เฉลิมชัย แจงสภา ออกเอกสารสิทธิที่ดินในป่าไม่ใช่ง่ายๆ ต้องทำให้ถูกกฏหมาย เร่งกรมอุทยานไปทำความเข้าใจปชช.
วันที่ 19 กันยายน นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตอบกระทู้ถาม ที่ 313 เรื่องปัญหาที่ดินและการออกเอกสารสิทธิ์ให้กับประชาชนในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งเป็นกระทู้ถามนายกรัฐมนตรี
คำถามที่หนึ่ง รัฐบาลจะออกพระราชกฤษฎีกาให้กับประชาชนที่อาศัยอยู่และทำกิน ในพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช พ.ศ. 2562 ตามมาตรา 64 เมื่อใด
รมว.ทรัพยากรฯ กล่าวตอบว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้ความสำคัญกับชีวิตความเป็นอยู่ของ ประชาชน ที่อยู่ในเขตป่าอนุรักษ์ ซึ่งมอบหมายให้กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้ดำเนินการสำรวจการถือครองพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ตามพระราชบัญญัติ ฯ ปี 2562 มาตรา 64 จะมีพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า อุทยานแห่งชาติ เขตห้ามล่าสัตว์ป่า ปรากฎว่ามีประชาชนอาศัยอยู่ทั้งหมด 224 ป่าอนุรักษ์ 4,042 หมู่บ้าน 314,784 ราย พื้นที่ทั้งหมด 466,307 แปลง เป็นพื้นที่ทั้งหมด 4.27ล้านไร่ ซึ่งจะนำพื้นที่ต่างๆ ที่กล่าวมา มาบริหารจัดการและทำแผนที่ท้ายร่างพระราชกฤษฎีกา เพื่อกำหนดโครงการอนุรักษ์และดูแลทรัพยากรธรรมชาติ และจัดส่งให้กรมการปกครองตรวจรับรองแนวรับต่อไปตามระเบียบให้ครบ และขอรายงานในสภาแห่งนี้ว่า ในส่วนที่กระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม ได้ดำเนินการไปตามกระทู้ถาม ได้แก่
1.คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบหลักการในจำนวนพื้นที่ที่กล่าวมาเป็นจำนวน 14 ป่าอนุรักษ์ 2. อยู่ระหว่างเตรียมการเสนอให้คณะรัฐมนตรีอนุมัติจำนวน 50 ป่าอนุรักษ์ และอยู่ในส่วนระหว่างดำเนินการปรับแก้ตามที่กรมการปกครองแนะนำจำนวน 160 ป่าอนุรักษ์ ซึ่งตามกฎหมายทั้งหมดจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2567 นี้
สรุปทั้งหมดจะเป็น 3 ส่วน 1.ครม.ได้ดำเนินการรับหลักการไปแล้ว 2.อยู่ในระหว่างเสนอ ครม. และ 3.เสนอกลับไปให้กรมการปกครองพิจารณาแนวเขต ซึ่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้มอบหมายให้กรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืชได้เร่งในการจัดทำข้อมูลและทำความเข้าใจกับประชาชนผ่านกิจกรรมการมีส่วนร่วมในทุกภาคส่วน จำนวน 2 กิจกรรม ดังนี้ 1.การจัดทำแนวเขตที่อยู่อาศัยและทำกินของราษฎรทุกพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ระยะทางรวมทั้งสิ้น 75,000 กิโลเมตร เพื่อที่จะให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับทราบ และเป็นการสร้างการรับรู้ความเข้าใจแนวเขตเพื่อการอยู่อาศัยทำกินร่วมกันและป้องกันไม่ให้มีการบุกรุกแนวเขต ซึ่งโครงการต่างๆ ได้ดำเนินการทั้งปี 2564 – 2567 จำนวนทั้งสิ้น 41,168 กิโลเมตร เนื้อที่ประมาณ 2.5 ล้านไร่ และมีเป้าหมายในการดำเนินการตามโครงการนี้ จะให้แล้วเสร็จภายในปี 2569
รมว.ทรัพยากรฯ กล่าวต่อว่า การจัดทำแปลงที่ดินราษฎรในป่าเขตอนุรักษ์ เพื่อให้เกิดความมั่นคงในการดำเนินชีวิตและเป็นการให้สิทธิแก่ราษฎรที่อยู่อาศัยได้ทำกินอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และได้มีการสืบทอดไปถึงลูกหลานทำให้เกิดความชัดเจนในการครอบครองที่ดินของบุคคลที่เป็นที่ยอมรับร่วมกันและเป็นการรองรับนโยบายของรัฐในการที่จะสนับสนุนช่วยเหลือประชาชนในอนาคต โดยจัดทำหนังสือแสดงที่อยู่อาศัยและทำกินในเขตอนุรักษ์และทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือหรือเอ็มโอยู เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนโดยจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปี 2569 จำนวนทั้งหมด 42 ป่าอนุรักษ์ 331 หมู่บ้าน
และนอกจากนั้นกระทรวงฯ ยังได้ดำเนินการเร่งรัดเพื่อที่จะให้ประชาชนที่มีอยู่ในป่าต่างๆ ดำเนินการอยู่อย่างถูกต้องตามกฎหมายและมอบให้กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชเร่งดำเนินการสร้างความเข้าใจจัดเวทีพบปะพี่น้องประชาชนชาวบ้านที่อยู่ในเขตให้เข้าใจถึงแนวทางการดำเนินการในการที่จะอยู่ร่วมกันให้แล้วเสร็จภายในปีงบประมาณ 2568 เพื่อที่จะนำไปสู่เป้าหมายที่จะทำให้เรียบร้อยภายในปี 2569
คำถามที่สอง รัฐบาลจะออกเอกสารสิทธิ์ให้กับประชาชนที่อาศัยอยู่ในที่ทำกินในเขตป่าสงวนแห่งชาติ และป่าเสื่อมโทรม ที่กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้ดูแลพื้นที่ในเขตป่าสงวนเสื่อมโทรมได้ เมื่อใด
นายเฉลิมชัย กล่าวตอบว่า ตนเคยเป็น ส.ส.พื้นที่มาก่อน เข้าใจความรู้สึกของผู้แทนดี เมื่อได้รับปัญหาจากพี่น้องในพื้นที่มา ขอเรียนว่าพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติที่กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้นำไปบริหารจัดการ เป็นการจัดที่ดินในรูปของสหกรณ์เช่าพื้นที่ทั้งหมด 13 นิคม 14 ป่า และยังมีนิคมสหกรณ์แม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ในพื้นที่ทั้งหมด 13 จังหวัด เพื่อเป็นการช่วยเหลือประชาชนที่อยู่ป่าสงวนแห่งชาติให้มีสิทธิได้อยู่อาศัยและทำกิน
ในส่วนของคำถามเรื่องเอกสารสิทธิ์นั้น ด้วยมติของคณะรัฐมนตรี 13 สิงหาคม 2567 ที่มีผลบังคับใช้อยู่ จึงไม่สามารถที่จะออกเอกสารสิทธิ์ให้กับประชาชนที่อยู่ในสหกรณ์ ที่เข้าไปดำเนินการตรงนี้ได้ เนื่องด้วยเหตุผลต่างๆ และมติคณะรัฐมนตรียังมีผลใช้บังคับอยู่ ตนเข้าใจถึงปัญหานี้ดีว่าวันนี้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ต่างๆเหล่านี้ยังมีอีกหลายจังหวัด ยังมีปัญหาอยู่แม้แต่กระทั่งจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ซึ่งเป็นพื้นที่ของตนก็ปัญหานี้อยู่ แต่เมื่อกฎหมายกำหนด
จึงขอตอบว่าในการออกเอกสารสิทธิวันนี้ ยังไม่สามารถดำเนินการได้ แต่กระทรวงฯจะดำเนินการในส่วนที่จะให้ประชาชนได้รับสิทธิตามกฎหมายที่พึงจะได้รับ เพื่อให้ได้รับสิทธิชดเชยสวัสดิการต่างๆได้ สิ่งที่สามารถดำเนินการได้ตนจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุดคือการที่ให้สหกรณ์ได้ดำเนินการให้ถูกต้อง มีการเช่าพื้นที่ใช้พื้นที่ให้ถูกต้อง โดยสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.)ได้มีมติให้นำที่ดินต่างๆมาจัดสรรที่ทำกินให้กับชุมชน ตรงนี้จะเป็นกระบวนการที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว อย่างน้อยที่สุดจะได้ให้สิทธิขั้นพื้นฐานที่ประชาชนซึ่งเป็นคนคนไทยเหมือนกันสมควรได้รับเหมือนกับพี่น้องประชาชนคนไทยทั่วประเทศ
นายเฉลิมชัย ยังกล่าวถึงกระบวนการว่า กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้เสนอพื้นที่ทั้งหมด 13 นิคม 14 ป่า 13 จังหวัด เนื้อที่ประมาณ 1,520,000 ไร่เศษๆ เข้ามาสู่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งมติที่ประชุมคณะอนุกรรมการจัดที่ดินเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2564 ได้กำหนดให้เป็นพื้นที่เป้าหมายที่จะดำเนินการจัดที่ทำกินให้กับชุมชน และได้แจ้ง คทช.จังหวัดได้รับทราบ เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบและแจ้งให้คณะอนุกรรมการพิจารณาได้รับทราบต่อไป เมื่อคณะกรรมการอนุกรรมการที่ดินได้รับทราบ กรมป่าไม้จะแจ้งให้กรมส่งเสริมสหกรณ์ ขออนุญาตเพื่อนำที่ดินไปใช้ในการให้กับชุมชนใน ลักษณะแปลงรวม และกำหนดหลักเกณฑ์ระเบียบในการใช้พื้นที่ที่ดินดังกล่าว ปัจจุบันกรมส่งเสริมสหกรณ์ได้จัดทำร่างกระบวนการจัดที่ดินทำกินให้กับชุมชนตามนโยบายรัฐบาลในพื้นที่ 13 นิคม 14 ป่าและสหกรณ์แม่ริมเชียงใหม่ เพื่อนำเข้าสู่การประชุมของคณะกรรมการการกลั่นกรองหลักเกณฑ์ระเบียบกฎหมายในการจัดที่ดินเพื่อเสนอคณะอนุกรรมการ หากราษฎรรายใดได้รับสิทธิ์ตามโครงการ คตช.ดังกล่าวก็ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไข ซึ่งจะขออนุญาตไม่ลงรายละเอียดตรงนี้ แต่จะส่งรายละเอียดทั้งหมดให้กับ ส.ส.ผู้ถามกระทู้เพื่อนำไปชี้แจงให้กับประชาชนในพื้นที่ได้เข้าใจ
“วันนี้ปัญหาของประชาชนในพื้นที่ทำกิน ไม่ว่าจะเป็นทับซ้อน หรือบุกรุกเป็นปัญหาที่ภาครัฐจำเป็นต้องแก้ไขและจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากภาคเอกชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคงต้องได้รับความร่วมมือจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในพื้นที่เขตนั้น ผมมานั่งตรงนี้ขอบอกเลยว่ากระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมจะเร่งดำเนินการในส่วนของการแก้ไขปัญหาที่สามารถจะดำเนินการได้ทันที ท่านสามารถมาพูดคุย บอกเล่าปัญหา และเรามาหาทางออกแก้ปัญหาร่วมกัน ทุกภาคส่วนต้องทำร่วมกันต้องถือว่าเป็นงานของทุกคนในการแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนที่ไม่มีที่ดินอยู่อาศัยและทำกิน แต่ต้องไม่ใช่กรณีที่เป็นการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวน พื้นที่อุทยานแห่งชาติโดยเด็ดขาด ถ้าเป็นกรณีเช่นนั้นผมก็มีความจำเป็นต้องใช้กฎหมายบังคับโดยเด็ดขาดเช่นกัน
แต่ถ้าเป็นกรณีของที่ดินที่ทำกินของพี่น้องประชาชน ผมเชื่อว่าเรามีทางออกที่จะแก้ปัญหาร่วมกันเพื่อให้ประชาชนมีที่ดินทำกิน และแก้ปัญหาความเดือดร้อน ซึ่งเป็นนโยบายเร่งด่วนที่รัฐบาลได้แถลงต่อสภาไว้ด้วย ไม่ว่าพื้นที่ตรงไหน พื้นที่ใดก็ตามที่มีปัญหา ขอให้นำมาปรึกษากัน แม้จะไม่ได้ถามกระทู้ในสภาก็สามารถมาพูดส่วนตัวได้เพื่อช่วยกันแก้ปัญหา เพราะผมมองว่าเป็นหน้าที่ของทุกคนที่จะต้องทำตรงนี้ ผมสามารถให้คำมั่นได้ว่าผมจะเร่งรัดในส่วนของการทำงานปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ภายใต้การกำกับของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวกับปัญหาเรื่องที่ดินทำกินให้เร่งขบวนการต่างๆ ให้เสร็จโดยเร็วไวที่สุดให้ตอบสนองต่อความต้องการกับการแก้ไขปัญหาของพี่น้องประชาชน และพร้อมจะรับฟังปัญหาจากพี่น้องประชาชนเพื่อร่วมกันหาทางออก”นายเฉลิมชัยกล่าว