“ชวน” แนะ “รัฐบาลอิ๊งค์” ยึดหลักซื่อสัตย์สุจริต-หลักนิติธรรม เชื่อ หากทำได้นโยบายจะสำเร็จ ไม่ซ้ำรอยวิกฤตไฟใต้เหมือนในอดีต
เมื่อวันที่ 13 กันยายน ที่รัฐสภา การประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 2 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาเรื่องด่วน คณะรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ตามมาตรา 162 ของรัฐธรรมนูญ มี นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม
เวลา 13.55 น. นายชวน หลีกภัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายว่า เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2566 ได้เคยอภิปรายนโยบายรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ วันนั้นเป็นการพูดในฐานะฝ่ายค้าน ส่วนวันนี้พูดในฐานะรัฐบาล แต่ไม่ว่าตนจะอยู่พรรคไหนก็ตาม ความจริงก็คือความจริง ความจริงไม่อาจเปลี่ยนไปตามฐานะ ดังนั้น ข้อมูลที่จะพูดถึงปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งขอย้ำว่าตอนนั้น ต้องการให้รัฐบาลบรรจุปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ติดขัดที่ขณะนั้นนโยบาย 14 หน้าของรัฐบาลไม่มีเรื่องนี้เลย แต่ขณะนี้รัฐบาลบรรจุไว้แล้ว แม้จะเป็น 1 บรรทัด แต่เท่ากับยอมรับว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ ทั้งนี้ ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตนถือหลักว่าชีวิตมีค่ามากกว่าเงิน เราจะผิดพลาดนโยบายเศรษฐกิจขาดทุนเท่าไหร่ก็ไม่เท่าชีวิตคนว่า 7,500 คนที่เสียไปจากความผิดพลาดนโยบายด้านความมั่นคง ซึ่งนายกรัฐมนตรีแถลงนโยบายว่าต้องการเห็นความสามัคคีปรองดอง เรื่องนี้ไม่มีใครไม่เห็นด้วย แต่ความปรองดองจะเกิดขึ้นได้ต้องปฏิบัติกับทุกคนอย่างเสมอภาคไม่เลือกปฏิบัติ
นายชวนกล่าวต่อว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ปฏิญาณตนว่าจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ นึกถึงประโยชน์ประเทศ และจะปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญทุกประการ เรามีข้าราชการแต่ละกระทรวงพวกเขาไต่เต้าทำงานมาตามลำดับ เราต้องให้เกียรติข้าราชการ ซึ่งความซื่อสัตย์สุจริตในการแต่งตั้งต้องไม่เอาตำแหน่งมาเป็นราคา ดังนั้น นักการเมืองต้องปฏิบัติตามหลักธรรมาภิบาล ให้โอกาสคนเหล่านั้นมาตามความสามารถไม่ใช่ด้วยราคา ส่วนการปฏิบัติหน้าที่เพื่อประโยชน์ประเทศและประชาชน วันนี้เหมือนระบบมือใครยาวสาวได้สาวเอา จึงอยากขอให้ ครม.แปลความข้อนี้ให้ชัดเจนว่า การบริหารประเทศไม่ใช่เพื่อประโยชน์พรรคการเมือง แต่เพื่อประโยชน์ของประชาชน ส่วนสุดท้ายคือการยึดหลักนิติธรรม ซึ่งเป็นหัวใจของการปกครอง ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ถ้ายึดหลักนิติธรรมตั้งแต่ต้นปัญหาจะไม่เกิดขึ้น แต่บังเอิญช่วงหนึ่งเราใช้ฝ่ายบริหารเป็นศาล จึงเป็นที่มาของทุกวันนี้
“หากรัฐบาลยึดแนวทางข้างต้น คือ ยึดหลักความซื่อสัตย์สุจริต คำนึงถึงประโยชน์ประเทศ ประชาชน และยึดหลักนิติธรรม สิ่งนี้จะทำให้นโยบายต่างๆ ประสบความสำเร็จ” นายชวนกล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ปธ.วิปฝ่ายค้าน โวยรมต.หนีกระทู้ ทั้งที่แจ้งล่วงหน้าถึง 2 วัน ทำเสียโควต้าถามสด
- บิ๊กอ้วน ชิ่งฝ่ายค้าน 2 กระทู้รวด วิโรจน์ ฉะยับไม่ใส่ใจ ย้อนกลาโหม ไม่ได้มีรมต.แค่คนเดียว
- ภูมิใจไทย กลับลำ งดออกเสียง รื้อเกณฑ์ประชามติ ทั้งที่รอบแรก ยกมือโหวตเห็นด้วย
- มติสภาฯไม่ยอม เจอวีโต้ ร่างกม.ประชามติ ตั้งกมธ.ร่วมสู้ต่อ ด้านภท.อภิปรายหนุนส.ว.เฉย