“อนุสรณ์” ชี้ยุบหรือไม่ยุบ กก.แค่ฉากทัศน์เฉพาะกรณี ไม่ควรเชื่อมโยงทุกมิติ
เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2567 นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวกรณีหลังวันที่ 7 สิงหาคม พรรคร่วมรัฐบาลบางพรรคเตรียมเปิดตัว ส.ส.เพิ่ม 10 คนว่า แม้จะเป็นพรรคร่วมรัฐบาล แต่ถือเป็นกิจการภายในของแต่ละพรรค ก็เป็นแนวทาง และเป็นสิทธิที่แต่ละพรรคจะสามารถดำเนินการได้ ส่วน ส.ส.ที่เตรียมจะนำมาเปิดตัวเพิ่มอีก 10 คนนั้นจะมาจากพรรคไหนก็ต้องไปถามพรรคที่จะเปิดตัวเองว่าจะนำ ส.ส. 10 คนมาจากไหน พรรคเพื่อไทยไม่มีนโยบายที่จะดูด ส.ส.จากพรรคอื่น เพราะมี ส.ส.ในจำนวนที่เพียงพอที่จะสามารถขับเคลื่อนผลักดันกฎหมายสำคัญๆ ผ่านสภาได้อยู่แล้ว โดยส่วนตัวไม่อยากให้โยงการยุบ หรือไม่ยุบพรรคก้าวไกลไปกับทุกฉากทัศน์ทางการเมืองที่กำลังจะเกิดขึ้นไปทั้งหมดทุกฉากทัศน์
นายอนุสรณ์กล่าวต่อว่า เมื่อผลคำวินิจฉัยออกมา ส่วนใดต้องดำเนินการก็ดำเนินการเป็นส่วนๆ ไป ไม่เกี่ยวโยงกัน เช่น กรณีพรรคถูกยุบ ส.ส.จะต้องหาพรรคสังกัดใหม่ให้ได้ภายใน 60 วัน 11 กรรมการบริหารพรรคต้องถูกตัดสิทธิทางการเมือง รองประธานสภาที่อาจต้องพ้นหน้าที่ไป จะมีขั้นตอนการดำเนินการต่อจากนี้อย่างไร ถือเป็นฉากทัศน์ที่เกี่ยวข้องเฉพาะกรณียุบหรือไม่ยุบพรรคก้าวไกลเท่านั้น ไม่เกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทย และไม่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล ส่วนการดำเนินการของแต่ละพรรคจากกรณีนี้ต้องไปถามจากแต่ละพรรคเอง และถือเป็นสิทธิของแต่ละพรรคที่จะมีแนวทางการดำเนินการออกมาจากกรณีนี้ต่อไปอย่างไร
นายอนุสรณ์กล่าวกรณี ส.ว.สายสีน้ำเงินยึดสภาสูง ผลัก ส.ว.สายสีส้มออกนอกวง เตรียมพลิกกระดาน ผลักดันนายกฯสำรองว่า ส.ว.จะมีการแบ่งกลุ่มตามข่าวหรือไม่ ส.ว.สีใด สายไหน กลุ่มใด จะมีบทบาทมากหรือน้อย ก็คงต้องปล่อยให้เป็นไปตามกลไกและกติกาตามรัฐธรรมนูญ เพราะทุกอย่างมาจากผลลัพธ์ของกติกาที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ พรรคเพื่อไทยยึดมั่นและปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ ที่ไม่ให้พรรคการเมืองเข้าไปแทรกแซงและยุ่งเกี่ยวตั้งแต่กระบวนการได้มาซึ่ง ส.ว. ส่วนการทำงานระหว่างสภากับวุฒิสภา ก็เป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด
ดังนั้น ส.ว.กลุ่มใดจะยึดหรือไม่ยึดสภาสูงก็เป็นเรื่องที่ต้องไปว่ากันเอง หากเห็นว่ากระบวนการได้มาซึ่ง ส.ว.แนวทางนี้ไม่ตอบโจทย์ ไม่ได้คนที่มีความรู้ความสามารถ ไม่ตรงปก ไม่ตรงกลุ่ม ไม่ยึดโยงกับประชาชน ก็สามารถเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ ซึ่งการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ต้องทำในที่ประชุมร่วมของรัฐสภาคือ ส.ส.และ ส.ว. นอกเหนือจากนั้น ส.ว.ชุดนี้ก็จะมีบทบาทการรับรองผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ แต่จะไม่มีสิทธิโหวตเลือกนายกฯร่วมกับ ส.ส. ดังนั้น จะพลิกเกมพลิกขั้วอย่างไรก็ไม่สามารถผลักดันนายกฯสำรองได้ และทุกฝ่ายควรให้โอกาส ส.ว.ชุดนี้ได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ในบทบาทหน้าที่ของตัวเองก่อน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- พท.จ่อชงร่าง กม.สุราชุมชน เข้าสภาฯ หวังสร้างหลักประกันทางโอกาส แก่ผู้ประกอบการรายย่อย
- วิสุทธิ์ กราบขอบคุณคนพิษณุโลก เติม 1 เสียงให้รบ. โวเลือกตั้งที่ไหน เพื่อไทยพร้อมไปหมด
- ภูมิธรรม ขอบคุณชาวพิษณุโลก ไว้ใจเลือกคนเพื่อไทย นั่งส.ส.เขต1 สะท้อน วางใจทำงานรัฐบาล
- เท้ง น้อมรับแพ้เพื่อไทย เลือกตั้งซ่อม ส.ส.พิษณุโลก ไม่มีสิ่งใดต้องเสียใจ ทุกคนเต็มที่แล้ว