นายกัณวีร์ สืบแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม ร่วมอภิปรายร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 วงเงิน 3.75 ล้านล้านบาท วาระ 2 โดยขอแปรญัตติตัดลดงบประมาณ 10% ในมาตรา 37 แผนงานบูรณาการจังหวัดชายแดนภาคใต้
นายกัณวีร์ กล่าวว่า มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับแผนงานบูรณาการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนใต้ 47 หน่วยงานในระดับกรมหรือเทียบเท่า และ 15 หน่วยงานระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 5,700 กว่าล้านบาท ซึ่งคณะกรรมาธิการฯ ได้ปรับลดงบประมาณ จำนวน 43,890,800 บาท ตนเองไม่กล้าตำหนิคณะกรรมาธิการเรื่องการปรับลดงบประมาณ เพราะถ้าจะโทษต้องโทษคนที่เสนองบประมาณ
นายกัณวีร์ กล่าวว่า ตนเองขอบอกความลับพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ 5 จังหวัดเป็นพื้นที่แห่งขุมทรัพย์ในการสร้างงบประมาณ โดยแผนงานตลอด 21 ปีที่ผ่านมา งบประมาณ 500,000 กว่าล้านบาทที่ลงไปยังพื้นที่ปาตานี เราตั้งสมการผิดพลาดแต่แรก ทำให้ตั้งงบประมาณผิดพลาด “กลัดกระดุมเม็ดแรกผิด”
“โครงการต่างๆ แก้ไขปัญหาโดยใช้แค่เลนส์ความมั่นคง ทำให้ไม่สามารถสร้างงบประมาณหรือโครงการแก้ไขปัญหาที่ต้นตอได้ จริง ๆ แล้วอยากตัดงบประมาณทั้งหมด จำนวน 5,700 ล้านบาท แต่คงทำไม่ได้ จึงขอตัดงบประมาณเพียงแค่ 3 หน่วยราชการ ได้แก่ กองทัพบก กระทรวงยุติธรรม และสำนักนายกรัฐมนตรี”
นายกัณวีร์ ยกตัวอย่างงบประมาณโครงการการพัฒนาสังคมพหุวัฒนธรรมที่เข้มแข็งและเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนโดยกองทัพบก ซึ่งทำมาแล้ว 20 กว่าปี โดยการเสริมสร้างความเข้มแข็ง ไม่ใช่กองทัพหรือทหารที่จะนำสันติภาพกลับมาในพื้นที่ปัตตานีได้ แต่ต้องนำภาคประชาชนและภาคประชาสังคมเข้าไปร่วมมือกัน ซึ่ง ศอ.บต. ทำอยู่แล้ว งบประมาณโดยปกติมีอยู่แล้ว เหตุใดกองทัพบกจึงของบประมาณอีก 5.9 ล้านบาทอีก นอกจากนี้ยังมีโครงการประสิทธิภาพการข่าวกรอง 197 ล้านบาท และโครงการเพิ่มประสิทธิภาพงานข่าวกรองอีก 7,200,000 บาทของกระทรวงยุติธรรม ที่ซ้ำซ้อน
“ส่วนโครงการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ของประชาชน 326 ล้านบาทโดยกองทัพบก เป็นเงินจำนวนที่เยอะมากเกินความจำเป็น เพราะหน่วยงานโดยปกติก็มีอยู่แล้ว”
นายกัณวีร์ ตั้งคำถามว่าปัญหาเกี่ยวกับตากใบอยู่มาแล้วเกือบ 20 ปี ซึ่งคดีกำลังจะหมดอายุความ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ได้ลงไปดูเรื่องนี้หรือไม่ ขณะที่โครงการอำนวยความยุติธรรมเยียวยาผลกระทบของสำนักปลัดกระทรวงยุติธรรม และโครงการอำนวยความยุติธรรมและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบของกรมคุมประพฤติ ก็มีงบประมาณอยู่ใน ศอ.บต.
ส่วนสำนักนายกรัฐมนตรี สมช. กอ.รมน.กระทรวงมหาดไทย และ ป.ป.ท.ทำเรื่องการพัฒนาและปรับปรุงประสิทธิภาพด้วยหลักธรรมาภิบาลเช่นกัน จึงเสนอให้ตัดลดงบประมาณกว่า 600 ล้านบาท
“หากเราเข้าใจปัญหาในพื้นที่จริง ๆ งบประมาณจะไม่ออกมาแบบนี้ ไม่กล้าไปตำหนิคณะกรรมาธิการ แต่ขอตำหนิผู้ที่เสนอโครงการ ซึ่งจะไม่สามารถสร้างประสิทธิภาพได้ และสันติภาพก็จะไม่เกิด” นายกัณวีร์ กล่าวย้ำ
