“นพดล” ยังกั๊กลงชิง รองปธ.วุฒิฯคนที่สอง บอกขอเช็กเสียงอีกรอบ หาก 23 ก.ค.เสียงหนุนน้อยก็บาย แต่พร้อมนั่ง โว สามารถขับเคลื่อนสภาได้ดีมีประสิทธิภาพ
เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2567 นายนพดล อินนา ส.ว. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีชื่อลงชิงตำแหน่งรองประธานวุฒิสภาว่า แล้วแต่มวลสมาชิกจะเสนอชื่อ ถ้าเขาเสนอตนก็พร้อมทำงาน ทั้งนี้ยอมรับว่ามีการพูดคุยกันที่จะเสนอชื่อลงชิงตำแหน่งรองประธานวุฒิสภาคนที่หนึ่ง แต่ก็ต้องดูในวันประชุมด้วย ส่วนใครจะมาเป็นประธานวุฒิสภานั้น ตนยังไม่ทราบ เพราะยังไม่ได้คุยกัน
เมื่อถามว่า มวลสมาชิกที่สนับสนุนเป็นกลุ่มไหนบ้าง นายนพดลกล่าวว่า ส่วนใหญ่ เป็นกลุ่มอิสระ ทั้งนี้เราไม่ได้เจาะจงว่าจะต้องเป็นกลุ่มไหน แต่เป็นกลุ่มทั่วๆ ไป เนื่องจากตนมาจากอิสระตั้งแต่แรก และตนยังอยากเห็นการทำงาน ตั้งแต่แรก และตนยังอยากเห็นการทำงานของวุฒิสภาเป็นในแนวสมานฉันท์ ฉะนั้นใครเชิญมาอย่างไร ส่วนใหญ่ตนก็จะไปเพื่อที่จะทำความรู้จักกับทุกท่าน วัตถุประสงค์คือต้องการรู้จักจริงๆ เพราะกว่าจะรับรองและเลือกมา รายงานตัวมีเวลาสั้นมากที่จะทำความรู้จักกับทุกท่าน ดังนั้น เมื่อกลุ่มไหนเชิญมาตนก็ยินดีไปพูดคุย ทำให้การทำงานของวุฒิสภาเกิดความราบรื่น เพราะฉะนั้น การทำความรู้จักกันแบบสังคมไทยทั่วๆ ไปก็จะทำให้การทำงานร่วมกันได้ดีขึ้น
ต่อข้อถามว่า เท่าที่ได้พูดคุยกันมีเปอร์เซ็นต์ที่จะได้รับการสนับสนุนให้เป็นรองประธานวุฒิสภาคนที่หนึ่งจำนวนมากหรือไม่ นายนพดลกล่าวว่า เรื่องนี้ต้องดูอีกที เพราะถ้าประเมินแล้วเสียงส่วนใหญ่ สนับสนุนตนก็ยินดี แต่ถ้าในวันที่ 23 กรกฎาคมนี้ เสียงยังมีไม่มากพอ ตนก็คงจะไม่เข้าไปสู่การเสนอชื่อ เพราะเราโหวตตัวเองได้คะแนนเดียว ที่เหลือสมาชิก 199 คะแนน จะเลือกหรือไม่ แต่ถ้าดูแล้วหลายท่านอยากสนับสนุนให้ตนไปทำหน้าที่ก็ยินดีด้วยความพร้อม
“เพราะว่า ผมก็อยู่สภาผู้แทนราษฎรมา 4 ปี เคยบริหารมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในฐานะรองอธิการบดี และอยู่ภาคเอกชน ภาคนักวิชาการมา ก็น่าจะมีความพร้อม และเข้าใจทุกภาคส่วน ก็น่าจะมาทำงานตรงนี้ได้ดี” นายนพดลกล่าว
เมื่อถามว่า หากประธานวุฒิสภา เป็นตำรวจหรือทหาร สามารถทำงานร่วมกันได้หรือไม่ นายนพดลกล่าวว่า ด้วยบุคลิกลักษณะของตนเป็นคนที่เข้ากับคนง่ายและประนีประนอม เพราะฉะนั้นไม่ว่าประธานวุฒิสภาจะมาจากส่วนไหน ตนก็ทำงานร่วมด้วยได้ เพราะตนเชื่อว่าท่านที่มาทำงานใน ส.ว.200 คน เชื่อว่าทุกคนตั้งใจมาทำงานเพื่อประเทศชาติและประชาชน เวลา 5 ปี จะว่าสั้นก็สั้น จะว่ายาวก็ยาว ดังนั้นตนคิดว่าทุกคนมีความตั้งใจดีที่จะมาทำงาน คิดว่าน่าจะเป็นการทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดี
เมื่อถามว่าได้เตรียมการแสดงวิสัยทัศน์ที่จะต้องแสดงต่อที่ประชุมไว้แล้วหรือยัง นายนพดลกล่าวว่า เรื่องวิสัยทัศน์สำหรับตนเนื่องจากเป็นอาจารย์มาก่อน และเคยอยู่สภามาแล้ว ดังนั้นการเสนอวิสัยทัศน์คงจะไม่ยากสำหรับตน เพราะเราทราบปัญหาดี ว่าการประชุมสภาเป็นอย่างไร และการที่จะขับเคลื่อนสภาไปให้ได้ดีมีประสิทธิภาพจะต้องทำอย่างไรบ้าง เพราะฉะนั้นการแสดงวิสัยทัศน์น่าจะไม่มีปัญหาสำหรับตน
“การลงคะแนนเป็นการลงคะแนนลับ ผมยังคิดว่าการแสดงวิสัยทัศน์ที่ดี และแสดงให้เห็นว่าเราจะมาทำอะไรให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติประชาชนอย่างเป็นกลาง และเป็นความหวังของพี่น้องประชาชน ผมคิดว่าสมาชิกคงพิจารณาถึงจุดนี้ด้วย ไม่ว่าท่านจะมาจากกลุ่มวิชาชีพไหน เพราะทุกคนตั้งใจมาทำงานเพื่อประชาชนและประเทศชาติ ไม่เช่นนั้นแล้วเขาคงไม่สมัครมาเป็น ส.ว.” นายนพดลกล่าว
ส่วนที่รองประธานวุฒิสภาคนที่สอง มีชื่อของนายบุญส่ง น้อยโสภณ ส.ว.นั้น นายนพดลกล่าวว่า ตนทราบมาแบบนั้น แต่ยังไม่ได้ถามท่านโดยตรง ส่วนจะมีรองประธานวุฒิสภาเป็นผู้หญิงหรือไม่ ตนไม่ทราบ แต่สุภาพสตรีก็ดี เพราะตนให้ความเสมอภาคทั้งสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี เพราะฉะนั้นตนคงไม่ไปวิพากษ์วิจารณ์ใคร เพราะสุภาพสตรีก็มีสิทธิที่จะมาทำหน้าที่ตรงนี้