‘มติชน’ชวนฟัง‘เสียง-สามัญชน’ ‘ชาญวิทย์’อภิปรายทางปัญญา โชว์‘เลคเชอร์เพอร์ฟอร์แมนซ์’

เมื่อวันที่ 3 กันยายน นายจุมพฏ สายหยุด ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลมติชน (MIC) บริษัทมติชน จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กองบรรณาธิการมติชนจะจัดสัมมนา Talks for Thailand 2024 เสียง-สามัญชน ในวันที่ 12 กันยายน เวลา 14.00-16.30 น. ที่ Lido Connect Hall 2 (โรงภาพยนตรลิโด้) สยามสแควร์ ถนนพระราม 1 กรุงเทพฯ ทั้งนี้ มติชนเป็นผู้นำด้านการจัดอีเวนต์ และสัมมนามาหลายสิบปี เราผ่านการจัดเวทีสัมมนาจำนวนมาก แต่ครั้งนี้จะเป็นการจัดกิจกรรมที่เรียกได้ว่าเป็นบทบาทใหม่ของมติชน

“ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ทำออกมาในรูปแบบของ Lecture Performance จาก ศ.พิเศษ ดร.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ ซึ่งทำออกมาเป็นรูปแบบของการผสมผสานระหว่างการอภิปรายทางปัญญา ให้เข้ากับการแสดงออกเชิงสร้างสรรค์ ผ่านการนำเสนออันเป็นเอกลักษณ์ และน่าสนใจอย่างยิ่งอยู่ประมาณ 7 ประเด็น” นายจุมพฏกล่าว

นายจุมพฏกล่าวอีกว่า ทั้ง 7 ประเด็น ได้แก่ ประเด็นแรก การแสดงนี้จะสร้างความรู้ใน
รูปแบบ “สหวิทยาการ” คือการผสมผสานหลากหลายสาขาวิชา โดย Lecture Performance “เสียง-สามัญชน” จะเป็นการผสมผสานระหว่างประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม รัฐศาสตร์ ปรัชญา และศิลปะ เป็นต้น โดยจะสร้างนวัตกรรมจากองค์ความรู้หลากหลาย ให้นำไปสู่การค้นพบ หรือจุดแนวคิดใหม่ ที่จะสามารถเข้าถึงผู้ชมได้หลากหลาย ดึงดูดความสนใจของผู้ชมที่มีพื้นฐานความรู้ต่างกันได้ ประการที่ 2 มีลักษณะองค์ประกอบด้านการแสดง คือผู้ที่นำเสนอจะต้องใช้เทคนิคการแสดง การเคลื่อนไหว ดนตรี สื่อต่างๆ หรือองค์ประกอบทางสายตา เพื่อที่จะนำเสนอข้อมูล

“ประการที่ 3 จะช่วยขยายจากขอบเขตความเป็นวิชาการไปสู่ความบันเทิง และผสมปนเปไปด้วยข้อเท็จจริงกับเรื่องเล่าต่างๆ กล่าวคือ จะไม่รู้สึกว่าเป็นงานวิชาการ แต่จะมีอารมณ์ ความรู้สึก เข้ามาประกอบในการสื่อเนื้อหา ประการที่ 4 จะช่วยกระตุ้นความคิด เพราะการบรรยายในลักษณะนี้จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการตั้งคำถามต่างๆ มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องบรรทัดฐานสังคม หรือดึงให้คนเข้ามามีส่วนร่วมอีกด้วย” นายจุมพฏกล่าว

ADVERTISMENT

นายจุมพฏกล่าวต่อว่า ประการที่ 5 ประการสำคัญ คือมีลักษณะของความเป็นส่วนตัว โดย ศ.พิเศษ ดร.ชาญวิทย์ จะเอาความเป็นส่วนตัวเข้ามาเดินเรื่อง คือจะสอดแทรกประสบการณ์ชีวิตและความคิดของตัวเองเข้าในการนำเสนอ เรียกได้ว่ามีมิติของอัตวิสัยอยู่ในเนื้อหานั้น ขณะเดียวกับประการที่ 6 งานครั้งนี้จะได้ในเรื่องของการตอบโต้กลับไปมา (Interactive) เปิดโอกาสให้กับผู้ร่วมชมมีส่วนร่วมในการตอบโต้ได้ และประการที่ 7 มีการผสมผสานอย่างหลากหลาย ทั้งฉายศิลปะภาพ วิดีโอ ระบบเสียงมาซัพพอร์ตเนื้อหา ซึ่งเป็นลักษณะที่โดดเด่นของ Lecture Performance

นายจุมพฏกล่าวว่า จากประสบการณ์ส่วนตัวที่เคยได้รับชมผลงานชิ้นนี้ของ ศ.พิเศษ ดร.ชาญวิทย์ มาตั้งแต่ปี 2566 ถือได้ว่าเป็น Lecture Performance ที่ดีที่สุดชิ้นหนึ่งของโลก เพราะการจัดการแสดงจะผสมผสานการทำงานกับ B-floor (บีฟลอร์) คือทีมกำกับละครเวทีเข้ามามีส่วนร่วมในครั้งนี้

ADVERTISMENT

“ส่วนใหญ่เท่าที่ทราบเกี่ยวกับการแสดงในรูปแบบนี้ คือ Lecture Performance ทั่วโลก เขาทำได้ไม่ถึงขนาดนี้ อันนี้ใช้ระบบโปรดักชั่นที่มีคุณภาพ ภาพสวยมาก เพราะว่าใช้สเกลของงานละครเวที ซึ่งบีฟลอร์ก็เป็นงานละครเวทีที่จับประเด็นปัญหาทางสังคม มาทำการแสดงโดยตลอดด้วย ฉะนั้น งานครั้งนี้จะเป็นงานที่มีคุณภาพอย่างมากชิ้นหนึ่ง” นายจุมพฏกล่าว

นายจุมพฏกล่าวอีกว่า รวมถึงจะได้เห็นตัวละคร ศ.พิเศษ ดร.ชาญวิทย์ในงานแสดงนี้ จะเป็น ศ.พิเศษ ดร.ชาญวิทย์ที่เรารู้จักมา ไม่ใช่ ศ.พิเศษ ดร.ชาญวิทย์ที่แสดงเป็นคนอื่น กล่าวคือตัวละครนี้จะเป็น ศ.พิเศษ ดร.ชาญวิทย์ เล่นเป็น ศ.พิเศษ ดร.ชาญวิทย์จริงๆ ซึ่งท่านจะใช้วิธีการเล่าเรื่องอย่างน่าสนใจ คือ วิธีการเล่าเรื่องด้วยการเอาประวัติของตัวท่าน ครอบครัว เข้ากับประวัติของชุมชนบ้านโป่ง ที่เป็นฉากหลังของสงครามโลก จากนั้นเชื่อมไปสู่ประวัติของประเทศและโลกในช่วงสงครามเย็น ไต่ลำดับขึ้นไป

“โดยจะทำให้เรารู้สึกตระหนักได้ว่ามนุษย์เราเป็นเพียงคนตัวเล็กที่อยู่ในภาพที่มีขนาดใหญ่มาก มีความสัมพันธ์กับภาพที่ใหญ่มากตลอดเวลา ท่านจะทำให้มองเห็นว่าเวลาที่เรามองตัวเอง มันเกี่ยวกับประเทศได้อย่างไร” นายจุมพฏกล่าว

นายจุมพฏกล่าวต่อว่า การแสดงครั้งนี้ของมติชนที่กำลังจะเกิดขึ้น จะทำให้คุณค่าของ Lecture Performance ถูกยกระดับขึ้นไปอีก ด้วยการเชิญนักวิชาการและสื่อมวลชนทั้ง 3 ท่าน ได้แก่ ผศ.ดร.ณัฐพล ใจจริง รองคณบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา นักวิชาการผู้ศึกษาเรื่องการเปลี่ยนแปลงทางประวัติศาสตร์การเมือง เจ้าของผลงานหนังสือ ขุนศึก ศักดินา พญาอินทรี และราษฎรปฏิวัติ นายกษิดิศ อนันทนาธร ภาควิชากฎหมายทั่วไป คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง นักเขียน บรรณาธิการ นักวิชาการรุ่นใหม่ ผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์การเมือง และนายสุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร บรรณาธิการกอง บก.มติชนสุดสัปดาห์ เข้ามาช่วยเป็นคนเปิดประเด็นเสวนา และกระตุ้นความคิด ให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้นกว่าการแสดงที่ผ่านมา รวมถึงนายศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ นักวิชาการอิสระ เข้ามาสรุป และทิ้งทวนเนื้อหาตอนท้าย ยิ่งจะทำให้การแสดงครั้งนี้เป็นการแสดงที่มีพลังมากยิ่งขึ้น

“สิ่งที่ผู้ชมจะได้รับจาก Lecture Performance ครั้งนี้ คือจะได้รับทั้งความรู้ในเชิงลึกและเชิงกว้าง และช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์จากการที่จะแสดงให้เห็นแนวคิดที่ธรรมดา มาจุดประกายความคิดใหม่ๆ สร้างการมีส่วนร่วมและการโต้ตอบ การได้เกิดมุมมองใหม่ต่อประเด็นต่างๆ โดยเฉพาะประเด็นเรื่องของ “เสียง-สามัญชน” ที่เราพยายามจะเสนอ บนพื้นฐานของความบันเทิง ควบคู่ไปกับการเรียนรู้ ซึ่งจะสร้างแรงบันดาลใจ กระตุ้นการเปลี่ยนแปลงต่อไป” นายจุมพฏกล่าว

ด้านนายกษิดิศกล่าวว่า ในเวที Talks for Thailand 2024 เสียง-สามัญชน ตนจะร่วมพูดในหัวข้อ “สามัญชนสร้างชาติ มองสามัญชนในประวัติศาสตร์การเมืองไทย” กล่าวคือ สามัญชนในประวัติศาสตร์การเมืองไทย จะมีที่ทางหรือตำแหน่งแห่งที่ในประวัติศาสตร์การเมืองไทยมากแค่ไหน เช่น เมื่อบอกว่าสามัญชนคือคนสร้างชาติ? สามัญชนส่วนนี้จะมีชื่อในพงศาวดารบ้างหรือไม่ ถ้าสามัญชนไม่มีชื่อในพงศาวดาร จะพูดได้หรือไม่ว่าสามัญชนมีส่วนร่วมในการสร้างชาติ บ้านเมือง รักษาเอกราช ปกป้องบ้านเมือง ซึ่งตนจะร่วมในประเด็นสำคัญตรงนี้

นายกษิดิศกล่าวอีกว่า หากพูดถึงสามัญชนเข้าไปมีบทบาทในพรรคการเมือง แน่นอนต้องพูดถึงระบอบประชาธิปไตย ที่ให้สิทธิเสียงแก่สามัญชน หรือประชาชนทั่วไป และโลกของสามัญชนคนธรรมดาก็มีที่ทางปรากฏขึ้นได้ เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ฉะนั้น จะเห็นภาพว่าคณะราษฎรเป็นกลุ่มแรกที่เปลี่ยนการปกครองสู่ระบอบประชาธิปไตย

“นอกจากนี้ ผมจะพูดในประเด็นที่ว่าคณะราษฎรทำอะไรบ้างในทางโครงสร้างสังคมที่เปลี่ยนไป จากระบบเดิมมาสู่ระบอบใหม่ เมื่อคณะราษฎรทำโครงสร้างสังคมแบบใหม่ มีรัฐสภา รัฐธรรมนูญ มหาวิทยาลัยที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อประชาชนจำนวนมาก และผลผลิตของสามัญชนที่เกิดขึ้นมา มีใครบ้างที่น่าสนใจ พร้อมทั้งยกตัวอย่างเสียงจากสามัญชน หรือแนวทางความคิดของสามัญชน ทิศทางการพูดที่จะพยายามเปลี่ยนแปลงบ้านเมือง ทิศทางการวางแผนบ้านเมืองว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร และจบด้วยการพูดถึง ศ.พิเศษ ดร.ชาญวิทย์ ที่เป็นสามัญชนอีกคนหนึ่งที่เติบโตมาในระบอบประชาธิปไตย มีทั้งการล้มลุกคลุกคลานมา เติบโตมากับมหาวิทยาลัยที่สร้างขึ้นในระหว่างการเปลี่ยนแปลงการปกครองใหม่ โดย ศ.ดร.พิเศษ ชาญวิทย์ กับประวัติศาสตร์ของสามัญชนมีความเกี่ยวข้องกันมากแค่ไหนเพียงใด จะเป็นคีย์เวิร์ดที่จะพูดในวันงาน พร้อมทั้งเห็นประวัติศาสตร์ไทยในวงกว้าง สามัญชนมีบทบาทอยู่ตรงไหน จะทำให้เรามอง และเรียนรู้ประวัติศาสตร์น่าสนุกมากยิ่งขึ้น เมื่อเราเข้าใจอดีต เราจะเข้าใจปัจจุบัน และเข้าใจความขัดแย้ง ที่จะคลี่คลายไปในอนาคตได้ดีขึ้น” นายกษิดิศกล่าว

นายกษิดิศกล่าวต่อว่า เวทีนี้เล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ไทยที่ทุกคนสามารถฟังกันได้ คนที่ไม่ได้สนใจประวัติศาสตร์เลยก็รับฟังได้ หากใครสนใจประวัติศาสตร์อยู่แล้วจะได้คิดตาม เห็นต่าง และต่อยอดในสิ่งที่ผมได้จุดประเด็นเอาไว้

“ความสนุกของเวที ไม่ได้อยู่ที่ผมคนเดียว ยังมีวิทยากรอีกหลายคนที่น่าสนใจ และไฮไลต์ของงานอยู่ที่การแสดง An Imperial Sake Cup and I a lecture performance โดย ศ.พิเศษ ดร.ชาญวิทย์ เพียงเท่านี้ก็คุ้มแล้วสำหรับงานที่จัดขึ้น” นายกษิดิศกล่าว

ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจร่วมเป็นส่วนหนึ่งของเวทีเสียง-สามัญชน สามารถสำรองที่นั่งได้ที่ https://bit.ly/TalksForThailand2024 ที่นั่งมีจำนวนจำกัด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image