‘อลงกรณ์’เผย ดำริ ‘บิ๊กตู่’ ถึง สปท. 4 ข้อ วอน แม่น้ำทุกสายทำความเข้าใจความหมาย ปชต.ให้ตรงกัน
เมื่อวันที่ 18 มกราคม ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ที่มีร.อ.ทินพันธุ์ นาคะตะ ประธานสปท. เป็นประธานการประชุม โดยก่อนเข้าวาระนายอลงกรณ์ พลบุตร รองประธาน สปท. คนที่ 1 ได้แจ้งผลการประชุมของคณะกรรมการประสานงานร่วม 3 ฝ่าย หรือ วิป 3 ฝ่าย ว่า นายกรัฐมนตรีได้มีดำริถึง วิป 3 ฝ่าย ผ่านนายสุวพันธ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานวิป 3 ฝ่าย 4 เรื่องคือ 1.อยากให้มีการประสานงานระหว่าง สปท. กับคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริการราชการแผ่นดินทั้ง 6 คณะ 2.การลงพื้นที่ของแม่น้ำสายต่าง จะต้องให้ประชาชนมีส่วนร่วม และนำความคิดเห็นของชาวบ้านมาใช้ประกอบการดำเนินงาน 3.การจะตั้งกมธ.วิสามัญ ที่มีผลต่อยุทธศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล จะต้องหารือร่วมกันก่อน เพื่อให้การทำงานสอดคล้องกัน และ4.รัฐบาลจะไม่ส่งตัวแทนเข้าร่วมกมธ.ต่างๆ หรือเข้าร่วมวิป สนช.และวิปสปท. แต่จะใช้วิป 3 ฝ่าย เป็นช่องทางการประสานงานร่วมกันเพื่อไม่ให้ถูกมองว่ารัฐบาลพยายามครอบงำการดำเนินงาน
“นายกฯยังได้มีดำริอีกว่า อยากให้ทุกฝ่ายทำความเข้าใจกับคำว่า ประชาธิปไตย ที่ไม่ได้หมายความว่าสิทธิเสรีภาพอย่างที่หลายฝ่ายเรียกร้องเท่านั้น หากจะต้องมีเรื่องของหน้าที่พลเมืองที่ประชาชนจะต้องปฏิบัติเพื่อประโยชน์ของบ้านเมือง จึงเห็นว่าควรเผยแพร่ความหมายของคำดังกล่าว เพื่อให้แม่น้ำแต่ละสายมีความเข้าใจตรงกัน” นายอลงกรณ์ กล่าว
นายอลงกรณ์ กล่าวต่อว่า การทำงานหลังจากนี้จะเป็นการขับเคลื่อนการปฏิรูป ซึ่งมีข้อเสนอจัดตั้งหน่วยงานใหม่ และร่าง พ.ร.บ.อยู่มากมาย โดยมีข้อกังวลจากสมาชิกสปท.บางคนว่า จะเป็นการเพิ่มภาระในเรื่องของงบประมาณหรือไม่ หรือทำให้หน่วยงานราชการใหญ่โตเกินไปไหม ด้วยเหตุนี้ประชุมวิป 3 ฝ่าย มีข้อยุติว่า เพื่อให้การปฏิรูปรวดเร็วทางประธานวิป 3 ฝ่าย จะจัดประชุมรับฟังความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่นคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) และสำนักงบประมาณ เพื่อจะได้ดูว่าในความเห็นอย่างไรไรต่อการจัดตั้งหน่วยงานใหม่ หรือมีความเห็นอย่างไรต่อร่าง พ.ร.บ.และการปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับวาระปฏิรูปจำนวนมาก โดยจะนำรายงานผลการประชุมมาหารือในวิป 3 ฝ่ายวันที่ 27 มกราคมนี้อีกครั้งหนึ่ง