‘พิเชษฐ์-ภราดร’ ฉลุยนั่งรอง ปธ.1-รอง 2 แบบไร้คู่แข่ง’พิเชษฐ์’ ลั่นจะสร้างที่จอดรถเพิ่ม 3 พันคัน ขณะที่ ‘ภราดร’ ขอทำหน้าที่ให้ ส.ส.ทุกคน ไม่เป็นรองประธานของ ‘ภูมิใจไทย-รัฐบาล’ ด้าน ‘วันนอร์’ เผยนำชื่อทูลเกล้าฯโดยเร็ว
เมื่อเวลา 11.20 น. วันที่ 11 กันยายน ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มี นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม วาระเลือกตำแหน่งรองประธานสภา คนที่ 1 โดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) เป็นผู้เสนอชื่อ นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย (พท.) เป็น รองประธานสภาคนที่ 1 เนื่องจากไม่มีผู้เสนอชื่อแข่ง จึงถือว่านายพิเชษฐ์ได้เป็นรองประธานสภา คนที่ 1
นายพิเชษฐ์แสดงวิสัยทัศน์ว่า จะปฏิบัติหน้าที่ตามภารกิจของรัฐสภาคือตรากฎหมาย ตรวจสอบหรือยกเลิกกฎหมาย, ควบคุมการบริหารราชการแผ่นดินของฝ่ายบริหาร, ให้ความเห็นชอบเรื่องสำคัญที่มีผลกระทบต่อประชาชน สนับสนุนการมีส่วนร่วมของประชาชนในการแก้ปัญหาประเทศ โดยมีนโยบายดังนี้ 1.ทำสภาให้ใกล้ชิดประชาชนมากขึ้นเพื่อให้มีการมีส่วนร่วมของประชาชนโดยจัดให้รัฐสภาประจำจังหวัด ทดลองใช้อย่างน้อย 5 จังหวัด 2.นำรัฐสภามุ่งสู่ความเป็นสมาร์ท พาลิเม็นท์ กรีน พาลิเม็นท์ ซีโร่คาร์บอน นำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการบริหารองค์กรเพื่อนำไปสู่รัฐสภาดิจิทัล ปรับปรุงซ่อมแซมอาคารรัฐสภาให้สมบูรณ์หลังได้รับมอบแล้ว สร้างท่าเทียบเรือฝั่งวุฒิสภาและ ส.ส.ภายในปี 2568 ทำที่จอดรถเพิ่มอีก 3,000 คัน ให้ถูกต้องตามกฎหมายของกรุงเทพมหานคร จัดให้มีความปลอดภัยในรัฐสภา เตรียมพร้อมชุดอัคคีภัยเร็วที่สุด
นายพิเชษฐ์กล่าวว่า 3.เป็นผู้ช่วยประธานสภา ดำเนินการประชุมสภาให้เรียบร้อยมีประสิทธิภาพ เสริมสร้างศักยภาพสมาชิกให้มีความรู้ ประสบการณ์มากขึ้น เพื่อนำไปพัฒนาท้องถิ่นตัวเองให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด 4.เป็นผู้ช่วยประธานสภา นำพารัฐสภาไทยก้าวขึ้นสู่การเป็นรัฐสภาผู้นำของอาเซียนและรัฐสภาผู้นำของเอเซีย
จากนั้นเป็นการเลือกตำแหน่ง รองประธานสภา คนที่ 2 โดย นายสรวงศ์ เทียนทอง ส.ส.สระแก้ว และเลขาธิการพรรค พท. เสนอชื่อ นายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง พรรค ภท.
นายภราดรแสดงวิสัยทัศน์ว่า ถือเป็นเกียรติและไม่ใช่เฉพาะตัวตน แต่เป็นเกียรติของคนอ่างทอง ต้องขอขอบคุณพรรค ภท. นายอนุทิน เพื่อนสมาชิกและวิปรัฐบาล ตนใช้เวลา 17 ปีที่อยู่ที่สภา นับไปนับมาแล้วเกือบจะครึ่งชีวิตที่ใช้เวลาอยู่ที่นี่ ตนทำงานอยู่ที่นี่ ผูกพันกับองค์กรแห่งนี้ ผูกพันกับสภา จึงเปรียบเสมือนบ้านหลังที่สองของตน เมื่อที่นี่เป็นบ้านหลังที่สอง จึงอยากจะเห็นบ้านหลังที่สองมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี และเป็นที่เชื่อมั่น เป็นที่ศรัทธาของพี่น้องประชาชน
นายภราดรกล่าวว่า การจะสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นกับพี่น้องประชาชน ไม่ใช่เกิดขึ้นจากประธานและรองประธานทั้งสองคน แต่เกิดขึ้นจากสมาชิกสภา ทั้ง 493 ชีวิตที่เหลือ อยู่ในฐานะประธานและรองประธานของสภาผู้แทน พวกเรามีหน้าที่ที่จะอำนวยความสะดวกให้กับเพื่อนสมาชิกในการที่จะแสดงศักยภาพของตัวเองให้สูงที่สุด และปฏิบัติหน้าที่เพื่อที่จะให้สมาชิกได้เข้าถึงข้อมูลข่าวสาร และทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
“แม้สถานะของผมจะเหมือนกับประธานและสมาชิก คือเราเป็นสมาชิกพรรคการเมือง เราปฏิเสธการเป็นสมาชิกพรรคการเมืองไม่ได้ แต่ผมให้คำมั่นสัญญาว่าผมจะไม่เป็นรองประธานสภาของพรรคภูมิใจไทย จะไม่เป็นรองประธานสภาของเพื่อนสมาชิกฝ่ายรัฐบาล แต่ผมจะเป็นรองประธานของสภาแห่งนี้ของเพื่อนสมาชิกทั้ง 493 คน ผมจะทำหน้าที่ในฐานะผู้ช่วยของประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ ผมจะทำหน้าที่ตามที่ประธานได้มอบหมายให้ปฏิบัติอย่างเต็มกำลังความสามารถ เต็มกำลังสติปัญญา ผมจะยึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ผมจะช่วยประธานในการที่จะทำให้สภาแห่งนี้เป็นสภาของพี่น้องประชาชน” นายภราดรกล่าว
นายภราดรกล่าวต่อว่า เพื่อนสมาชิกหลายท่านพูดว่าสภาแห่งนี้ไม่ใช่สภาของพวกเรา แต่เป็นสภาของพี่น้องประชาชนคนไทยทั้งหมด พวกเราจะช่วยกันทำให้สภาแห่งนี้เป็นสภาของพี่น้องประชาชน พื้นที่ทั้งในส่วนที่เป็นอาคารสถานที่ พี่น้องประชาชนจะต้องได้ใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นลานประชาชนหรือดำริของประธานสภาที่จะทำห้องสมุดล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่จะทำให้ประชาชนได้เข้ามาใช้ประโยชน์ นอกจากนั้น ในเรื่องของข้อมูลข่าวสารที่พี่น้องประชาชนก็จะต้องสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของสภาได้เต็มที่ เต็มประสิทธิภาพมากที่สุด และสภาจะต้องเป็นสภาที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ เป็นสภาของพี่น้องประชาชน
“ผมขอย้ำกับประธานว่าผมจะไม่ใช้ตำแหน่งหน้าที่ในการฉวยโอกาสสร้างประโยชน์ทางการเมืองให้กับพรรคการเมือง หรือให้กับตัวผมเอง ขอย้ำว่าผมจะไม่เป็นรองประธานสภาของพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง จะไม่เป็นรองประธานสภาของฝ่ายรัฐบาล แต่ผมจะเป็นรองประธานสภาของเพื่อนสมาชิกทั้ง 493 คน จากวันนี้เป็นต้นไปจนกระทั่งวันสุดท้ายของการปฏิบัติหน้าที่ ผมไม่รู้ว่าจะทำหน้าที่ได้ดีหรือเป็นกลางในสายตาของใครได้มากน้อยแค่ไหน แต่ยืนยันกับประธานและเพื่อนสมาชิกว่าจะทำหน้าที่ดีที่สุด จะทำหน้าที่ร่วมกับประธานและเพื่อนสมาชิกทั้งหมด เพื่อที่จะสร้างศรัทธาสร้าง ความเชื่อมั่น และสร้างเกียรติยศให้กับสภาแห่งนี้ เป็นที่เชิดหน้าชูตาของพี่น้องประชาชน” นายภราดรกล่าว
จากนั้นนายวันมูหะมัดนอร์ได้แจ้งต่อที่ประชุมว่า จะรีบนำชื่อนายพิเชษฐ์และนายภราดรขึ้นทูลเกล้าฯ ซึ่งการประชุมวันนี้ถือว่าเป็นบรรยากาศดีมาก ไม่เสียเวลาเรื่องต่างๆ ที่ได้ประโยชน์น้อย วันนี้เราได้ประโยชน์ล้วนๆ จากนั้นได้กล่าวปิดประชุมในเวลา 11.39 น. เพื่อให้ ส.ส.เตรียมตัวอภิปรายแถลงนโยบายรัฐบาลในวันที่ 12-13 กันยายนนี้