ศอ.บต. เผย 120 วัน ฟื้นสภาที่ปรึกษาฯร่วมดับไฟใต้ ขยายเยียวยาทั้งสองฝ่ายในเหตุการณ์รุนแรง เผยรัฐบาลเดินหน้ากก.พูดคุยสันติสุข ตอบไม่ได้เปลี่ยนคนหรือไม่ ทุ่ม”เมกะโปรเจ็กส์ รถไฟรางคู่เฟสใหม่ -ฟื้นเส้นทางการบินเบตง ส่งเสริมเศรษฐกิจ การลงทุน
เมื่อวันที่ 19 ก.ย.67 ที่ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต. ) พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ( เลขาฯ ศอ.บต. ) บรรยายภารกิจของ ศอ.บต.ให้กับคณะสื่อมวลชนส่วนกลาง โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญขององค์กรในการบูรณาการแผนงาน โครงการ งบประมาณ ของกระทรวง ทบวง กรม ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ลดช่องว่างในการประสานงาน ภายใต้นโยบายของรัฐบาล ที่ให้ความสำคัญในยุทธศาสตร์ด้านการปกครองเศรษฐกิจและสังคม

สำหรับแนวทางสำคัญในการแสวงหาทางออกโดยสันติโดยใช้กลไกของคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขนั้น พ.ต.ท.วรรณพงษ์ กล่าวว่า ตนเองเป็นหนึ่งในคณะกรรมการพูดคุยเพื่อสันติสุขซึ่งกำลังรอว่ารัฐบาลจะมีการแต่งตั้งคณะชุดใหม่มาหรือไม่ แต่สิ่งที่ยืนยันได้คือกลไกนี้คือการตอกย้ำแนวคิดการแก้ไขปัญหาแบบสันติวิธี ซึ่งรัฐบาลมีความตั้งใจและให้ความสำคัญในทุกมิติ การพูดคุยเพื่อสันติสุขเป็นอีกกลไกหนึ่งที่ทุกคนก็เฝ้ารอ ประกอบกับอารมณ์ความรู้สึกของคนในพื้นที่มีความหวังและจดจ่อในเรื่องนี้เพราะเชื่อมั่นว่าจะเป็นส่วนที่ทำให้เกิดสันติสุขในพื้นที่ด้จริง
เลขาธิการ ศอบต. กล่าวด้วยว่า หลังจากสภามีมติยกเลิกคำสั่ง คสช.14/2559 ที่ให้มีคณะกรรมการที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ แทน สภาที่ปรึกษา นั้น ถ้ามีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาอย่างเป็นทางการแล้ว ทาง ศอ.บต. ก็ต้องดำเนินการคัดเลือก สภาที่ปรึกษาให้เสร็จสิ้นภายใน 120 วัน ซึ่งตามแผนที่วางไว้ต้นปีหน้าจะได้รายชื่อทั้งหมด โดยจะใช้ระเบียบเดิมในการคัดเลือก ขณะนี้กำลังวางแผนและ สร้างการรับรู้ของผู้ที่เกี่ยวข้องที่จะร่วมในกระบวนการคัดเลือก
ซึ่งได้เตรียมการไว้ค่อนข้างสมบูรณ์ ในส่วนแนวทางการขยายการเยียวยานั้น ถือเป็นหัวใจสำคัญในยุทธศาสตร์ทางการแก้ไขปัญหาไม่ใช่แค่การชดเชยความเสียหายที่เกี่ยวกับแค่ ร่างกาย ชีวิต และทรัพย์สินเท่านั้น แต่ต้องเข้าถึงจิตใจของผู้ที่ได้รับผลกระทบด้วย ดังนั้นการเยียวยาต้องถูกต้อง ครบถ้วน ทั่วถึง เป็นธรรม เท่าเทียมสามารถให้ให้เขากลับมาดำเนินชีวิตได้อย่างปกติสุข โดยไม่ทอดทิ้งเขา ขณะนี้กระทรวง ทบวง กรมที่เกี่ยวข้องระเบียบที่จะใช้ปฏิบัติเป็นมาตรฐานเดียวกัน งดการใช้ดุลพินิจที่ไม่จำเป็นโดยไม่ต้องตีความของคณะทำงาน
เมื่อถามว่า จะไม่มีความเหลื่อมล้ำ อย่างที่วิพากษ์วิจารณ์กันว่าลูกผู้ก่อเหตุ จะไม่ได้รับการเยียวยาใช่หรือไม่ เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่า ผู้ที่ถูกกระทำจากเหตุการณ์ความรุนแรงไม่ว่าจะเป็นการกระทำของฝ่ายรัฐ หรือฝ่ายอื่นก็ตาม ทีกระทบต่อครอบครัว หรือ บุตรก็ควรจะได้รับการเยียวยาด้วย
สำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่นั้น ก็ถือเป็นเรื่องที่สำคัญของทุกรัฐบาลที่ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพราะมุ่งเน้นไปที่ฐานรากและความเป็นอยู่ของครัวเรือนเสริมสร้างชีวิตให้ดีขึ้น แต่ด้วยเหตุการณ์ความไม่มั่นคงเป็นอุปสรรคหนึ่งในการชักจูงเอกชนเข้ามาลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ แต่การชี้นำด้านนโยบายจะเป็นส่วนช่วยสร้างบรรยากาศในการลงทุนให้ชัดขึ้น แต่ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงบ่อยจนไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นได้ก็มีผลกระทบเหมือนกัน

อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันมีผู้ลงทุนในพื้นที่มีจำนวนมากขึ้นเพราะเห็นถึงโอกาสที่ตามมาเช่นอัตราการเกิดของห5จังหวัดชายแดนภาคใต้อยู่ในอัตราส่วนที่มากที่สุดของประเทศ นั่นหมายถึงว่าเรามีทรัพยากรบุคคลในอนาคตที่มีความมั่นคง และ ทำให้อัตราการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุต่ำกว่าที่อื่นของประเทศ มองเห็นถึงต้นทุนในพื้นที่ที่จะนำไปสู่การพัฒนาได้ชัดเจนขึ้น
สำหรับเมกะโปรเจ็คส์ที่มีความชัดเจนในงบประมาณปี 2568 คือกระทรวงคมนาคมได้เปลี่ยนการศึกษารถไฟรางคู่แต่พื้นที่จังหวัดใช้แดนภาคใต้เพิ่มเติมอีกหนึ่งเฟส สะเดา-โกลก ซึ่งไม่มีอยู่ในแผนเดิม ซึ่งการลงทุนของรัฐบาลในโครงการรถไฟนั้นถือว่ามีความสำคัญเพราะมีผลต่อความเป็นอยู่และเศรษฐกิจในพื้นที่ นอกจากนั้นอยากจะมีโครงการท่องเที่ยวโดยศึกษาเส้นทางคมนาคมใหม่เพื่อร่นระยะเวลาเดินทาง เช่นการบินในระยะสั้น ก็จะเริ่มมีสายการบินที่จะทดลองกลับมาลงที่สนามบินเบตงอีกครั้ง แต่การเดินทางในลักษณะดังกล่าวก็จะทำให้นักท่องเที่ยวอดชมทัศนียภาพสองข้างทางจากยะลาไปเบตงที่สวยงามไม่แพ้ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นทางเลือกเพิ่มขึ้นในการเดินทาง
ส่วนที่รัฐบาลลงทุนและได้จัดสรรงบประมาณลงพื้นที่มาแล้วคือนโยบายซอฟพาวเวอร์ โดยเฉพาะ อาหารฮาราล ตอบโจทย์เรื่องทรัพยากรทางด้านอาหาร ผลไม้ โดยเฉพาะทุเรียนที่มีมูลค่ามหาศาลที่ตัวเลขส่งออกเพิ่มมากขึ้นทุกปีแซงยางพารา รวมถึงการส่งออกตามด่านชายแดนทั้งเบตง โกลก สะเดา ปาดังเบซาร์ มีมูลค่าปีละ 4 แสนกว่าล้าน สำหรับการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานโดยเฉพาะถนนเป็นปัจจัยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจทั้งสิ้น ซึ่งมีแผนที่จะตัดถนนอีกหลายส่วน ตอบสนองแผนพัฒนาของแต่ละจังหวัดอย่างต่อเนื่อง