ภราดร ปริศนานันทกุล ลูกไม้หล่นใต้ต้น เดินตามรอยพ่อ ขึ้นบัลลังก์รองประธานสภาฯ

วันที่ 11 กันยายน 2567 - 16:00 น.

มติสภาฯ เลือก ภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง จากพรรคภูมิใจไทย ขึ้นเป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนใหม่

จากเดิมที่วางไว้ให้เป็นรองประธานฯ ลำดับที่ 1 แทน “หมออ๋อง” ปดิพัทธ์ สันติภาดา ที่ต้องหลุดจากตำแหน่ง หลังพรรคก้าวไกลถูกยุบ

แต่ 1 วันสุดท้าย ก่อนโหวตมีดีลใหม่ มาจากพรรคแกนนำรัฐบาล

โดยให้ พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ไขก๊อกลาออกจาก จากรองประธานฯ ลำดับที่ 2 เพื่อเปิดทางโหวตใหม่ทั้ง 2 ตำแหน่ง เพื่อสลับให้ พิเชษฐ์ ขึ้นเป็นรองฯ คนที่ 1 แล้ว ภราดร จากภูมิใจไทย มานั่งเป็นรองฯ คนที่ 2

จากรุ่นพ่อ

ในทางการเมือง ภราดร ปริศนานันทกุล หรือ “แบต” ถือเป็น “ลูกไม้หล่นใต้ต้น” ของ “เสี่ยตือ” สมศักดิ์ ปริศนานันทกุล ผู้เป็นพ่อ

เพราะ ภราดร เดินตามเส้นทางทางการเมืองของ สมศักดิ์ มาอย่างค่อยเป็นค่อยไป

ทั้งนี้ ต้องยอมรับ “ตระกูลปริศนานันทกุล” คือเจ้าของพื้นที่ใน “สนามเลือกตั้งอ่างทอง” มาอย่างยาวนาน โดยมีผู้เป็นพ่อวางรากฐากไว้ให้อย่างแข็งแรง

จากลูกชายคนเล็กร้านขายของชำ ในตลาดศาลเจ้าโรงทอง อ.วิเศษชัยชาญ ได้เข้ากรุงเทพมาเรียนรัฐศาสตร์ รามคำแหง ทำกิจกรรมเคลื่อนไหวทางการเมือง ในช่วงเดือนตุลาฯ ปี 16-19 จนกลับบ้านไม่ได้หลายปี

พอเรียนจบกลับบ้าน ก็ได้พบรักกับลูกสาวเจ้าของโรงสีวิเศษชัยชาญเจริญกิจ เพราะ “โอเลี้ยง” จากนั้นก็ช่วยพ่อตาทำโรงสีเรื่อยมา

กระทั่ง ในปีที่ แบต-ภราดร เกิด สมศักดิ์ ก็ตัดสินใจลงการเมือง ในปีนั้น

ปี 2523 ถัดมา 1 ปีก็ได้รับเลือกตั้งครั้งแรก เป็นส.จ. โดยการสนับสนุนของ “เสี่ยแหย” สมชัย ฤกษ์วรารักษ์ ซึ่งสมศักดิ์ รู้จักมาตั้งแต่เด็ก

โดยขณะนั้น “เสี่ยแหย” เป็นกรรมการบริหารพรรคชาติไทย จึงสนับสนุน “สมศักดิ์” ให้มาเล่นการเมืองระดับชาติ

กระทั่ง ในปี 2529 ได้รับเลือกตั้งส.ส.อ่างทอง สมใจ และเป็นผู้แทนฯเรื่อยมา ถึง 9 สมัย

ถือเป็นขุนพลคู่กาย ของ นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกฯผู้ล่วงลับ ผ่านการเป็นทั้งรัฐมนตรีช่วย และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร

มาถึงรุ่นลูก

สมศักดิ์ มีลูก 4 คน ชาย 3 หญิง 1 โดยลูกชายทั้ง 3 คน ทั้ง แบต ภราดร, แชมป์ กรีวร์ และ เชน ภคิน ล้วนมีเส้นทางเดียวกันตั้งแต่เด็กๆ เรียนโรงเรียนสวนกุหลาบเหมือนกัน เอนทราซ์เข้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้เหมือนกัน และที่สำคัญผ่านการเป็นผู้แทนฯ อ่างทองทุกคน

ในปี 2551 แบต ภราดร ลงสนามครั้งแรก จับคู่ สมศักดิ์ ชิงชัย 2 เก้าอี้อ่างทอง ชนะเลือกตั้งได้เป็นส.ส.เพียงอายุ 30 ปี

แต่จุดเปลี่ยนก็มาถึง เมื่อผู้เป็นพ่อต้องเว้นวรรคทางการเมือง 5 ปี จากคดีแจ้งบัญชีทรัยพ์สิน และหนี้สินอันเป็นเท็จ จึงส่ง เชน ภคิน ลูกชายคนเล็ก ลงสนามแทน ชนะเลือกตั้งซ่อม ได้เป็นส.ส.แทนพ่อ

พอเลือกตั้งปี 2554 เชน ภคิน ก็สลับให้พี่รอง แชมป์ กรวีร์ มาลงเลือกตั้งแทน

นับแต่นั้น สนามเลือกตั้งอ่างทอง ก็มีคู่พี่น้อง ภราดร-กรวีร์ เป็นผู้แทนมาถึงวันนี้

ทั้งนี้ สำหรับ ภราดร เป็น ส.ส.มาแล้ว 4 สมัย มีจุดเปลี่ยนทางการเมืองสำคัญ เมื่อปี 2562 ภายหลังสิ้นนายบรรหาร พรรคชาติไทยพัฒนา ต้องการรีแบรนด์ตัวเองใหม่

แผนคือดันยังบลัดรุ่นใหม่ขึ้นนำทัพ ให้ “ท็อป” วราวุธ ศิลปอาชา เป็นหัวหน้า วาง “โต้ง” สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ เป็นเลขาธิการพรรค โดยมี 2 พี่น้องภราดร-กรวีร์ ขึ้นมาเป็นกำลังหลัก

แต่ที่สุดแล้ว แผนนี้ถูกล้มลง “โต้ง” สิริพงศ์ ลาออกทันทีทั้งน้ำตา ย้ายไปอยู่ภูมิใจไทย

ไม่นาน สมศักดิ์ ไขก๊อกด้วย ปิดตำนานตัวเองที่ชาติไทย จากนั้นลูกชายทั้ง 2 ก็ออกตาม ไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย เช่นเดียวกับ “โต้ง” สิริพงศ์

จากพรรคชาติไทย ชาติไทยพัฒนา ย้ายมาอยู่ภูมิใจไทย ยังบลัดกลุ่มนี้ คัมแบ๊กกลับเข้าสภาฯได้ทั้งหมด

แม้เลือกในปี 2562 สนามเลือกตั้งอ่างทอง จะเหลือส.ส.เพียงคนเดียว โดยที่ แชมป์ กรวีร์ ที่ย้ายไปขึ้นปาร์ตี้ลิสต์ แต่ก็อยู่ในลำดับที่ได้เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ

2 สมัยหลัง ในฐานะส.ส.ภูมิใจไทย ภราดรถือเป็นหน้าตาของพรรค ได้รับความไว้วางใจให้เป็นโฆษกฯ และล่าสุดได้รับเลือกให้เป็นรองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย

จากโปรไฟล์ในสมัยเรียนธรรมศาสตร์ เป็นนักกิจกรรม ประธานนักศึกษามหาลัยธรรมศาสตร์ ในวันที่การเมืองบนถนนของเยาวชนร้อนแรง ก็ได้รับบทบาทสำคัญจากสภาฯ ให้เป็นประธานกมธ.วิสามัญรับฟังความเห็นนักเรียน นักศึกษา และประชาชน

17 ปีที่อยู่ในสภาฯ วันนี้ภราดรได้รับความไว้วางใจจากพรรคภูมิใจไทย ให้ขึ้นเป็น “รองประธานสภาฯ” แล้ว

พร้อมประกาศลั่นกลางสภาฯ อันเป็นคำมั่นสัญญา ในการทำหน้าที่รองประธานสภาฯของตัวเอง

“ผมจะไม่เป็นรองประธานสภาของพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง จะไม่เป็นรองประธานสภาของฝ่ายรัฐบาล แต่ผมจะเป็นรองประธานสภาของเพื่อนสมาชิกทั้ง 493 คน”