะมีการรวมกลุ่มต่อรองตำแหน่งเหมือนที่ผ่านมา เพราะเรามาจากรัฐธรรมนูญเปิดโอกาสให้กลุ่มอาชีพเข้ามา ดังนั้นก็ควรที่จะให้ผู้ที่มีความประสงค์จะเป็นประธานวุฒิสภา ได้แสดงวิสัยทัศน์ในที่ประชุม ใครแสดงวิสัยทัศน์ได้เหมาะสม และมีคุณประโยชน์ต่อวุฒิสภา ก็ลงคะแนนในวันนั้นเลย การลงคะแนนเป็นไปอย่างอิสระอยู่แล้วเพราะเป็นการลงคะแนนลับ ไม่มีใครมาสั่งเราได้
“ฉะนั้นผมขอเรียกร้อง ส.ว. 200 คน อย่าไปกังวลเรื่องใบสั่ง เพราะใบสั่งที่เราต้องกังวล คือใบสั่งจากประชาชน และประชาชนอยากเห็นวุฒิสภาที่โปร่งใส และแก้ข้อครหาที่เราถูกกดดันจากภายนอก เช่น เป็นคนมุ้งนั้น มุ้งนี้ สีนั้น สีนี้ ผมคิดว่าเราต้องช่วยกันแก้ ด้วยการเลือกประธานและรองประธานวุฒิสภา อย่างโปร่งใส” นพ.เปรมศักดิ์กล่าว
เมื่อถามว่า มีกลุ่ม ส.ว.จำนวน 33 คน ไปหารือกันที่โรงแรมย่านรัชดา เกี่ยวกับตำแหน่งประธานและรองประธานวุฒิสภาได้ถูกรับเชิญหรือไม่ นพ.เปรมศักดิ์กล่าวยืนยันว่า ได้รับเชิญ แต่ไม่ได้ไป เนื่องจากอยู่ จ.ขอนแก่น เมื่อถามย้ำว่ามองอย่างไรที่มีเรื่องตัวเงินเข้ามาเกี่ยวข้องในการเลือกประธานและรองประธานวุฒิสภาครั้งนี้ นพ.เปรมศักดิ์กล่าวว่า เป็นการเมืองที่ล้าหลัง ไม่ควรมีการต่อรองในตำแหน่งต่างๆ อีกแล้ว เพราะที่ประชาชนเลือกมาตำแหน่ง ส.ว.ใหญ่ที่สุดแล้ว การเป็น ส.ว.ที่เพียบพร้อมก็ทำงานให้เกิดประโยชน์ต่อบ้านเมืองพอแล้ว ส่วนการจะได้รับตำแหน่งใดๆ ตนติดว่าอยู่ที่ที่ประชุม
นพ.เปรมศักดิ์กล่าวต่อว่า การที่เขารวมกลุ่มกัน ก็มีความประสงค์อยากจะช่วยสนับสนุนคนนั้นคนนี้ แต่จริงๆ แล้วขอให้รอฟังวันประชุมวุฒิสภาดีกว่า ซึ่งการประชุมวันดังกล่าวเป็นการถ่ายทอดสดไปทั่วประเทศ ดังนั้นอยากให้ ส.ว.ใช้ดุลพินิจ โดยที่ไม่ต้องไปกลัวที่มา ที่อาจถูกกล่าวหาว่าเป็นกลุ่มนั้นกลุ่มนี้หรือไม่ ถ้าเราลงคะแนนเสียงด้วยเหตุผล และด้วยความเป็นสมาชิกวุฒิสภาก็จะได้รับความนิยมจากประชาชนเอง และขจัดข้อกล่าวหาต่างๆ ว่าเราเข้ามาด้วยวิธีบล็อกโหวต และคิดว่าบล็อกโหวต จากอำเภอ จังหวัด และเมืองทอง จะสลายหายไปแน่นอนถ้าการเลือกประธานและรองประธานวุฒิสภาไม่มีบล็อกโหวต แต่ถ้ายังมีบล็อกโหวตอีก ก็เป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจ เพราะขนาดวุฒิสภาที่เขาบอกว่า ต้องปลอดจากพรรคการเมือง แต่เรายังเอาพรรคการเมืองมาเป็นผู้กำหนดอีก จะไปหวังอะไรได้ แต่ตนก็ยังเชื่อว่า ส.ว.ทุกคนจะคำนึงถึงสิ่งเหล่านี้
ส่วนจะมีการตั้งกลุ่มสู้หรือไม่ นพ.เปรมศักดิ์กล่าวว่า ไม่มีการตั้งกลุ่ม เพราะตนถือว่ามี ส.ว.สีขาว เป็นการประสานงาน ในกลุ่มที่คิดเหมือนกันว่าเรามาเป็น ส.ว.ด้วยความรู้ความสามารถของตัวเราไม่ได้มาจากบล็อกโหวต หรือใบสั่งใดๆ ทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นการจะเดินต่อไป เราต้องเดินอย่างโปร่งใสอย่างสีขาว ก็จะเป็นประโยชน์ ที่จะทำตามหน้าที่ต่างๆ ทั้งการกลั่นกรองกฎหมาย ซึ่งมีกฎหมายสำคัญหลายอย่างที่มีผลต่อความเป็นความตายของประชาชนและประเทศ รวมถึงการเห็นชอบองค์กรอิสระ ที่จะมีผลอย่างมากต่อประเทศชาติบ้านเมือง เรามีดุลพินิจแบบสีขาว จะมีประโยชน์มากกว่าที่จะมีสีอะไรมาครอบงำ และการควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน ดังนั้นจึงอยากเห็นวิสัยทัศน์ของคนที่จะมาเป็นประธานวุฒิสภา ที่เข้าใจระบบรัฐสภา ไม่ว่าจะเป็นการเสนอญัตติด่วน เพื่อตรวจสอบรัฐบาล การตั้งกระทู้ถามสด หรือการตั้งกรรมาธิการต่างๆ จะต้องเข้าใจระบบ ว่าจะทำเพื่อสังคมอย่างไร ตลอดจนการอภิปรายโดยไม่ลงมติด้วย
นพ.เปรมศักดิ์กล่าวต่อว่างานในหน้าที่เหล่านี้ ต้องอาศัยทักษะการทำงานสภา เพราะประธานวุฒิสภาจะต้องเป็นรองประธานรัฐสภาในการประชุมร่วมสองสภา จะต้องสามารถควบคุมการประชุมได้อย่างมีประสิทธิภาพ และต้องไม่ถูกครอบงำจาก ส.ส.และพรรคการเมือง และต้องสามารถยับยั้งในสิ่งที่ ส.ว.ไม่เห็นด้วยกับ ส.ส.ได้ จึงอยากให้คนที่จะเป็นประธานวุฒิสภา ต้องเตรียมการที่จะเข้าร่วมประชุมสองสภาเช่น การประชุมร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 ขณะนี้ ส.ว.ควรจะมีหนังสือขาวคาดแดงได้แล้ว เพื่อเตรียมตัวว่างบประมาณที่ผ่านมาจาก ส.ส.จะมีข้อติติงส่วนใด เช่น งบเพิ่มเติม จะเป็นงบประชานิยมหรือไม่ เพราะไม่ใช่ว่า ส.ส.คิดอย่างไร แล้ว ส.ว.ต้องเห็นตามเสมอไป
“ผมจึงอยากให้ทุกฝ่ายรอคอยการแสดงวิสัยทัศน์ของคนที่เป็นประธานและรองประธานฯ ก่อน อย่าให้มีบล็อกโหวตมากำกับอีกเลย เพราะจะไม่มีประโยชน์กับการทำงานอีก 5ปีต่อไป และเกียรติยศ ศักดิ์ศรีของผู้ที่ตำแหน่งตำแหน่งประธานและรองประธานยังอยู่อีก 5 ปี อย่าคิดเพียงแค่การที่มีคนและนำหรือมีมติอะไรต่างๆ มาทำให้เราต้องตัดสินใจเบี่ยงเบนผลประโยขน์ของประชาชน” นพ.เปรมศักดิ์กล่าว
เมื่อถามว่า รายชื่อที่ออกมาว่าจะเป็นประธานและรองประธานวุฒิสภารับได้หรือไม่ นพ.เปรมศักดิ์กล่าวว่า ตนรับได้ทุกคน แต่ขอให้ที่ประชุมมีมติออกมาเห็นชอบด้วยกัน อย่าลงมติก่อนล่วงหน้า ขอให้ฟังวิสัยทัศน์ก่อนโหวต อย่างไรก็ตามส่วนตัวก็มีผู้ที่อยากเป็นมาขอคะแนน ด้วยการกินข้าว กินกาแฟ ขอความเห็นส่วนตัว แต่จะเอาความสนิทส่วนตัวหรือผลประโยชน์ส่วนตัวมาแลก ตนไม่เอา
ต่อข้อถามว่าหากที่ประชุมเสนอชื่อ นพ.เปรมศักดิ์ เป็นประธานหรือรองประธานวุฒิสภาจะรับหรือไม่ นพ.เปรมศักดิ์ย้อนถามว่า จะมีถึงขนาดนั้นเลยหรือ และตนไม่ได้อยู่กลุ่มไหน จะมีใครมาเสนอชื่อตน ถ้าหากมีคงเซอร์ไพรส์มาก