พิธา อ้อนคนเชียงใหม่ใช้สิทธิ์เลือก นายก อบจ.หวังสร้างปรากฎการณ์เหมือนเลือกตั้ง ส.ส.ปี 66

พิธา อ้อนคนเชียงใหม่ ออกมาใช้สิทธิ์เลือก นายก อบจ. หวังสร้างปรากฎการณ์เหมือนเลือกตั้ง ส.ส.ปี 66 กวาดเก้าอี้ได้กว่า 7 เขต จากทั้งหมด 10 เขต ยกว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ.จากก้าวไกล เป็นนายกนักนวัตกรรม เชื่อจะสร้างความแตกต่างให้การเมืองท้องถิ่น

เมื่อเวลา 17.20 น. วันที่ 20 กรกฎาคม ที่โครงการเจ สเปซ อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคก้าวไกล กล่าวปราศัยปิดงาน “ก้าวไกล Policy Fest เชียงใหม่เอาแต้” โดยมีสมาชิกพรรคก้าวไกลและผู้สนับสนุนเข้าร่วมกิจกรรมจำนวนมาก

โดยนายพิธา ได้เรียกร้องให้ชาวเชียงใหม่ออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ (อบจ.) ซึ่งพรรคก้าวไกลได้ส่ง ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ เป็นผู้สมัครลงสู้ศึกเลือกตั้งนายก อบจ.ที่จะเกิดขึ้นราวต้นปี 2568 นี้

นายพิธา กล่าวว่า อยากให้ชาวเชียงใหม่ออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เหมือนครั้งสุดท้ายที่ทำให้การเมืองเป็นไปได้ในเชียงใหม่ นั้นคือการเลือกตั้ง ส.ส.เมื่อปี 2566 ที่พรรคก้าวไกลชนะเลือกตั้ง ได้ ส.ส.มา 7 เขต จากทั้งหมด 10 เขต จึงอยากให้เกิดขึ้นอีกครั้งกับการเลือกตั้งนายก อบจ.ที่จะมีขึ้นต้นปีหน้า คำถามแรกที่อยากให้ชาวเชียงใหม่ช่วยกันคิด คือ ทำไมต้องออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งนายก อบจ. กันมากๆ ให้เหมือนการเลือกตั้ง ส.ส.ทั่วประเทศ เพราะการเลือกตั้งท้องถิ่นไม่มีการเลือกเลือกตั้งล่วงหน้า และการเลือกตั้งข้ามเขต

ขณะที่การเลือกตั้งนายก อบจ.ปทุมธานี มีคนออกมาใช้สิทธิ์เพียงครึ่งเดียว เมื่อเทียบกับการเลือกตั้ง ส.ส.ที่มีผู้ออกมาใช้สิทธิ์กันกว่าร้อยละ 76 ตัวเลขที่หายไประหว่างการเลือกตั้งระดับประเทศ และระดับจังหวัด ทั้งที่มีความสำคัญไม่แตกต่างกัน

ADVERTISMENT

นายพิธา กล่าวอีกว่า จากการลงพื้นที่เปิดตัวผู้สมัคร นายก อบจ.ลำพูนเมื่อวานนี้ ได้เปรียบเทียบข้อมูลตัวเลขพบว่ามีผู้ออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งระดับประเทศ 250,000 คน ส่วนเลือกตั้งท้องถิ่น 240,000 คน ถือว่าตัวเลขใกล้เคียงกัน แต่ตัวเลขผู้ออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งนายก อบจ.เชียงใหม่เมื่อปี 2563 มีผู้ออกมาใช้สิทธิ์เพียง 800,000 คน จากผู้มีสิทธิ์ประมาณ 1,000,000 คน จึงรู้สึกกังวล เพราะความเป็นไปได้ที่เคยทำสำเร็จร่วมกันเหมือนการเลือกตั้งใหญ่ปี 2566 อาจไม่เกิดขึ้น ถ้าชาวเชียงใหม่มองการเลือกตั้งนายก อบจ.ไม่สำคัญ และไม่กลับมาใช้สิทธิ์ สิ่งที่เคยเป็นไปได้อาจเป็นไปไม่ได้ขึ้นมา

“อยากให้พี่น้องช่วยกันว่า การเลือกตั้งนายก อบจ.เป็นการเลือกตั้งสำคัญไม่แพ้ระดับชาติ เพราะงบประมาณของ อบจ.สูงกว่า 1,800 ล้านบาท รวมทั้งประเทศมากถึง 66,000 ล้านบาท เป็นภาษีของประชาชนทุกคน หากไม่ออกไปใช้สิทธิ์และได้คนที่เราไม่ต้องการมา คนที่ได้รับเลือกจะนำงบประมาณ 1.800 ล้านบาทไปบริหารโดยไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชน ชาวเชียงใหม่จะยอมหรือไม่ ขณะที่ผู้ว่าราชการยังไม่เลือกตั้งไม่ได้ การกระจายอำนาจยังไม่เกิด  แม้พรรคพยายามผลักดันกฎหมายกระจายอำนาจแต่ก็ถูกโหวตคว่ำ ดังนั้นหากต้องการได้นายกน้อยของชาวเชียงใหม่ ก็ต้องมาช่วยกันเลือกนายก อบจ.”นายพิธากล่าว

นายพิธา กล่าวอีกว่า หากชาวเชียงใหมา รวมพลังให้ได้ 460,000 คะแนน เชื่อว่าเราจะชนะทันที และนายก อบจ.เชียงใหม่คนต่อไปจะชื่อ ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ แน่นอน ซึ่งดร.พันธุ์อาจคือนายกนักนวัตกรรม เชื่อว่าคำนิยามนี้ไม่สามารถนำใส่กับแคนดิเดตนายก อบจ.คนอื่นๆได้ เพราะ ดร.พันธุ์อาจ เป็นนักการเมืองพันธุ์ใหม่ ที่จะสร้างความแตกต่างให้กับการเมืองท้องถิ่นได้อย่างแน่นอน

จากนั้นนายพิธา ได้ถ่ายภาพร่วมกับ ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ว่าที่ผู้สมัคร นายก อบจ. เชียงใหม่ พร้อมว่าที่ผู้สมัคร ส.อบจ.เชียงใหม่ และ ส.ส.เขตจากภาคเหนือที่เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้