มท.1 ยัน น้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภคมีใช้จนถึงสิ้นภัยแล้งแน่นอน พร้อมสั่งการผู้ว่าฯร่วมมือกับทุกภาคส่วน เชื่อปัญหาหมอกควันปีนี้ไม่รุนแรงเนื่องจากมีการบริหารจัดการ
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 23 กุมภาพันธ์ ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกระแสข่าวกรณีที่ต้องมีการปิดประตูน้ำกว่า 64 จุด เพื่อป้องกันน้ำเค็มขึ้น ว่า สถานการณ์ขณะนี้เท่าที่ติดตามจากผู้ว่าราชการจังหวัดแต่ละจังหวัด ยังอยู่ในสถานการณ์ที่แก้ไขปัญหาได้ทั้งเรื่องน้ำเพื่อการอุปโภค และบริโภค ส่วนภาคการเกษตรนั้น ตนได้ให้นโยบายไปว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดแต่ละจังหวัดต้องประสานงานกับทุกภาคส่วน ซึ่งหากขาดแคลนน้ำมากให้ดูแลพืชสวนให้อยู่รอดก่อน แต่หากมีจุดใดที่ได้รับความเสียหายเนื่องจากจ่ายน้ำไม่ได้ก็ต้องให้เงินเยียวยา
เมื่อถามว่า น้ำเพื่อการอุปโภค บริโภค จะอยู่ได้ถึงสิ้นหน้าแล้งนี้ใช่หรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ทุกปีก็มีปัญหาเรื่องภัยแล้ง แต่ในทุกพื้นที่ก็ดูแลได้ ทั้งนี้ ในส่วนของการจัดการน้ำคิดว่าทางกรมชลประทานน่าจะมีวิธีการของเขา เพื่อให้มีน้ำใช้ถึงเดือนพฤษภาคมปีหน้า
เมื่อถามว่า มีข่าวว่ามี 3 จังหวัดทุจริตในเรื่องการใช้งบโครงการตำบลละ 5 ล้าน พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ยืนยันว่า หากมีการทุจริตก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย และยืนยันว่า 1.3 แสนโครงการ เราพยายามทำให้รัดกุมที่สุด เรามีกฎหมายอยู่แล้ว และทุกๆ ส่วนก็ดูแลอยู่
เมื่อถามถึงการพูดคุยกับผู้ว่าราชการจังหวัดแต่ละจังหวัดเพื่อเตรียมความพร้อมเรื่องการทำประชามติ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า เร็วไปหน่อยไหมที่จะถามเรื่องนี้ ทั้งนี้ หากตนยังไม่ได้รับมอบหมายอะไรมาตนก็คงจะไม่ไปก้าวล่วง
เมื่อถามถึงสถานการณ์ปัญหาหมอกควันในภาคเหนือ พล.อ.อนุงพษ์ กล่าวว่า จากที่ตนได้เดินทางไปพื้นที่ภาคเหนือเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็เห็นว่าทุกภาคส่วนก็ได้ช่วยกัน จากเดิมที่เคยมีการนำของไปเผา เช่น ซังข้าวโพด ก็เอาไปทำอย่างอื่นแทน อย่างไรก็ตาม คาดว่าปีนี้คงไม่ค่อยรุนแรงมาก เพราะมีการบริหารจัดการ คิดว่ามีบ้างแต่ไม่รุนแรงเท่าไหร่
