เมื่อวันที่ 23 ก.พ. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ว่า ที่ประชุมมีการพูดคุยทั้ง 6 กลุ่มงาน รวมถึงมีการรายงานเศรษฐกิจในภาพรวม โดยเศรษฐกิจของประเทศไทยถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี และยังสามารถประคับประคองสถานการเศรษฐกิจไว้ได้ แต่ในอนาคตจะต้องสร้างความเข็มแข็งในระยะยาวให้กับภาคการผลิต ทั้งเกษตร และธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ตนดีใจที่หลายจังหวัดดำเนินงานตามมาตรการรัฐบาลสำเร็จ และประชาชนดีใจที่มาตรการลงไปถึงในทุกพื้นที่ เพราะที่ผ่านมามาตรการลงไปไม่ทั่วถึง แต่วันนี้รัฐบาลลงไปทั่วถึงทั่งหมู่บ้านและตำบล ไม่ใช่ลักษณะเงินกู้ แต่เป็นการสร้างความเข้มเเข็งมากกว่า และไม่ใช้เงินรัฐบาลในลักษณะเป็นงบลงทุนไม่มีผลประโยชน์ตอบแทน
ด้าน พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุม ครม.ว่า ครม.เห็นชอบสนับสนุนงบกลางต่อเนื่องจากการช่วยเหลือเกษตรกรครั้งที่ 1 ระยะที่ 2 เพื่อดำเนินโครงการแผนพัฒนาอาชีพเกษตรกรตามความต้องการของชุมชนเพื่อบรรเทาภัยแล้งในปี 2558-2559 ในระยะที่ 2 ครั้งที่ 2 โดยกระทรวงเกษตรฯ เป็นผู้นำเสนอ ซึ่งระยะที่ 2 เป็นโครงการกิจกรรมด้านการเกษตรอื่นๆ คือ อาชีพนอกภาคการเกษตร งานหัตถกรรม และการจ้างงาน ที่มีจำนวน 4,937 โครงการ วงเงิน 2,967 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นโครงการเกษตรอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวกับการปลูกพื้นใช้น้ำน้อย 70 จังหวัด จำนวน 4,041โครงการ วงเงินประมาณ 2,695 ล้านบาท และโครงการนอกภาคการเกษตรในพื้นที่ 44 จังหวัด ทั้งสิ้น 896 โครงการ วงเงินงบประมาณ 271 ล้านบาท ซึ่ง 2 โครงการนี้ รวมกันเป็นเงิน 2,967 ล้านบาท“
