จุลพันธ์ แจงยิบ งบฝึกตำรวจ ไม่ซ้ำซ้อนงานถวายอารักขา ดูแลประมุขประเทศ มาตรฐานสากล

จุลพันธ์ แจงยิบ งบฝึกตำรวจ ไม่ซ้ำซ้อนงานถวายอารักขา ดูแลประมุขประเทศ มาตรฐานสากล

เมื่อวันที่ 5 กันยายน ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 วงเงิน 3.75 ล้านล้านบาท ปรับลด 7,824,398,500 บาท วาระที่ 2 เป็นวันที่สาม มี นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภา เป็นประธานในที่ประชุม

เวลา 12.45 น. ที่ประชุมสภา เข้าสู่การพิจารณามาตรา 27 งบประมาณรายจ่ายส่วนราชการไม่สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวง ทบวง และหน่วยงานภายใต้การควบคุมดูแลของนายกรัฐมนตรี วงเงิน 43,602,295,000 บาท น.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ ส.ส.กทม. พรรคประชาชน อภิปรายถึงการปรับลดงบประมาณของสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่า เป็นงบค่าใช้จ่ายในการฝึกยุทธวิธีตำรวจ ซึ่งครั้งที่แล้วตนได้ชี้ให้เห็นถึงการจัดสรรที่ไม่เหมาะสม แต่เมื่อมากางงบปี 68 ก็เห็นว่า ผบ.ตร.ไม่ได้รับฟังเลย เพราะหลักสูตรฝึกยุทธวิธียังมารวมอยู่กับแมวบ้าน หรือ Local CAT เหมือนเดิม ที่มีงบฝึกถึง 298 ล้านบาท ซึ่งแค่ค่าเครื่องแบบก็ใช้ 119 ล้านบาท หรือ 50% แล้ว ซึ่งงบประมาณที่สูงและเบิกทุกปีเช่นนี้เสี่ยงต่อการทุจริตได้ เมื่อตนได้ถามในห้อง กมธ.ก็ได้คำตอบว่า การฝึกจำเป็นต้องแจกเครื่องแบบใหม่ทุกครั้ง

น.ส.ศศินันท์กล่าวว่า และยังมีความซ้ำซ้อนกับส่วนราชการในพระองค์ในที่เกี่ยวกับถวายความปลอดภัย ซึ่งมีกำลังพลอยู่ 8,120 นาย มีหน้าที่ถวายความปลอดภัยแก่พระมหากษัตริย์ให้ดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่งมีความทับซ้อนกับงานของ Local CAT ที่มีกำลังพล 4,999 นาย นอกจากนั้นยังมีการนำเอาพนักงานสอบสวนไปฝึกด้วยปีหนึ่งไปฝึกนาน 4-5 เดือน สำนวนคงไม่ได้ทำกันแล้ว ซึ่งต้องไม่ลืมว่าพนักงานสอบสวนนั้นขาดแคลน งานล้นมือแต่คนน้อย ส่งผลให้สำนวนล่าช้า แม้ในห้องอนุฯกมธ.ท่านจะตอบว่าไม่มีพนักงานสอบสวนไปฝึก แต่ตนได้หนังสือเชิญให้พนักงานสอบสวนไปฝึกจริง และเท่าที่ทราบใน 4,999 นายมีพนักงานสอบสวนแล้วกว่า 800 นาย ฉะนั้นตนเห็นว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติควรจะยกเลิกการฝึก Local CAT และจะได้พ้นคำครหาว่าคนที่ฝึกหลักสูตรนี้จะได้รับการแต่งตั้ง โยกย้ายตำแหน่งหรือไม่ ดังนั้นตนจึงเสนอปรับลดงบประมาณ Local CAT ทั้งหมดประมาณ 298,309,200 บาทเพื่อคืนความสงบสุขให้แก่ตำรวจทุกคน

ADVERTISMENT

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะรองประธาน กมธ.งบประมาณ 2568 และ กมธ.เสียงข้างมาก ชี้แจงเรื่องกองทุนเพื่อการสืบสวนฯ ว่า เราไปพูดคุยกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติเช่นกัน พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ กำหนดให้มีกองทุนเพื่อการสืบสวนและสอบสวนฯ เป็นเงินเสริมจากงบปกติ สำหรับการปฏิบัติงานเพื่อจัดสรรให้สถานีตำรวจกว่าหนึ่งพันสถานี งบปี 2568 ตั้งไว้ 950 ล้านบาท แต่มีเงินค่าเปรียบเทียบปรับคดีอาญา ที่เป็นอำนาจของตำรวจ เงินค่าปรับตามกฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบกเฉพาะส่วนที่ต้องนำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน และเงินค่าปรับทางปกครองที่ตำรวจสั่งปรับตามกฎหมาย ซึ่ง ครม.อนุมัติให้นำไปสมทบเข้ากับกองทุนได้ ตามที่กระทรวงการคลังอนุมัติ ประมาณปีละ 500-600 ล้านบาทนั้น เพียงพอต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตามหลักเกณฑ์การจ่ายเงินต่างๆ ตรงนี้เป็นการจัดสรรงบเพียงพอแล้ว แจงค่าใช้จ่ายกองอำนวยการร่วมถวายความปลอดภัย

นายจุลพันธ์ชี้แจงอีกว่า ในส่วนของค่าใช้จ่ายในการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยสำหรับการบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ ซึ่งโครงการนี้แบ่งเป็น 4 ส่วน คือ โครงการการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในการบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ โครงการเฝ้าตรวจเตือนเตรียมการรองรับภัยพิบัติและช่วยเหลือประชาชน โครงการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ สร้างจิตสำนึกต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ และค่าใช้จ่ายของกองอำนวยการร่วมถวายความปลอดภัย เป็นค่าใช้จ่ายที่จำเป็น มีความสำคัญ คณะ กมธ.ดูรายละเอียดแล้ว ยืนยันความจำเป็น และไม่มีการปรับลด งบดูแลประมุขของรัฐ มีความจำเป็น

ADVERTISMENT

นายจุลพันธ์ชี้แจงอีกว่า ค่าใช้จ่ายในการฝึกยุทธวิธีตำรวจโครงการ Local CAT รวมถึงงบประมาณในส่วนราชการในพระองค์ เกี่ยวกับโครงการถวายความปลอดภัย พระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์ มีข้อสงสัยว่ามีความซ้ำซ้อนหรือไม่ มีความจำเป็นหรือไม่ ทาง กมธ.เสียงข้างมาก ดูรายละเอียดครบถ้วน ยืนยัน เป็นโครงการที่มีความจำเป็น และต้องเรียนว่า เป็นมาตรฐานสากล ไม่ใช่แต่เพียงเฉพาะประเทศไทย ในการดูแลประมุขของประเทศ เราต้องดูแลอย่างรอบคอบและรัดกุม เป็นภารกิจที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นส่วนหนึ่ง ยืนยันความจำเป็นของเม็ดเงินที่ตั้งงบ ไม่มีการปรับลดแต่อย่างใด จากนั้นที่ประชุมสภามีมติเห็นควรให้มีการแก้ไขตาม กมธ.เสียงข้างมาก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image