แถลงนโยบายวันที่สอง พรรคประชาชน ติงรบ.ไร้แพลนพัฒนาแรงงาน ด้าน “พิชัย” วอนอย่าโจมตีสินค้าจีน คิดกลับจีนไม่ปล่อยนทท.มาไทยเสียหาย
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 13 กันยายน ที่รัฐสภา การประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 2 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาเรื่องด่วน คณะรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ตามมาตรา 162 ของรัฐธรรมนูญ มี นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุม โดย นายมงคลแจ้งเวลาอภิปรายที่เหลือของแต่ละฝ่ายว่า ประธานในที่ประชุมเหลือเวลา 18 นาที นายกฯและ ครม.เหลือ 3 ชั่วโมง 10 นาที ส.ว.เหลือ 2 ชั่วโมง 9 นาที ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลเหลือ 1 ชั่วโมง 16 นาที ส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้านเหลือ 6 ชั่วโมง 40 นาที โดยระยะเวลาอภิปรายที่ใช้ไปในวันแรกทั้งหมด 15 ชั่วโมง 23 นาที คงเหลือ 13 ชั่วโมง 36 นาที จึงขอแจ้งให้ที่ประชุมทราบ
นายสหัสวัต คุ้มคง ส.ส.ชลบุรี พรรคประชาชน อภิปรายท้วงติงนโยบายด้านแรงงาน ว่า แผนพัฒนาแรงงานของรัฐบาลนั้นขาดมาสเตอร์แพลน ทำให้การพัฒนาอาจเป็นไปไม่ได้ตามเป้าหมายใหญ่โต อาทิ การพัฒนาแรงงานด้านอีวี โดยการรีสกิล แรงงานภาคยานยนต์สันดาปเข้ามาสู่อีวี และถ้าไปดูตลาดโลกตอนนี้จะเห็นกำลังซื้ออีวีชะลอตัวลง กำลังการผลิตลดลง คนเริ่มมองหาพลังงานชนิดอื่นแล้วด้วยซ้ำ แล้วโรงงานรถอีวีที่เข้ามาตั้งก็มีความไม่แน่นอนสูง นโยบายนำเข้ารถอีวี 0% ทั้งคัน ตอนแรกบอกว่า นำเข้า 1 คัน ผลิต 1 คัน เปลี่ยนเป็นนำเข้า 1 ผลิต 1.5 คัน ในปี 2568 คำถามคือในปี 2567 ก็ยังผลิตไม่ทัน แล้วปี 2568 ต้องผลิตเพิ่มขึ้นมันจะทันหรือ ท่านจะมีมาตรการขยายเวลาแบบนี้ไปเรื่อยๆ แล้วเมื่อไหร่จะได้ผลิต หลายโรงงานดีเลย์ไปเยอะมากแล้ว ถ้าถึงเวลาแล้วเขาไม่มีผลิต เบี้ยวปิดโรงงานหนี ท่านมีมาตรการอย่างไร การเดินไปข้างหน้านั้นดี แต่ถ้าเดินไปแบบนี้ตนเกรงว่านี่คือการปิดตาเดินเข้าป่าเข้ารกเข้าพง
ต่อมาเวลา 10.20 น. นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ชี้แจงว่า เท่าที่ทราบเศรษฐกิจเราตกต่ำมานานแล้ว เราโตแค่ 1.9% ซึ่งปัญหาเหล่านี้ตนก็อยากให้ทุกคนร่วมมือกันประเทศเราจะได้เจริญ และต้องยอมรับว่ารัฐบาลชุดนี้โชคดี เพราะในภาวะที่จะเกิดขึ้นในโลก เพราะสงครามการค้านั้นไม่ว่าสหรัฐอเมริกาใครจะเลือกตั้งชนะสงครามการค้าจะเกิดขึ้นแน่ ซึ่งโอกาสของไทยอยู่ตรงนี้ เนื่องจากว่าประเทศไทยเราได้ประโยชน์ที่ว่าสหรัฐอเมริกาและจีนก็ว่าเราเป็นเพื่อน ดังนั้น นี่คือโอกาสของเราจะกลับมา ซึ่งจีนไปหาที่ลงทุนหลายประเทศแต่มาจบที่ไทย ซึ่งที่เขาไม่ไปเวียดนามเพราะเขาไม่ย้ายจากคอมมิวนิสต์ไปคอมมิวนิสต์
นายพิชัยกล่าวว่า ส่วนเรื่องสินค้าจีนนั้นเราก็ไม่อยากให้ไปโจมตีประเทศจีนกันมากนัก ซึ่งตนก็ได้คุยกันสถานทูตจีน และเขาก็บอกว่าอย่าทำให้จีนเป็นผู้ร้ายเลย เขาอยากให้ความรู้สึกของคนไทยดีกับเขา เราก็อาจจะมีวิธีของเรา แต่คงไม่ใช่การใช้ความรุนแรง อย่างอินโดนีเซียเขาขึ้นภาษีสูง ส่วนของเราไม่ใช่แบบนั้น เพราะถ้าวันดีคืนดีจีนบอกว่าไม่ซื้อทุเรียนเราก็จะหายไปเป็นแสนล้าน หรือเขาไม่ส่งนักท่องเที่ยวมาเราก็เสียหายได้ ส่วนสินค้าเกษตรนั้นกระทรวงเราดำเนินการเชิงรุก เราจะรู้ล่วงหน้าว่าแต่ละเดือนจะมีผลผลิตอะไรออกมา และมีขั้นตอนอย่างไรในการที่จะให้สินค้าเกษตรมีราคาสูงขึ้น ซึ่งก็เป็นตามจริง สินค้าที่เราดำเนินการเช่นนี้ก็มีราคาสูงขึ้นจริง อย่างไรก็ตาม ทิศทางของอนาคตการที่ประเทศเราจะพัฒนาต่อไปด้วยการเป็นมิตรกับทุกฝ่ายทั้งสหรัฐอเมริกา อินเดีย จีน รัฐบาลโดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร จะเร่งดำเนินการแก้ปัญหาและมีทิศทางให้เศรษฐกิจเห็นผลชัดเจน ยืนยันว่าอีกไม่นานรัฐบาลจะมีทยอยเรื่องต่างๆ ออกมาว่าจะช่วยประชาชนอย่างไร และพัฒนาประเทศได้