‘ชวน’ ปัดให้ความเห็น หลังปชป.มีมติ ร่วมรัฐบาล ด้าน ‘บัญญัติ’ หนักใจทางการเมือง แต่เคารพมติพรรค รับเมื่อร่วมแล้ว ก็ต้องอยู่ในรัฐบาล ขณะที่ ‘สรรเพชญ’ ลั่นไม่ท้อ เป็นการรักษาจุดยืน ศักดิ์ศรีพรรค
เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ภายหลังการประชุมร่วมระหว่างกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรค และ ส.สของพรรคประชาธิปัตย์ และมีมติร่วมรัฐบาลถึง 43 เสียง ไม่เห็นด้วย 4 เสียง และงดออกเสียง 2 เสียง
โดยในซีกที่ไม่เห็นด้วย นายชวน หลีกภัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ ปฏิเสธการตอบคำถาม โดยยิ้มและกล่าวเพียงว่า ขอให้รอฟังแถลงมติที่ประชุมพรรค ส่วนที่ประชุมมีการแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวางใช่หรือไม่นั้น นายชวนกล่าวว่า ไม่มีอะไรในที่ประชุม มีการให้แสดงความเห็น ก็เป็นอย่างที่รู้กันอยู่ ตนและอีก 3 คนซึ่งมีการแลกเปลี่ยนความเห็นของทั้ง 2 ฝ่าย
ด้านนายบัญญัติ บรรทัดฐาน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวยอมรับว่า มีความหนักใจทางการเมือง วันนี้ถกเถียงกันมากเป็นเรื่องปกติ มีทั้งคนที่เห็นด้วยและเห็นต่าง แต่สุดท้ายก็ต้องเคารพมติที่ออกมา ส่วนบทบาทการทำหน้าที่ ส.ส.ในสภา ยอมรับว่าเมื่อร่วมรัฐบาลแล้ว เราก็ต้องอยู่ในรัฐบาล เพียงแต่ว่าถ้ารัฐบาลทำอะไรที่ไม่ถูกไม่ควร เราก็ต้องทักท้วง เพราะการตรวจสอบคนพรรคประชาธิปัตย์ทำกันอยู่แล้ว แต่คงไม่เข้มข้นเหมือนทำหน้าที่ฝ่ายค้าน และวันนี้ที่ประชุมก็ได้มีข้อเสนอแนะ ฝากไปยังรัฐมนตรีทั้งสองคน เพื่อให้นำนโยบายของรัฐไปหารือกับพรรคแกนนำ เช่นเรื่องการกระจายอำนาจ และการประกันรายได้ ว่าเวลากำหนดนโยบายให้คิดถึงนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ด้วย
ขณะที่ นายสรรเพชญ บุญญามณี สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า วันนี้ที่ประชุมคุยกันฉันพี่น้อง จนเป็นมติพรรคออกมา เมื่อถามว่าในฐานะที่เป็นคนรุ่นใหม่และคัดค้านการร่วมรัฐบาล ผลออกมาเช่นนี้ เป็นที่ยอมรับใช่หรือไม่ นายสรรเพชญกล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์อยู่ได้ด้วยมติพรรค เนื่องจากเป็นสถาบันทางการเมือง วันนี้ถือว่าทุกคนได้แสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมา และใครมีอะไรในใจก็ได้พูดออกมา ในฐานะที่เราเป็นครอบครัวพรรคประชาธิปัตย์ แต่จะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ผิดถูกอย่างไรเชื่อว่าประชาชนจะเป็นคนตัดสินในอนาคต แต่สำคัญที่สุดคือไม่มีใครผิดหรือถูก ทุกคนอยากเห็นพรรคไปข้างหน้า และมีเอกภาพ ดังนั้นการได้แสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมา จึงได้มีการลงมติ และเห็นชอบว่าจะเข้าร่วมรัฐบาล
เมื่อถามว่า ท้อหรือไม่ นายสรรเพชญกล่าวว่า เป็นการรักษาจุดยืน ของพรรคและรักษาเกียรติภูมิ ศักดิ์ศรี และสัจจะจุดยืนของพรรค ที่เคยให้กับประชาชน ซึ่งวันนี้ก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลง และไม่ได้เป็นเรื่องของความขัดแย้ง หรือสู้รบกับใคร แต่เป็นการต่อสู้กันทางความคิด และอุดมการณ์ เป็นเรื่องของผิดและถูก สิ่งไหนถูกก็ว่าถูก สิ่งไหนผิดจะว่าถูกไม่ได้ วันหนึ่งเคยพูดไว้อย่างหนึ่ง แล้ววันนี้ถ้าทำอีกอย่างหนึ่ง ก็คงจะกลับไปในพื้นที่และมองหน้าประชาชนที่เลือกตนเองมาไม่ได้ คือสิ่งที่ตัวได้พูดไป แต่สุดท้ายก็จบ และเป็นไปตามมติของพรรค จะชอบหรือไม่ชอบก็ถือว่าเป็นมติที่ตัวแทนของประชาชน ได้เลือกทางที่คิดว่าเหมาะสมที่จะเข้าร่วมรัฐบาล และเป็นไปตาม กก.บห.พรรค
ส่วนจะทำงานในพื้นที่หลังจากนี้ยากหรือไม่นั้น นายสรรเพชญกล่าวว่า ถ้าในแง่ของการทำหน้าที่ ส.ส. และนิติบัญญัติ ตลอด 1 ปีที่ผ่านมาก็ได้ทำหน้าที่มาโดยตลอด และได้ทำหน้าที่อย่างหนัก พร้อมผลักดัน โครงการและกฎหมาย ที่คิดว่ามีประโยชน์และส่งผลดีกับประชาชน และในพื้นที่ก็พยายามผลักดันโครงการต่างๆ ที่จะสามารถทำได้ในขอบเขตของ ส.ส. ตามที่กฎหมายกำหนดไว้ หลังจากนี้ก็เป็นหน้าที่ของกรรมการบริหารพรรค ที่จะได้ชี้แจงรายละเอียดต่อไป
“ดีใจที่เรื่องนี้จบได้เสียที จะได้ไม่ต้องคาราคาซังกัน จะได้ชัดเจน หมดคำว่าเป็นพรรคอะไหล่แล้ว” นายสรรเพชญกล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- จุรินทร์ เห็นด้วย พรรคร่วม ถอยจริยธรรม ชี้เดินหน้าต่อ เหมือนกอดระเบิดไว้กับตัว
- ปชป. จัดฟอรั่ม ถก วิกฤติโลกร้อน เฉลิมชัย ชี้ ปัญหาแก้ได้ หากดึงปชช.มีส่วนร่วม
- ปชป. ไม่เห็นด้วย รายงานกมธ.นิรโทษกรรม เผยยืนยันตั้งแต่ต้น ไม่นิรโทษ ม.112
- ปชป. สะกิดรัฐบาล ตรวจสอบต้นทุนน้ำมัน-ปุ๋ย หลังบาทแข็ง หวังช่วยลดค่าครองชีพประชาชน