นฤมล – ควงรมช.เกษตรฯ ลงพื้นที่ดูน้ำเขื่อนเจ้าพระยา สั่งรับมือกระทบชาวบ้านน้อยที่สุด ‘ธรรมนัส’ ร่วมคณะ ลั่นไม่กังวลแม้นั่งกระทรวงปราบเซียน
เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2567 นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ไปพร้อมกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีต รมว.เกษตรฯ นายอัครา พรหมเผ่า และนาย อิทธิ ศิริลัทธยาธร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไปยังเขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำ เนื่องจากในจุดของเขื่อนเจ้าพระยาถือว่าเป็นกุญแจสำคัญในการบริหารจัดการน้ำลงสู่ที่ลุ่มภาคกลาง
โดยนายวัชระ ไกรสัย ผุ้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่12 ชัยนาท บรรยายสรุปสถานการณ์ปัจจุบัน พร้อมทั้งคาดการณ์ปริมาณน้ำเหนือที่จะเกิดจากอทธิพลของพายุยางิ
นางนฤมล เปิดเผยว่า จากสถานการณ์น้ำเขื่อนเจ้าพระยาปัจจุบัน ยังไม่ได้รับผลกระทบจากมวลน้ำที่เกิดจากอิทะทธิพลของพายุยางิ ปริมาณน้ำจึงยังคงทรงตัว โดยทางเขื่อนเเจ้าพระยาได้เร่งระบายน้ำลงท้ายเขื่อนเพื่อพร่องน้ำสร้างพื้นที่ว่างรับปริมาณน้ำในอนาคตในอัตรา 1,500ลบ.ม./วิ และจะปรับการระบายขึ้นแบบขั้นบันไดในเกณฑ์ไม่เกิน1,700ลบ.ม./วิในระยะ1-3วันนี้ จึงได้สั่งการให้สำนักงานชลประทานที่12 เฝ้าติดตามสถานการณ์และบริหารจัดการระบายน้ำให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด และต้องให้เตรียมเครื่องไม้เครื่องมือในการช่วยเหลือประชาชนให้พร้อม รวมทั้งจัดทำแผนประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับรู้ข้อมูลสถานการณ์น้ำได้อย่างทั่วถึงและต่อเนื่อง
นางนฤมล ยังกล่าวว่า ส่วนที่ตนถูกมองว่าเป็นรัฐมนตรีหน้าใหม่แต่ได้นั่งเป็นเจ้ากระทรวงใหญ่ที่ถือว่าเป็นกระทรวงปราบเซียนอย่างกระทรวงเกษตรฯนั้น ไม่มีความกังวลเพราะมั่นใจว่าข้าราชการ ทีมงานทุกคนสามารถทำงานเพื่อประชาชนได้โดยไม่มีปัญหาใดๆ โดยการบริหารจัดการน้ำเป็นอีก1นโยบายที่ครม.แพทองธาร1จะนำแถลงต่อสภาในวันที่12ก.ย.นี้ด้วย
ขณะที่ล่าสุดสถานการณ์น้ำ ที่เขื่อนเจ้าพระยา ต.บางหลวง อ.สรรพยา จ.ชัยนาท กุญแจสำคัญในการบริหารจัดการน้ำลุ่มภาคคกลาง พบว่าปริมาณน้ำเหนือที่ไหลลงเขื่อนเจ้าพระยาเริ่มทรงตัวโดยที่จุดวัดน้ำ C2 หน้าค่ายจิรประวัติ จ.นครสวรรค์ ล่าสุด(15.00น.)วัดได้ 1,474ลบ.ม./วิ(ลูกบาศเมตรต่อวินาที) โดยระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาลดระดับลง20ซ.ม.ในรอบ24ชม.
ล่าสุดวัดได้ 16.21ม.รทก.(เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง) ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยายังคงอัตราการระบายน้ำไว้ที่1,500ลบ.ม./วิ ต่อเนื่องเป็นวันที่6 เพื่อสร้างพื้นที่ว่างในลำน้ำ รับมวลน้ำเหนือที่เพิ่มขึ้นจากลร่องมรสุม และอิทธิพลของพายุยางิ เพื่อช่วยลดผลกระทบพื้นที่ท้ายเขื่อน ทำให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนทรงตัวในรอบ72ชม. ล่าสุดวัดได้ 12.82ม.รทก.