เพื่อไทย เปิดตัว ส.ส.ป๊อป ศราวุธ เพชรพนมพร ชิงนายก อบจ.อุดรธานี พร้อมผู้ท้าชิง ส.อบจ.ครบ 42 เขต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 7 กันยายนที่ผ่านมา ที่สำนักงานพรรคเพื่อไทย จ.อุดรธานี จัดแถลงข่าวเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครชิงนายก อบจ.อุดรธานี นายศราวุธ เพชรพนมพร หรือ ส.ส.ป๊อป อดีต ส.ส.อุดรธานี และว่าที่ผู้สมัคร ส.อบจ.อุดรธานี ทั้ง 42 เขต
โดยมี พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก อดีตรองนายกรัฐมนตรี เจ้าของฉายา “อินทรีอีสาน”, นายวิเชียร ขาวขำ นายก อบจ.อุดรธานี พร้อมด้วย ส.ส.อุดรธานี สังกัดพรรคเพื่อไทย ร่วมแถลงข่าว ยอกจากนี้ ยังมีนายขวัญชัย ไพรพนา อดีตแกนนำคนเสื้อแดง และอดีต ส.ส.อุดรธานี รวมถึงตัวแทนสมาชิกพรรคเพื่อไทย จาก 20 อำเภอของ จ.อุดรธานี ประมาณ 300 คน เข้าร่วมรับฟังและแสดงความยินดี
บนเวทีมีการติดแบ๊ดดรอปขนาดใหญ่ ระบุข้อความ “กราบขอบพระคุณชาวอุดรทุกท่านที่สนับสนุนผม นายวิเชียร ขาวขำ เสมอมา ถึงเวลาอันควรสมควร ที่จะต้องยุติบทบาทหน้าที่แล้วครับ ขอฝากอดีต ส.ส.ศราวุธ เพชรพนมพร มาทำงานรับใช้ชาวอุดรด้วยนะครับ”
บรรยากาศช่วงแรกได้มีการแนะนำตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.อบจ.อุดรธานี ส่วนใหญ่เป็นผู้สมัครหน้าเก่า ที่เป็นนักการเมืองท้องถิ่นมาแล้วหลายสมัย มีบางส่วนที่เป็นผู้สมัครหน้าใหม่ แต่ก็เป็นบุคคลที่ทำงานคลุกคลี เป็นหัวคะแนนในพื้นที่ให้กับพรรคเพื่อไทยมาตลอด
แต่ยังเหลือ 2 เขต ที่ยังไม่ได้ประกาศตัวว่าที่ผู้สมัครคือ อ.บ้านดุง เขต 2 เขต 3 เนื่องจากมีผู้สมัครมากกว่า 2 คน ต้องดูท่าทีคะแนนนิยมคนแต่ละบุคคลก่อน รวมทั้งการเปิดตัว ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.อุดรธานี เขต 1 คือ นายจิลล์ ชัยรัตน์ หรือ จูเนียร์ อายุ 26 ปี ลูกชายเสี่ยประชา ชัยรัตน์ คหบดีชื่อดังเมืองอุดรธานี ในนามพรรคเพื่อไทย ที่จะลงสนามการเมืองครั้งแรกในชีวิต เนื่องจากมติพรรคได้ขยับให้นายศราวุธมาลงสนามท้องถิ่น ส่วน ดร.หทัยรัตน์ เพชรพนมพร ส.ส.อุดรธานี เขต 2 พี่สาวนายศราวุธ ยังประจำการอยู่ที่เขต 2 เขตเดิม
ขณะที่บนเวทีแถลงข่าว พล.ต.อ.ประชากล่าวบางช่วงว่า อุดรธานีคือบ้านหลังที่ 2 บ้านหลังแรกคือที่ อ.พล จ.ขอนแก่น ทำงานด้านการเมืองมานานมากแล้ว แม้ว่าจะวางมือการเมืองมานาน แต่ก็เชื่อว่าบ้านหลังนี้จะยังให้องค์ความรู้ให้แก่ทุกท่านในการทำงานอยู่ ในวันที่พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล อยากเห็นการทำงานร่วมกันกับท้องถิ่นที่เป็นของพรรคเพื่อไทย เป็นการสานต่อนโยบายให้ต่อเนื่อง เพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชน เชื่อว่าการทำงานของพรรคเพื่อไทยจะสามารถนำงบประมาณมาพัฒนาท้องถิ่น โดยเฉพาะ อบจ.ให้มาพัฒนาในทุกๆ ด้าน ให้บ้านเมืองเจริญก้าวหน้าจากที่ผ่านมา อยากให้พี่น้องชาวอุดรธานีให้ความไว้วางใจต่อว่าที่ผู้สมัครทุกท่าน เลือกนายศราวุธเป็นนายก อบจ.อุดรธานี จะได้สานต่อและทำงานควบคู่ไปกับพรรคเพื่อไทย
นายวิเชียรกล่าวว่า ทำงานการเมืองมานาน เป็นผู้แทนมา 7 สมัย เป็นนายก อบจ.อุดรธานี มา 12 ปี ด้วยอายุและสุขภาพ มีอาการสะโพกขวาเสื่อม ต้องรักษาตัวอยู่ตลอด ถึงเวลาที่ต้องวางมือ ส่งไม้ต่อให้การคนหนุ่มคนสาวเข้ามาทำงานรับใช้พี่น้องประชาชนแทน แต่ก็ยังจะช่วยเป็นที่ปรึกษา ช่วยคิด ช่วยแนะนำ ในการทำงาน เชื่อมั่นในศักยภาพของ ส.ส.ป๊อป ว่ามีวิสัยทัศน์ที่ดี เป็นคนหนุ่มที่ยังแข็งแรง มีแนวคิด แนวปฏิบัติ มีความรู้ และที่ผ่านมาก็ได้รับความเชื่อมั่นให้ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการการการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ถือว่าเป็นคนมีประสบการณ์ความรู้
“ที่ผ่านมาการทำงานของ อบจ.อุดรธานี มีอุปสรรคด้านงบประมาณมาตลอด ช่วงที่พรรคเพื่อไทยมีสถานะเป็นฝ่ายค้าน จากรัฐบาลทหาร อบจ.อุดรธานี ได้งบประมาณน้อยถึงน้อยมาก เป็นลำดับท้ายๆ ของประเทศ บางปีไม่ได้งบประมาณสักบาทก็มี ปัจจุบันพรรคเพื่อไทยในนามรัฐบาล เราก็อยากจะเห็นนายก อบจ.อุดรธานี ของพรรคเพื่อไทย เพื่อการทำงานจะได้สอดคล้องกัน ในการพัฒนาบ้านเมือง ที่ผ่านมาก็ได้ปรึกษาหารือกับ ส.ส.ป๊อปมาโดยตลอด มีการพูดคุยส่งการทำงานในแต่ละด้านแล้ว หวังว่าจะได้รับความไว้วางใจจากพ่อแม่พี่น้องชาวอุดรธานี ผมจะหมดวาระในวันที่ 19 ธันวาคม 2567 ขอประกาศวางมือตรงนี้ และเชิญชวนให้ไปเลือกคนจากพรรคเพื่อไทยในสนามเลือกตั้ง อบจ.อุดรธานี ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2568” นายวิเชียรกล่าว
ขณะที่นายศราวุธกล่าวว่า ไม่มีคำพูดที่สวยงาม แต่จะขออาสามารับใช้พ่อแม่พี่น้องประชาชนทุกคน ไม่แบ่งแยกฝักฝ่าย จะเชียร์หรือไม่เชียร์ จะรักหรือไม่รัก แต่จะขอดูแลประชาชนทุกคนตามที่ตั้งใจเอาไว้ ตอนแรกคิดว่าจะวางมือทางการเมืองแล้ว ตั้งใจว่านจะพักผ่อนแล้ว เพราะทำงานการเมืองมานานเช่นกัน แต่เมื่อได้ยินคำพูดของท่านวิเชียรว่าจะวางมือ หากไม่มีคนมารับไม้ต่อก็ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติการเมือง จึงคิดว่าจะเข้ามาอาสารับช่วงต่อตรงนี้ เพราะเป็นห่วงพี่น้องประชาชน ในการสานต่อการทำงานของคณะทำงานชุดเดิมให้ต่อเนื่อง ให้ลุล่วงสำเร็จในแต่ละมิติ
“การเมืองยุคนี้ได้เปลี่ยนไปแล้ว สนามการทำงานของตัวเองก็มีมากขึ้น ถามว่ากังวลหรือไม่กับสนามเลือกตั้งท้องถิ่น ผมไม่กังวล เพราะตัวเองก็เริ่มทำงานการเมืองจากท้องถิ่นมากก่อน เคยดำรงตำแหน่ง ส.อบจ.อุดรธานีมาก่อน และผมทำงานในพื้นที่มาตลอดอยู่แล้ว จุดเด่นของทีมเราก็คือการมีทีมงานที่เข็มแข็ง ทำงานเข้มแข็งกันอยู่แล้ว และคำถามที่ว่าหนักใจในพื้นที่ไหนเขตไหนในสนามเลือกตั้ง ผมบอกเลยว่าการเมืองปัจจุบันแข็งขันสูง ยอมรับว่าหนักใจทุกเขต”