“สมคิด” ปาฐกถาส่องเศรษฐกิจ 4.0 ปีไก่ทอง กระทุ้งเจ้าสัวไทยซื้อกิจการอาหารในยุโรป

เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ที่โรงแรมพูลแมน ซอยรางน้ำ กทม.บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) จัดงานเสวนาหัวข้อ “ก้าวที่ 40 มติชน ก้าวคู่ประเทศไทย 4.0” โดยมี นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี  กล่าวปาฐกถาพิเศษหัวข้อ ส่องเศรษฐกิจ 4.0ปีไก่ทอง ท่ามกลางผู้ร่วมงานคับคั่งจากหลากหลายวงการ ไม่ว่าจะเป็น นักธุรกิจ ผู้ประกอบการ อดีตส.ส. ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

นายสมคิดกล่าวว่า เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2560 สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) ประกาศตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาสสุดท้ายปี 2559 อยู่ที่ 3% เฉลี่ยทั้งปีโต 3.2% ตนพอใจ เพราะปีที่แล้วไทยเผชิญปัญหาเศรษฐกิจโลก ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ภัยธรรมชาติ ประกอบกับตัวเศรษฐกิจโลกต่ำมาก สิงคโปร์เหลือเพียง 2% แต่ไทยไต่ระดับจากปี 2557 โต 0.89 ปี 2558 โต 2.9 และปี 2559 โต 3.2 จึงถือว่าน่าพอใจมาก เป็นระดับการเติบโตที่ควรรักษาไว้

“ตอนที่เข้าผมมาทำงานเศรษฐกิจไทยแผ่วมาก ถ้าเราไม่กระชากขึ้นมา ปล่อยให้ทรุดลงจะกระชากขึ้นยาก ความมั่นใจก็ไม่มี แต่ผมเชื่อว่าไทยมีบุญอยู่อย่างหนึ่ง พอเกิดวิกฤตหลาย เราสามารถเปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาสได้หลายครั้ง”นายสมคิด กล่าว

นายสมคิด กล่าวต่อว่า ขณะนี้เศรษฐกิจเริ่มแนวโน้มที่ดีขึ้น ในปีนี้เราพยายามทำให้ดีที่สุด เพราะเศรษฐกิจโลกเริ่มดีขึ้นคาดว่าจะโต 3.4% การค้าโลกโต 3.6% ถามว่าๆไทยจะเป็นเท่าไหร่ตนไม่ใช่นักเศรษฐศาสตร์คงจะไม่ประเมิน แต่บอกได้ว่ามีแนวโน้มที่ดีจาก เพราะมีสัญญาณที่ดีจากเศรษฐกิจในสหรัฐที่จะมีแนวโน้มที่ดี ประเทศในยุโรป(อียู) ประคองตัว ญี่ปุ่นเริ่มดีขึ้น จีนไม่น่าแย่มีแนวโน้มจะโต 6-7% อาเซียนโดยเฉพาะซีแอลเอ็มวีโตเร็วมาก ประเทศนี้เป็นคู่ค้าของไทย โดยอาเซียนมีสัดส่วน 25% ของการส่งออกไทย ซึ่งการส่งออกของไทยนั้นประเมินว่าปีนี้จะโต 3-4% แต่การทำงานของตนไม่ทำตามกระแส เช่น ต้องเร่งรัดการส่งออกไปจีนเพิ่มขึ้นในมณฑลใหม่ๆ ไปหาตลาดใหม่ในอินเดียยังมีอำนาจซื้อมหาศาล

Advertisement

นายสมคิด กล่าวว่า จากนี้ไปการค้าโลกสำคัญมาก เราต้องไปเป็นหุ้นส่วนธุรกิจกับเขา ตนเดินเส้นทางนี้มาตลอดไม่ว่ากับจีนหรือ ญี่ปุ่น ส่วนเขตการค้าเสรี(เอฟทีเอ) เกิดที่หลัง คิดว่าล้าสมัยไปแล้ว ข้างหน้าต้องดำเนินการในเชิงยุทศาสตร์ไปเจาะตลาดการค้าที่เราเด่นๆ เช่น ญี่ปุ่น เจาะตลาดให้มากขึ้น ในอเมริกาจะต้องมาดูสินค้าอะไร ที่จะเจาะไปได้ ตนมองว่าหัวใจสำคัญคือธุรกิจอาหาร อาหารแปรรูป

“เมื่อวันก่อนผมนั่งทานข้าวกับกลุ่มเจ้าสัวซีพี มีเจ้าสัวมาหลายคัน ผมเห็นเซ็ลทรัล บิ๊กซี เดอะมอลล์ยิ่งใหญ่มากและเริ่มไปสู่เออีซีแล้ว ก็คิดว่าทำไมไม่คิดซื้อกิจการขายอาหารสำเร็จรูปในยุโรป เพื่อให้สินค้าไทยสามารถไปขยายตลาดในยุโรปได้ ผมเห็นในอเมริกา คนที่ไปซื้อกิจการมีเวียดนาม เกาหลี ทำให้เป็นช่องทางส่งสินค้าไปยังประเทศดังกล่าวได้ ขณะที่ไทยไปวางบนชั้นในช่องหลังๆ ไม่ได้รับการโปรโมท เจ้าสัวเจริญ(นายเจริญ สิริวัฒนภักดี) บอกว่าเมื่อผมขอ เขาก็จะไปดูให้”นายสมคิด กล่าว

 

Advertisement

4.0-1

Somkit02

4.0

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image