‘ชวน’ ควง ‘อภิสิทธิ์’ ร่วมงานสืบสานรากเหง้าบรรพบุรุษวงศ์หนองเตย แฟนคลับปชป.แห่ต้อนรับ ล้นหลาม
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 9 กันยายน ที่บ้านเลขที่ 37/4 เทศบาล 5 ต.ห้วยยอด อ.ห้วยยอด จ.ตรัง นายชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และอดีตนายกรัฐมนตรี 2 สมัย พร้อมด้วย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และอดีตนายกรัฐมนตรี ร่วมงานพิธีเคารพบรรพบุรุษของตระกูลวงศ์หนองเตย “สืบบรรดารากเหง้า ก้าวสู่อนาคต 60 ปี ศาลบรรพบุรุษ วงศ์หนองเตย” ที่บ้านนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย
ซึ่งตั้งแต่ในช่วงเช้าเปิดห้องประวัติบรรพบุรุษมีพิธีเคารพบรรพบุรุษของบรรดาลูกๆ หลานๆ และเครือญาติ มีการแสดงเชิดสิงโตเพื่อความเป็นสิริมงคล จากนั้นในช่วงเย็นจะมีการกินเลี้ยง ซึ่งบรรยากาศเต็มไปด้วยผู้คนที่หลั่งไหลมาจากทั่วสารทิศที่คุ้นเคย สนิทสนม และให้ความเคารพต่อตระกูลวงศ์หนองเตยมาร่วมงานอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง มีอาหารเด่นๆ ดังๆ ขึ้นชื่อของเมืองตรังนำมาเลี้ยงต้อนรับมากมาย
โดยเมื่อนายชวนและนายอภิสิทธิ์เดินทางมาถึง นายสาทิตย์พร้อมด้วยเครือญาติออกมาต้อนรับ และทักทายประชาชนที่มาต้อนรับ ก่อนที่จะเดินชมบริเวณงานที่ประดับประดาอย่างสวยงาม และเข้าชมห้องประวัติศาลบรรพบุรุษ วงศ์หนองเตย
ทั้งนี้ นายชวนกล่าวว่า คุณพ่อของนายสาทิตย์เป็นหัวคะแนนใหญ่ของตนในสมัยแรก เมื่อ 55 ปีที่แล้ว ที่ตนสมัครผู้แทนราษฎรสมัยนั้น จนถึงบัดนี้ต้องของคุณพี่น้องชาวห้วยยอดทุกคนที่ยังคงมีความผูกพันลึกซึ้งในตระกูลนี้ หลายคนก็มาให้กำลังใจเป็นส่วนตัว ซึ่งตนก็แปลกใจทำไมต้องมา เขาบอกว่าเพราะเขากลัวจะโดดเดี่ยว หลังจากมีกระแสถูกขับออกจากพรรคประชาธิปัตย์ ก็ขอมาให้กำลังใจ
นอกเหนือจากงานตระกูลแล้วก็มีคนมาแสดงความยินดี ก็ต้องขอขอบคุณพี่น้องทุกคน ได้มีโอกาสชมห้องประวัติที่มาของตระกูลนี้ คือไม่ทำตัวเป็นคนไทย ทำตัวเอาใจเขาจนน่าเกลียด ตนเลยเขียนไว้ว่า ตระกูลนี้มาอยู่ห้วยยอดนั้นท่านสาทิตย์เป็นคนที่ประสบความสำเร็จในทางการเมือง มีโอกาสได้เป็นรัฐมนตรี ตนเข้าใจว่าก็ไม่ใช่ง่ายนัก เพราะเมื่ออดีต คนใดคนหนึ่งจะขึ้นมาสู่ตำแหน่งรัฐมนตรี โดยเฉพาะในพรรคประชาธิปัตย์นั้น ถ้าไม่มีความสามารถจริงๆ บอกได้เลยว่ายาก ไม่มีความสามารถพิสูจน์ตัวเองได้ก็ยาก เช่นตนเองใช้เวลาพิสูจน์ 22 ปี จนสมาชิกเห็นว่าสามารถให้เป็นหัวหน้าก็ได้ เขาเลือกเพราะเราไม่มีเงิน ไม่มีอิทธิพล ไม่มีอะไรที่อุปถัมภ์ค้ำชูให้เรา เราก็ต้องพิสูจน์ ความสามารถ ความซื่อตรง ความสุจริต
นายอภิสิทธิ์ก็มาแบบเดียวกัน หลายๆ คน นายสาทิตย์ที่มาเป็นรัฐมนตรี ตลอดเวลาที่นายอภิสิทธิ์เป็นนายกรัฐมนตรีก็พิสูจน์ความสามารถ ซึ่งทำให้เราภาคภูมิใจว่าภารกิจในฐานะรัฐมนตรีของนายอภิสิทธิ์ แต่การเมืองเปลี่ยนไปอย่างน่าใจหาย พูดง่ายๆ คนซื้อเสียงชนะ คนไม่ซื้อเสียงแพ้ เราไม่ต้องการให้สิ่งนี้เกิดขึ้นในบ้านเมือง เราจึงประกาศสู้ต่อไป เชื่อว่าพี่น้องชาวห้วยยอดและชาวไทยทั่วประเทศมีส่วนร่วมที่จะสกัดการเมืองที่ไม่สุจริต เพื่อให้การเมืองที่สุจริตได้เกิดขึ้น ระบอบประชาธิปไตยของเราจะไปได้อย่างมั่นคงและประโยชน์ก็จะตกกับประชาชน มิฉะนั้นประโยชน์จะได้กับกลุ่มหนึ่งไม่มาถึงเรา เพราะฉะนั้นนี่คือเป็นสิ่งที่เป็นอุดมคติของนักการเมือง ตนก็เล่าให้ฟังเสมอว่าตนเป็นคนเดียวในรุ่นตัดสินใจเป็นนักการเมือง
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนมอบหมายให้นายสาทิตย์ช่วยดูบันทึกการประชุมคณะรัฐมนตรี ซึ่งเป็นไปอย่างแม่นยำ รัดกุม เป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะเรื่องแบบนี้ไม่ระมัดระวังผิดพลาดไปเพียงนิดเดียวอาจหมายถึงสิ่งที่ถูกมองว่าไม่ชอบธรรม ผิดกฎหมาย ต่างๆ นานา ยิ่งรู้จักนายสาทิตย์ก็ยิ่งรู้สึกว่านายสาทิตย์ให้ความสำคัญไม่ใช่กับเรื่องภาษาอย่างเดียวแต่เรื่องของวัฒนธรรมเรื่องประวัติศาสตร์อ่านหนังสือเยอะมาก