เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) แถลงภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ(กพข.)ครั้งที่ 1/2560 ว่า การประชุมครั้งนี้เพื่อวางแผนให้ประเทศมีรายได้สูงขึ้น พ้นกับดักประเทศรายได้ปานกลางสู่รายได้ที่สูงขึ้น ส่วนสำคัญคือการสร้างความเข้าใจ ว่าการดำเนินการเหล่านี้จะเกิดประโยชน์อย่างไรกับประชาชน เพื่อให้เกิดความไว้วางใจในการค้าการลงทุน ว่าประเทศไทยนั้นมีความพร้อมในหลายด้าน ทั้งการอำนวยความสะดวก ทรัพยากรมนุษย์ แรงงาน ระเบียบ กฎหมาย ซึ่งมีความพร้อมอยู่แล้ว
“ผมอยากชี้แจงเรื่องที่เป็นประเด็น จากการกล่าวอ้างว่ารัฐบาลมาในวิธีการแบบนี้ ผมยืนยันทำทุกอย่างให้ดีที่สุดกว่าที่เคยมีมา โดยเฉพาะเศรษฐกิจ ปรับโครงสร้างการปฏิรูป เรื่องเหล่านี้อาจต้องทำความเข้าใจให้มากขึ้น ปรับปรุงการสื่อสารให้ดียิ่งขึ้น พร้อมชี้แจ้งว่าในการสร้างภาพรวมของประเทศ เราไม่ได้ทำเพื่อคนรวยหรือเอื้อประโยชน์ แต่สร้างห่วงโซมาถึงคนข้างล่าง เพื่อความเข้มแข็งของภาคประชาชน ความเข้มแข็งของประเทศไม่ได้ขึ้นอยู่กับด้านเศรษฐกิจหรือธุรกิจเพียงอย่างเดียว แต่ขีดความสามารถของประชาชนมีความสำคัญ ที่สุดในการขับเคลื่อนด้วยกัน”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้รัฐบาลมีโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก(อีอีซี) ที่ได้รับความสนใจจากหลายประเทศ โดยต่างฝ่ายต่างมีความคาดหวังในการร่วมลงทุน แต่ก็ต้องสร้างความเข้าใจกับภาคประชาชน ว่าการค่าการลงทุนนั้น เป็นการเพิ่มรายได้ภาพรวมของประเทศ ที่สำคัญคือทุกคนต้องเข้าใจและมีส่วนร่วม รัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่องการป้องกันและแก้ไขการทุจริตในโครงการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการประมูล การก่อสร้าง วันนี้กำลังร่างมาตรา 44 ในเรื่องของการจัดตั้งคณะกรรมการกำกับดูแลในโครงการที่มูลค่า 5,000 ล้านขึ้นไป ที่ต้องมีการตรวจสอบตั้งแต่ขั้นต้น โดยกรมบัญชีกลางจะมีหน้าที่ในการออกกฎระเบียบใหม่ในเรื่องของราคากลาง ให้มีผู้ทรงคุณวุฒิภายนอกเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยในการกำหนดราคากลาง และไปดูในเรื่องการคิดโครงการของกระทรวงต่างๆว่ามีความเหมาะสมหรือสอดคล้องกับยุทธศาสตร์หรือไม่ เป็นโครงการที่รัฐบาล ครม.ได้อนุมัติไปแล้ว จะไปดูในเรื่องขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้าง ประกวดราคา กำหนดทีโออาร์ ทั้งหมดจะเห็นว่ารัฐบาลพยายามอย่างเต็มที่ ซึ่งต้องช่วยกันเฝ้าดูและเฝ้าระวังคนไม่ดีก็มีอยู่ทั่วไป ปิดรูรั่วให้มากที่สุด รัฐบาลนี้เอาจริงในเรื่องนี้ แต่เป็นธรรมดาเพราะหลายเรื่องเกิดมานาน ไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง ก็ค่อยๆแก้กันไปให้เร็วที่สุด
