งบ 68 ฉลุย สภาเทคะแนน 309 เสียง ส่งต่อวุฒิสภาพิจารณา 9-10 ก.ย.

งบฯ68 ฉลุย สภาฯ เทคะแนน 309 เสียง ส่งต่อวุฒิสภาพิจารณา 9-10 ก.ย.
เมื่อวันที่ 5 กันยายน ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 วงเงิน 3.75 ล้านล้านบาท ปรับลด 7,824,398,500 บาท วาระที่ 2 เป็นวันที่สาม มี นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาคนที่ 2 เป็นประธานในที่ประชุม

นายกัณวีร์ สืบแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม ร่วมอภิปรายร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 วงเงิน 3.75 ล้านล้านบาท วาระ 2 โดยขอแปรญัตติตัดลดงบประมาณ 10% ในมาตรา 37 แผนงานบูรณาการจังหวัดชายแดนภาคใต้

นายกัณวีร์ กล่าวว่า มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับแผนงานบูรณาการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนใต้ 47 หน่วยงานในระดับกรมหรือเทียบเท่า และ 15 หน่วยงานระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 5,700 กว่าล้านบาท ซึ่งคณะกรรมาธิการฯ ได้ปรับลดงบประมาณ จำนวน 43,890,800 บาท ตนเองไม่กล้าตำหนิคณะกรรมาธิการเรื่องการปรับลดงบประมาณ เพราะถ้าจะโทษต้องโทษคนที่เสนองบประมาณ

นายกัณวีร์ กล่าวว่า ตนเองขอบอกความลับพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ 5 จังหวัดเป็นพื้นที่แห่งขุมทรัพย์ในการสร้างงบประมาณ โดยแผนงานตลอด 21 ปีที่ผ่านมา งบประมาณ 500,000 กว่าล้านบาทที่ลงไปยังพื้นที่ปาตานี เราตั้งสมการผิดพลาดแต่แรก ทำให้ตั้งงบประมาณผิดพลาด “กลัดกระดุมเม็ดแรกผิด”

“โครงการต่างๆ แก้ไขปัญหาโดยใช้แค่เลนส์ความมั่นคง ทำให้ไม่สามารถสร้างงบประมาณหรือโครงการแก้ไขปัญหาที่ต้นตอได้ จริง ๆ แล้วอยากตัดงบประมาณทั้งหมด จำนวน 5,700 ล้านบาท แต่คงทำไม่ได้ จึงขอตัดงบประมาณเพียงแค่ 3 หน่วยราชการ ได้แก่ กองทัพบก กระทรวงยุติธรรม และสำนักนายกรัฐมนตรี”

ADVERTISMENT

นายกัณวีร์ ยกตัวอย่างงบประมาณโครงการการพัฒนาสังคมพหุวัฒนธรรมที่เข้มแข็งและเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนโดยกองทัพบก ซึ่งทำมาแล้ว 20 กว่าปี โดยการเสริมสร้างความเข้มแข็ง ไม่ใช่กองทัพหรือทหารที่จะนำสันติภาพกลับมาในพื้นที่ปัตตานีได้ แต่ต้องนำภาคประชาชนและภาคประชาสังคมเข้าไปร่วมมือกัน ซึ่ง ศอ.บต. ทำอยู่แล้ว งบประมาณโดยปกติมีอยู่แล้ว เหตุใดกองทัพบกจึงของบประมาณอีก 5.9 ล้านบาทอีก นอกจากนี้ยังมีโครงการประสิทธิภาพการข่าวกรอง 197 ล้านบาท และโครงการเพิ่มประสิทธิภาพงานข่าวกรองอีก 7,200,000 บาทของกระทรวงยุติธรรม ที่ซ้ำซ้อน

“ส่วนโครงการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ของประชาชน 326 ล้านบาทโดยกองทัพบก เป็นเงินจำนวนที่เยอะมากเกินความจำเป็น เพราะหน่วยงานโดยปกติก็มีอยู่แล้ว”

ADVERTISMENT

นายกัณวีร์ ตั้งคำถามว่าปัญหาเกี่ยวกับตากใบอยู่มาแล้วเกือบ 20 ปี ซึ่งคดีกำลังจะหมดอายุความ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ได้ลงไปดูเรื่องนี้หรือไม่ ขณะที่โครงการอำนวยความยุติธรรมเยียวยาผลกระทบของสำนักปลัดกระทรวงยุติธรรม และโครงการอำนวยความยุติธรรมและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบของกรมคุมประพฤติ ก็มีงบประมาณอยู่ใน ศอ.บต.

ส่วนสำนักนายกรัฐมนตรี สมช. กอ.รมน.กระทรวงมหาดไทย และ ป.ป.ท.ทำเรื่องการพัฒนาและปรับปรุงประสิทธิภาพด้วยหลักธรรมาภิบาลเช่นกัน จึงเสนอให้ตัดลดงบประมาณกว่า 600 ล้านบาท

“หากเราเข้าใจปัญหาในพื้นที่จริง ๆ งบประมาณจะไม่ออกมาแบบนี้ ไม่กล้าไปตำหนิคณะกรรมาธิการ แต่ขอตำหนิผู้ที่เสนอโครงการ ซึ่งจะไม่สามารถสร้างประสิทธิภาพได้ และสันติภาพก็จะไม่เกิด” นายกัณวีร์ กล่าวย้ำ

จนกระทั่งเวลา 21.45 น.ประชุมได้อภิปรายครบทั้ง 40 มาตรา หลังใช้เวลาอย่างยาวนาน จึงถือว่าเสร็จสิ้นการพิจารณาในวาระ 2
จากนั้นเป็นการพิจารณาในวาระ 3 ซึ่งเป็นการพิจารณาทั้งฉบับ โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบ ร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ 68 ด้วยคะแนน 309 ไม่เห็นชอบ 155 งดออกเสียง 4 ไม่ลงคะแนน 1 เสียง
ถือว่าร่างพ.ร.บ.งบฯ68 ผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎร จากนั้นจะส่งร่างพ.ร.บ.งบฯ 68 ไปยังวุฒิสภา พิจารณาต่อไป ซึ่งจะมีการพิจารณา ในวันที่ 9-10 ก.ย.
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image