“กมธ.ทหาร” โวย ทร.สอบปมเรือหลวงสุโขทัยไม่โปร่งใส ขอเอกสาร 13 อย่าง ส่งกลับมาแค่อันเดียว อัด “ผู้ใหญ่ทัพเรือ” ไม่รับผิดชอบ ลอยนวลรอวันเกษียณ จี้ “บิ๊กอ้วน-บิ๊กเล็ก” สางปัญหา
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 19 กันยายน 2567 ที่รัฐสภา นายชยพล สท้อนดี ส.ส.กทม. พรรคประชาชน ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การทหาร แถลงความคืบหน้าการติดตามกรณีเรือหลวงสุโขทัยล่มว่า ภายหลังมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนเรื่องดังกล่าว กองทัพเรือได้ย้ำมาตลอดว่า ต้องมีการกู้เรือเพื่อรวมหลักฐาน ก่อนจะเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดแก่ประชาชน ซึ่งในขณะนั้น กองทัพเรือได้มีการประมูลบริษัทที่จะมากู้เรือ วงเงิน 200 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม หลังถูกเปิดหลักฐานว่า การประมูลการกู้เรือนั้นทำไม่ถูกต้อง กองทัพเรือก็ได้เปลี่ยนท่าที ล้มเลิกการประมูล และยอมให้สหรัฐอเมริกาเข้ามาช่วยกู้เรือ แต่กลายเป็นว่า ไม่มีการกู้เรือเลยในตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ทั้งที่บอกว่าเป็นเรื่องสำคัญ
นายชยพลกล่าวต่อว่า กมธ.ทหารชุดปัจจุบัน ได้ติดตามและขอหลักฐานมาโดยตลอด ซึ่งขอไป 13 อย่าง แต่ได้มาแค่เพียง 1 อย่างเท่านั้น คือข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้างการซื้อเรือหลวงสุโขทัย ซึ่งไม่ได้มีสาระสำคัญ อีกทั้งไม่ได้รับการตอบกลับอะไรจากกองทัพเรือเลย ทั้งนี้ เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ เพราะเราสูญเสียเรือรบมูลค่ากว่า 5 พันล้านบาท ชีวิตกำลังพล 20 นาย สูญหาย 5 นาย แต่ผู้ใหญ่ในกองทัพเรือที่กำลังจะเกษียณอายุราชการในเดือนตุลาคมนี้ ก็ยังไม่ยอมรับผิดชอบต่อคำพูดของตัวเอง มีเพียงแต่คำสัญญาที่ไม่เคยเป็นจริง ตนจึงขอแสดงความกังวลในเรื่องนี้ และขอถามว่า จะมีการสะดุ้งยืดอกรับผิดชอบอะไรหรือไม่ หรือเป็นความพยายามของกองทัพเรือที่จะยืดเวลารอให้ตัวเองลอยลำ พ้นการรับผิดชอบ จึงหวังว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมคนใหม่ จะให้กองทัพเรือเปิดเผยหลักฐานที่สำคัญมากกว่านี้
ด้าน นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคประชาชน ในฐานะโฆษก กมธ. กล่าวว่า เรื่องนี้ยังมีอีกหลายประเด็นที่ยังมีข้อสงสัย ทั้งการให้เรือรบออกทำหน้าที่สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งไม่ใช่หน้าที่ของกองทัพเรือ รวมถึงการสั่งให้เรือรบที่กำลังจะล่มกลับสัตหีบ ทั้งที่ต้องเดินทางอีกครึ่งวัน รวมถึงกระบวนการสอบสวนที่ยังไม่โปร่งใส ทั้งนี้ เป็นเรื่องที่น่าประหลาดมาก ว่าการสูญเสียทั้งหมดนี้ถูกปิดคดีทั้งที่ไม่มีใครรับผิดชอบ ทั้งความผิดทางวินัยและอาญา ดังนั้น จึงขอฝากไปยังนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รวมถึง พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ทำเรื่องนี้ให้โปร่งใส ถอดบทเรียน เพื่อปรับปรุงกองทัพเรือให้ดีขึ้น