ยิ่งชีพ คาใจคนแจ้ง ม.116 พุ่งเป้า ‘สุชาติ’ ไม่ใช่ไอลอว์ อัดใช้เทคนิคน่าเกลียด แจ้งความทางไกล ต้องเหนื่อยเดินทางไปสู้คดี
เมื่อวันที่ 15 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี นายทรงชัย เนียมหอม กลุ่มประชาภักดิ์พิทักษ์สถาบัน กล่าวหา นายสุชาติ สวัสดิ์ศรี หรือ สิงห์สนามหลวง บรรณาธิการ-นักคิดนักเขียน-ศิลปินแห่งชาติผู้ถูกถอดถอน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ไว้ที่ สภ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง
ทั้งนี้ นายทรงชัยได้ไปแจ้งความกล่าวหาไว้ตั้งแต่เมื่อวันที่ 30 ต.ค.2565 โดยนำโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 29 ต.ค.2565 ซึ่งเป็นการแชร์คลิปวิดีโอจากเพจ iLaw ในเรื่อง “10 ข้อที่คนไม่รู้เกี่ยวกับ #มาตรา112” มากล่าวหา และผู้แชร์ข้อความเพียงแต่เขียนข้อความประกอบว่า “ทำไมจึงต้องยกเลิก ม.112 เราจะเลือกพรรคการเมืองที่มีนโยบายชัดเจนเรื่อง ‘ยกเลิก ม.112’ #ปล่อยเพื่อนเรา”
โดยนายสุชาติ พร้อมทีมทนายความ เตรียมจะแถลงข่าวถึงคดีที่เกิดขึ้น พร้อมแนวทางการต่อสู้ ในวันที่ 19 กันยายน เวลา 14.00 น. ที่ห้อง 221 คณะนิติศาสตร์ มธ.ท่าพระจันทร์
เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้อำนวยการไอลอว์ เปิดเผยว่า อาจารย์สุชาติ สวัสดิ์ศรี ถูกดำเนินคดีจากการแชร์โพสต์ iLaw ที่พูดถึงปัญหาของ #มาตรา112 ซึ่งข้อความที่อาจารย์สุชาติเขียนไว้ตอนแชร์ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย ถ้าจะมีปัญหาที่เนื้อหาของต้นโพสต์ ก็ควรจะดำเนินคดีกับเรา ไม่ใช่กับคนที่แชร์
เอาจริงก็ยังไม่รู้ว่าเขาจะดำเนินคดีกับเราหรือเปล่า แต่คนแจ้งความตอนนี้ใช้เทคนิคแจ้งความ “ทางไกล” ให้ต้องเดินทางไกลเพื่อไปต่อสู้คดี ถึงศาลยกฟ้องก็เหนื่อยหน่ายหมดพลังกันไปมาก คดีแบบนี้ถ้าให้ดีตำรวจ หรืออัยการควรจะสั่งไม่ฟ้อง เพื่อคุ้มครองสิทธิของคนที่โดนแจ้งความ หรืออย่างน้อยก็สั่งให้โอนคดีมายังพื้นที่ที่จำเลยมีภูมิลำเนา แต่ถ้าเป็นการดำเนินคดีกับเราและเราได้ไปร่วมการพิจารณาคดีทั้งหมด ก็อาจจะมีช่องที่ใช้ “ฟ้องกลับ” ได้ ซึ่งก็จะเหนื่อยเราอีก เพราะต้องเดินทางไปฟ้องกลับตรงนั้นที่มันเกิดเหตุ
เนื้อหาของคดีก็ไม่น่าจะยากเย็นอะไรในการต่อสู้ว่าไม่ได้ผิด แต่การจงใจใช้กระบวนการสร้างภาระแบบนี้ก็เป็นเทคนิคน่าเกลียดที่อาจส่งผลให้คนอยากช่วยกันพูด หรือช่วยกันแชร์เรื่องทำนองนี้น้อยลงได้ แต่คงเปลี่ยนใจผู้คนในสังคมไม่ได้ มีแต่ทำให้คนเกลียดชังกันมากขึ้นไปอีก