| ผู้เขียน | สถานีคิดเลขที่ 12 |
|---|
สถานีคิดเลขที่12: ภัย‘สะสม’
เมื่อกล่าวถึง “ภัย” ของรัฐบาล
อุทกภัย ที่มาทักทายตั้งแต่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ยังไม่สามารถเข้าทำงานที่ทำเนียบ
ดูจะไม่มีพิษสงร้ายแรงนัก
เพราะทั้งนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 และรักษาการนายกรัฐมนตรี ตื่นตัว ลงไปขลุกปัญหาตั้งแต่ต้น
ทำให้นอกจากแก้ปัญหาได้เร็ว
ยังอาจสามารถเรียกคะแนนนิยมได้ โดยเฉพาะจาก “ฐานที่มั่น” ในภาคเหนือได้ตามสมควร
แม้จะมีดราม่า อย่างผัดข้าวไม่เปิดแก๊ส เพื่อดิสเครดิตนายกฯหญิง แต่ก็ปลุกกระแสไม่ขึ้น
อุทกภัย ในตอนนี้ จึงไม่น่าจะเป็น “ภัย” ต่อรัฐบาลนัก
เว้นแต่ฟ้าดิน ไม่เป็นใจ เกิดมีพายุเข้ามาถล่มหลายๆ ลูก นั่นก็ว่ากันอีกที
อีก “ภัย” หนึ่ง ที่ตั้งเค้าทะมึนมาเร็วไม่แพ้กัน
นั่นคือ “ภัยการเมือง”
เป็นภัยการเมือง ที่แม้ว่า คนเพื่อไทยรวมถึงนายทักษิณ ชินวัตร จะบอกว่า อย่าไปสนใจ และไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
แต่ กระนั้น ภัยที่ดูจะไม่มีอะไรนั้น หากสะสมไปเรื่อยๆ และไหลไปรวมกัน ก็อาจเป็น “ภัยใหญ่” ได้
เช่นการรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงการทำให้รัฐบาลมีเสถียรภาพเท่านั้น
หากแต่ถูกมองว่าเป็นการทำพรรคการเมืองอื่นที่เคยมีจุดยืนตรงข้าม อ่อนแอลง
โดยเฉพาะพรรคพลังประชารัฐ พรรครวมไทยสร้างชาติ และพรรคประชาธิปัตย์ ที่เกิดภาวะปั่นป่วนอย่างหนัก
ปั่นป่วนทั้งภายในพรรคเอง และทั้งมวลชนที่เคยสนับสนุน
ขณะเดียวกัน เกิดภาวะน้อยใจ ในพรรคการเมืองที่หวังจะได้โบนัสจากการเข้าร่วมรัฐบาลแต่กลับไม่ได้รับการตอบสนอง
ทำให้เกิดแนวต้านพรรคเพื่อไทย ต้านนายทักษิณ ขึ้น
แม้ตอนนี้ ดูเหมือนเพื่อไทยจะถือไพ่เหนือกว่า เพราะเป็นผู้กำหนดเกม
รวมทั้งมั่นใจว่า หากรัฐบาลภายใต้การนำของ น.ส.แพทองธาร ซึ่งมีนายทักษิณเป็นกองหนุน เดินหน้าในการบริหารได้
นโยบายต่างๆ ที่เชื่อมต่อกับวิชั่นที่นายทักษิณโชว์ไว้ จะเรียกเสียงสนับสนุนจากประชาชนได้อย่างหนาแน่น
แต่กระนั้นภาวะไหลรวมของฝ่ายการเมืองและมวลชน ที่รู้สึกถึงการถูกทำลาย เริ่มเป็นกระแสใหญ่
และยิ่งเมื่อต่อเนื่องกับ “เชื้อต่อต้านทักษิณ” ที่ฝังตัวลึกอยู่ในสังคม ก็อาจพัฒนาเป็นกระแสต่อต้าน “ระบอบทักษิณ” ได้
ซึ่งตอนนี้ ก็เริ่มมีการ “เพาะเชื้อ” ผ่านทั้งพรรคการเมือง มวลชน นักร้องทั้งที่โดยเปิดเผย และที่เป็นปริศนา อย่างหลากหลายเรื่อง
ทั้ง “การครอบงำพรรค” ที่มีตัวอย่าง มากมายหลายประเด็น
และพิสดารขึ้นถึงขนาดลือกันว่ามี “คลิป” ลับที่จะแสดงให้เห็นถึงการสั่งการของคนนอกพรรค ที่พร้อมจะถูกนำออกมาแฉ
แฉเช่นเดียวกับกรณีปัญหาชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ที่มากด้วยเงื่อนงำและเกี่ยวพันถึงบุคคลฝ่ายต่างๆ มากมาย
พร้อมกันนี้ยังจะมีการขุดเรื่องในอดีตขึ้นมาหลอกหลอน น.ส.แพทองธาร อีกหลายเรื่อง
และในหลายๆ เรื่องดังกล่าว บางเรื่องเข้าไปอยู่ในกระบวนการพิจารณาขององค์กรอิสระ หลายองค์กร ทำให้ยากต่อการควบคุมและคาดคะเนว่าผลจะออกมาอย่างไร
ซึ่งที่ผ่านมา หลายเรื่องไม่เป็นคุณอย่างยิ่งต่อพรรคเพื่อไทยและครอบครัวชินวัตร
ในอนาคต “บทเรียนซ้ำรอย” ก็อาจหวนกลับมาอีก
“ภัยการเมือง” ตอนนี้ อาจจะยังอยู่ในภาวะตั้งเค้า ดูไม่มีพิษสงอะไร
แต่กระนั้น เมื่อถึงภาวะอันเหมาะสม ภัย ก็อาจกลายเป็น “มหาภัย” ขึ้นได้
จึงเป็นสิ่งที่รัฐบาล พรรคเพื่อไทยและครอบครัวชินวัตร ไม่อาจประมาทโดยเด็ดขาด
สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร
