สภาขานชื่อ 493 ส.ส.ทีละคน ลงคะแนนโหวตหานายกฯคนที่ 31 ผู้ชนะต้องได้ 248 เสียงขึ้นไป

แฟ้มภาพ

สภาขานชื่อ 493 ส.ส.ทีละคน ลงคะแนนโหวตหานายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ผู้ชนะต้องได้ 248 เสียงขึ้นไป

เมื่อวันที่ 16 สิงหาคมที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการผู้แทนราษฎรในเวลา 10.00 น.  จะมีการประชุมจัดวาระพิเศษ เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคล ซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 159 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เป็นการนัดประชุมโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้นายเศรษฐา ทวีสิน พ้นจากการเป็นนายกรัฐมนตรี เนื่องจากกรณีการแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทั้งที่มีคุณสมบัติต้องห้าม

โดยที่ประชุมสภาในส่วนของพรรคเพื่อไทยเตรียมเสนอชื่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นไปตามมติที่ประชุมร่วมกันของพรรคเพื่อไทยกับ 11 พรรคร่วมรัฐบาล เมื่อวานนี้ (15 ส.ค.) โดยให้ความเห็นชอบ น.ส.แพทองธารเป็นนายกฯ

ปัจจุบันในสภามี ส.ส.ทำหน้าที่ 493 คน ตามขั้นตอนการเลือกนายกรัฐมนตรีจะทำโดยเปิดเผย ใช้วิธีการเรียกชื่อ ส.ส. แต่ละคน และลงคะแนนเลือกนายกรัฐมนตรี ผู้ที่ได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น ต้องมีคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวน ส.ส. ทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร หรือตั้งแต่ 248 เสียงขึ้นไป

Advertisement

ขณะเดียวกัน พรรคประชาชนหรืออดีตพรรคก้าวไกลที่ถูกยุบทิ้ง และพรรคประชาธิปัตย์ ได้แถลงข่าวแสดงจุดยืนทำหน้าที่ฝ่ายค้านต่อไป โดยที่ประชุมของพรรคประชาธิปัตย์เมื่อ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ให้งดออกเสียง และมิได้แจ้งว่าจะเสนอชื่อนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และแคนดิเดตนายกฯของพรรคประชาธิปัตย์ลงแข่ง

ส่วนนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคประชาชน พร้อม ส.ส.ร่วมแถลงจุดยืนของพรรค ขอยืนยันอุดมการทางการเมืองและจุดยืนของพรรคประชาชน ยังคงมั่นคงต่อในฐานะแกนนำพรรคฝ่ายค้าน โดยไม่มีส่วนร่วมในการโหวตสนับสนุนแคนดิเดตของพรรคเพื่อไทยเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ ส.ส.ในพรรคจะเข้าร่วมประชุม เพราะถือว่าเป็นหน้าที่ของ ส.ส.

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image