‘วราวุธ’ เผย พม.เยียวยาครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุรถบัสทัศนศึกษา ย้ำติดตามช่วยเหลือเป็นระยะๆ
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 8 ตุลาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าในการช่วยเหลือครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุเพลิงไหม้รถบัสทัศนศึกษาว่า ตั้งแต่เกิดเหตุได้ลงพื้นที่ จ.ปทุมธานี และสั่งการให้ระดมทีมเจ้าหน้าที่ พมจ.ปทุมธานี ดูแลผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุดังกล่าวทั้งที่อยู่ในโรงพยาบาลและศูนย์อำนวยการฉุกเฉิน อีกทั้งได้สั่งการให้ทีมเจ้าหน้าที่ พมจ.อุทัยธานี และระดมกำลังจากจังหวัดใกล้เคียง ทั้ง จ.ชัยนาท สุพรรณบุรี นครสวรรค์ และสิงห์บุรี เข้าไปที่ในพื้นที่ของครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบ เพื่อเยียวยาประกบทุกครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งครอบครัวผู้เสียชีวิต ซึ่งเราทำงานกันอย่างต่อเนื่องทุกวัน
นายวราวุธกล่าวว่า ขณะนี้กระทรวง พม.ได้ระดมทีมเจ้าหน้าที่ทีม พมจ.อุทัยธานี ชัยนาท นครสวรรค์ สุพรรณบุรี และสิงห์บุรี เข้าไปทำงานร่วมกับทีมสหวิชาชีพในศูนย์ประสานงานช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุใหญ่ทางถนน โดยร่วมประชุมวางแผนการลงพื้นที่และประชุมทีม Case Manager (CM) เพื่อช่วยเหลือและเยียวยาจิตใจครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบ จำนวน 36 ราย ซึ่งประกอบด้วยทุกคนจากบัสที่ประสบเหตุ และบางคนจากบัส 1 กับบัส 3 ที่ได้รับการประเมินแล้ว ร่วมทำงานกับทีมเยียวยาจิตใจ กระทรวงสาธารณสุข จำนวน 10 ทีม และจัดทำข้อมูลครอบครัวครูผู้เสียชีวิต จำนวน 3 ราย ให้กับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ ประกอบการช่วยเหลือ อีกทั้งวางแผนการช่วยเหลือและเยียวยาครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบ โดยเตรียมการลงพื้นที่สอบข้อเท็จจริง เพื่อให้การช่วยเหลือตามระเบียบเงินอุดหนุนของกระทรวง พม. และวางแผนดูแลเด็กในครอบครัวผู้เสียชีวิต รวมถึงการปรับสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยให้เหมาะสมให้แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตที่มีผู้สูงอายุและคนพิการ เป็นต้น
นายวราวุธกล่าวว่า ในส่วนของการช่วยเหลือของทีม พมจ.ปทุมธานี ได้ลงพื้นที่ให้กำลังใจและมอบเงินสงเคราะห์ครอบครัวกรณีฉุกเฉินให้แก่ครอบครัวเด็กที่ได้รับบาดเจ็บ ณ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี และการจัดเตรียมที่พักในบ้านพักเด็กและครอบครัวปทุมธานี ให้กับบิดามารดาของเด็กที่รักษาตัวที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ และประสานที่พักของสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี อีกทั้งประสานบริษัท มินิแบ จำกัด ขอความอนุเคราะห์สิทธิพิเศษกับบิดามารดาเด็กที่ได้รับบาดเจ็บ ในการลาเยี่ยมไข้และดูแลบุตรโดยไม่นับว่าเป็นวันลา พร้อมทั้งจัดที่พักผู้บริหารให้กับบิดามารดาเด็ก
สำหรับการช่วยเหลือเป็นเงินสงเคราะห์ต่างๆ ทางกระทรวง พม.ได้พิจารณาเป็น 1.เงินสงเคราะห์ช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาทางสังคมกรณีฉุกเฉิน จำนวน 23 ครอบครัว 2.เงินสงเคราะห์เด็ก 25 ราย 14 ครอบครัว 3.เงินสงเคราะห์ผู้สูงอายุในภาวะยากลำบาก จำนวน 21 ครอบครัว 4.โครงการปรับสภาพแวดล้อมและสิ่งอำนวยความสะดวกของผู้สูงอายุให้เหมาะสมและปลอดภัย จำนวน 1 ครอบครัว และ 5.เงินสงเคราะห์และฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการ จำนวน 2 ราย
นายวราวุธกล่าวว่า กระทรวง พม.ได้วางแนวทางการให้ความช่วยเหลือเด็กและครอบครัวที่ได้รับผลกระทบในระยะต่อๆ ไป โดยกองทุนคุ้มครองเด็ก กรณีเด็กในครอบครัวยากจน จะได้รับการช่วยเหลือเป็นเงินสงเคราะห์ครอบครัวอุปถัมภ์ ค่าเลี้ยงดู หรือค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับเด็ก เช่น ค่ารถไปหาหมอ ค่าเครื่องอุปโภค บริโภค ค่าใช้จ่ายทางการศึกษาและอุปกรณ์การเรียนตามระดับชั้นอนุบาล ประถมศึกษา มัธยมศึกษา และ อาชีวศึกษา และค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับกายอุปกรณ์แก่เด็กพิการและทุพพลภาพ เป็นต้น
