แสงมาแล้วจ้า อลงกต ดีใจ ดังแล้ว หลังถูกร้องจริยรรม ยัน ไม่ได้ล้อเลียน ‘เศรณี’ หรือซ้ำเติมผู้ประสบภัย ชี้ ร้องไห้ให้กับการศึกษาที่ไม่เคยสำเร็จ เปรียบตนเป็นพระเทวทัต ต้องนิ่ง ขอสู้กันในสภาดีกว่า
เมื่อวันที่ 17 กันยายน ที่รัฐสภา นายอลงกต วรกี ส.ว. แถลงข่าวถึงกรณีนายแทนคุณ จิตต์อิสระ อดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์ ยื่นประธานวุฒิสภาเพื่อขอให้ตรวจสอบจริยธรรม กรณีล้อเลียนแกล้งร้องไห้ ในการประชุมวุฒิสภาเพื่อตั้งกรรมาธิการวิสามัญศึกษาแนวทางแก้ปัญหาน้ำท่วม ว่า จากประสบการณ์ส่วนตัวของตนเองที่ได้เจอกับปัญหาน้ำท่วมมาหลายครั้ง มองว่าการตั้งกรรมาธิการแบบนี้ทำมาแล้วกว่า 30 ปี แต่เมื่อได้รายงานผลการศึกษา ในรายงานมีเขียนถึงปัญหาไว้ 80 เปอร์เซ็นต์ ข้อเสนอมีประมาณแค่ 10 หน้า และเมื่อศึกษาเสร็จก็ไม่มีผลสำเร็จในการแก้ปัญหาน้ำท่วมในระยะยาว
นายอลงกตกล่าวต่อว่า เราไม่ควรมาศึกษาต้นเหตุการเกิดน้ำท่วม แต่ควรศึกษาหาวิธีช่วยเหลือประชาชนไม่ให้สูญเสีย และเยียวยาอย่างรวดเร็วที่สุด ซึ่งสาเหตุที่ตนอภิปราย และแสดงความเศร้าเสียใจคือ เราหมดงบประมาณกับการจัดทำรายงานการศึกษาแต่ทำอะไรไม่ได้เลย เราควรต้องแก้ปัญหา และความช่วยเหลือขณะเกิดภัยอย่างไร
ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าการทำท่าร้องไห้เป็นการไม่เคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ นายอลงกตระบุว่า ต้องถามกลับว่าคนที่วิจารณ์ได้ดูคลิปเต็มหรือดูเพียงคลิปในแอพพ์ TikTok เพราะในคลิปเต็มตนกล้ายืนยันว่ามีเนื้อหาชัดเจน แต่คนนำไปบิดเบือน ซึ่งตนมีหน้าที่รับคำด่าหรือคำติชมในทุกกรณีอยู่แล้ว จึงไม่มีปัญหา
“ผมร้องไห้เศร้าใจ ไม่ได้เศร้าใจกับคนประสบปัญหา แต่เศร้าใจกับการแก้ปัญหาที่เน้นเรื่องการศึกษามากกว่าการแก้ปัญหา แต่คนในแอพพ์ Tiktok ก็ไปบิดเบือนข้อความ แต่ไม่เป็นไร เพราะในเมื่อเขามีความเห็นที่ไม่สบอารมณ์กับตัวผม ผมก็มีหน้าที่รับคำติชมและคำติเตียนในทุกกรณี หากจะมีสอบขึ้นมาก็ไม่มีปัญหา เพราะในเนื้อหาเต็มผมพูดว่า ผมเศร้าใจกับการศึกษาเนื้อหา แต่ไม่เกิดผลสำเร็จ” นายอลงกตกล่าว
นายอลงกตกล่าวอีกว่า คงต้องสืบหาว่าใครเป็นคนนำเนื้อหาไปบิดเบือน ส่วนผู้มายื่นร้องจะมีเจตนาอย่างไรนั้น ก็ขอให้ไปคิดเอง พร้อมยกตัวอย่างว่า เวลามีบางเหตุการณ์เกิดขึ้น ก็มีการมาออกข่าวกับสื่อมวลชน เขาต้องการอะไรตนก็ตอบไม่ได้ รวมทั้งเหตุการณ์ที่ตนอภิปรายก็เกิดขึ้นก่อนเหตุการณ์น้ำท่วมที่จังหวัดเชียงราย เป็นคนละเหตุการณ์แต่ก็มีคนนำมาเชื่อมโยงกัน
เมื่อถามว่าจะมีการดำเนินการอย่างไรกับผู้ที่ออกมาร้องทำให้เสียหาย นายอลงกตกล่าวว่า ตนเหมือนพระ มีทั้งพระเทวทัต ก็ต้องเฉย เพราะทำอะไรก็ไม่เห็นว่าจะมีประโยชน์ ไปสู้กันในสภาดีกว่า เพราะสู้นอกสภาไปก็ไม่มีประโยชน์
“ขอเรียนตามตรงนะครับ พวกน้อง (นักข่าว) มาหาพี่เองใช่ไหม เพราะตอนนี้แสงมาหาผมแล้ว ผมไม่ได้ไปหาพวกคุณแบบบางคน เพราะว่าแสงของพวกคุณมาหาผมแล้ว ผมไม่ได้มีปัญหากับเรื่องนี้ แต่คิดดูนะ ผมเจอ ส.ส.บางคนเป็น ส.ส.มาสามปี แต่ไอ้นี่เป็น ส.ส.มาสามเดือน ทำไมดังกว่าอีก แต่ไม่เป็นไรก็ถือเป็นชื่อเสียงแก่วงศ์ตระกูลผม” นายอลงกตกล่าว
นายอลงกตยังยืนยันอีกว่า ไม่ได้มีปัญหานายเศรณี อนิลบล สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ที่ร้องไห้ขณะอภิปราย พร้อมยืนยันว่าไม่ใช่การล้อเลียน บางคนอยากจะโยงก็โยง แต่คนที่ไม่โยงเขาก็ไม่โยง เช่น คุณใส่เสื้อสีดำผมใส่เสื้อสีเทา เท่ากับผมล้อเลียนคุณหรือไม่ หมายความว่า อยู่กับคนที่เชื่อมโยง และต้องดูว่าตนได้มีการพูดถึงนายเศรณีหรือไม่ แล้วจะมาหาว่าตนล้อเลียนนายเศรณีได้อย่างไร
“แต่พอมีคลิป TikTok ออกไป ดีครับท่านผมดัง ตอนนี้ผมว่าดาวสภา ส.ว. ผมน่าจะติด 1 ใน 5 ถูกไหม” นายอลงกตกล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ามีอะไรอยากจะฝากถึงประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่รับข่าวสารแล้วเข้าใจว่าเป็นการซ้ำเติม นายอลงกตระบุว่า เขาคงมีความรู้สึกว่า “ไอ้เวรนี่ ไอ้ ส.ว.อลงกตนี่ไปซ้ำเติมเขา“ อารมณ์โกรธก็จะมา ในช่วงนี้คงจะไม่ฟังคำอธิบาย แต่ไม่เป็นไร เพราะตอนนี้เขาอยู่ในอารมณ์ที่ไม่พร้อมจะเรียบเรียงว่าตนอภิปรายในช่วงก่อนเกิดเหตุน้ำท่วม และบางคนก็พยายามเสี้ยม ก็เติมแสงสีลงไปในแอพพ์ TikTok แต่ตนก็พร้อมน้อมรับ และยืนยันว่าไม่เคยดูหมิ่นเหยียดหยามผู้ประสบภัย และผู้ประสบภัยต้องได้รับการช่วยเหลือ ทั้งขณะเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุ