เท้ง แนะ อิ๊งค์ คุยนอกรอบ นายกฯญี่ปุ่น แสดงท่าทีให้ชัด เอาจำเลยคดีตากใบ กลับมาขึ้นศาล

‘ณัฐพงษ์’ แนะ ‘แพทองธาร’ คุยนอกรอบนายกฯ ญี่ปุ่น ส่งตัวจำเลยคดีตากใบกลับมาดำเนินการ ก่อนหมดอายุความ ชี้ ต้องแสดงเจตจำนงทางการเมืองเยียวยาพี่น้องชายแดนใต้

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 10 ตุลาคม 2567 ที่รัฐสภา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน แถลงว่า ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดีที่ เมื่อวันที่ 9 ตุลาคมที่ผ่านมา ที่ตัวแทนประเทศไทย ได้รับเลือกในคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (UNHRC) ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีที่เราจะได้แสดงเจตจำนงทางการเมืองของผู้นำประเทศว่า เราให้ความสำคัญกับการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือคดีตากใบ ที่เป็นประเทศที่ทั่วโลกให้ความสนใจในช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

นายณัฐพงษ์กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ในวันเดียวกันนั้น การประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ก็ได้มีการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นตำรวจหรืออัยการ มาให้ความเห็นในการติดตามความคืบหน้าการติดตามตัวจำเลยกลับมาดำเนินคดี ให้ทันวันที่ 25 ตุลาคม ก่อนที่คดีความจะหมดอายุ ซึ่งพบว่า มีจำเลย 2 คนหลบหนีอยู่ต่างประเทศ คือจำเลยที่ 1 หลบหนีไปประเทศอังกฤษ และจำเลยที่ 8 หลบหนีไปประเทศญี่ปุ่น และทุกหน่วยงานชี้แจงว่าดำเนินการอย่างเต็มที่ที่สุดแล้ว ตามอำนาจหน้าที่ของหน่วยงานและตำรวจบอกว่าได้ออกหมายแดงอินเตอร์โพลแล้ว

นายณัฐพงษ์กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งช่องทางคือส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน แม้ว่าประเทศไทยจะไม่มีสนธิสัญญาการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนกับประเทศญี่ปุ่น แต่เราสามารถใช้ช่องทางทางการทูต รัฐบาลต่อรัฐบาล นายกรัฐมนตรีต่อนายกรัฐมนตรี ในการเจรจาขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนกลับมาประเทศไทยได้ และเราทราบดีว่า ต้องใช้ระยะเวลาค่อนข้างนาน แต่อีกช่องทางหนึ่งที่ดำเนินการได้และมีประสิทธิภาพมากกว่าคือการขอเนรเทศส่งตัวในฐานะบุคคลผู้ไม่พึงประสงค์ของประเทศปลายทางให้ส่งตัวกลับประเทศไทย ในฐานะที่เป็นจำเลยผู้ต้องหาคดีที่เกี่ยวข้องกับสิทธิมนุษยชน

ADVERTISMENT

นายณัฐพงษ์กล่าวด้วยว่า ดังนั้น วันนี้สิ่งที่ตนอยากส่งข้อเสนอแนะและข้อเรียกร้องไปยัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี คือ การใช้เวทีการประชุมอาเซียนบวกสามที่ น.ส.แพทองธารกำลังประชุมอยู่ ได้หารือนอกรอบกับนายกรัฐมนตรีของประเทศญี่ปุ่น ในการเจรจาขอดำเนินการทั้ง 3 ช่องทางอย่างเต็มที่ที่สุด โดยเฉพาะช่องทางการเนรเทศตัวบุคคลที่ไม่พึงประสงค์ให้กลับมาทันก่อนคดีจะหมดอายุความ อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีของประเทศมาเลเซียก็ได้แสดงวิสัยทัศน์ในฐานะว่าที่ประธานอาเซียนคนถัดไป มีวิสัยทัศน์ที่จะส่งเสริมกระบวนการการสันติภาพชายแดนใต้ด้วย ฉะนั้น จึงหวังว่า นายกรัฐมนตรีของประทเทศไทย จะใช้เวทีเจรจาในครั้งนี้ ส่งเสริมกระบวนการสันติภาพในชายแดนใต้ โดยติดตามทั้งเรื่องของจำเลยกลับมาดำเนินคดี พร้อมกับกระบวนการต่างๆ ที่จะส่งเสริมกระบวนการสันติภาพในชายแดนใต้

“ย้ำอีกครั้งว่า ด้วยระยะเวลาที่จำกัดก่อน 15 วันที่คดีจะหมดอายุความ วันนี้เราต้องการเพียงแค่เจตจำนงทางการเมืองของผู้นำประเทศ หากเราไม่สามารถใช้เวทีทางการทูตในการเจรจรา ให้ประเทศที่เข้าร่วมประชุมอาเซียนบวกสามอยู่ในขณะนี้ช่วยกันส่งตัวจำเลยกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย ผมคิดว่าบาดแผลที่ลึกที่สุดของพ่อแม่พี่น้องในคดีตากใบ ก็จะไม่ได้รับความเยียวยา และกระบวนการสันติภาพ ในชายแดนใต้ก็จะไม่มีความคืบหน้า ดังนั้น วันนี้อยากให้นายกฯแสดงเจตจำนงทางการเมือง ในฐานะที่ประเทศไทยได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนใน UNHRC ขอให้ท่านใช้เวทีเจรจานอกรอบในการติดตามตัวจำเลยกลับมาดำเนินคดี” นายณัฐพงษ์กล่าว

ADVERTISMENT

เมื่อถามว่า มองว่าจากนี้ไปจนถึงวันที่ 25 ตุลาคม จะมีการลุกฮือของคนในพื้นที่หรือไม่ นายณัฐพงษ์กล่าวว่า ตนคิดว่าสิ่งที่เราต้องทำให้เต็มที่ที่สุดก่อนคือภายใต้กรอบระยะเวลาอีก 15 วันที่เหลือ ซึ่งรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ทัน และตอนนี้สิ่งที่จะเยียวยาบาดแผลของพ่อแม่พี่น้องได้ คือนายกรัฐมนตรีที่ไปประชุมอาเซียนบวกสามอยู่ เจรจานอกรอบกับประเทศญี่ปุ่น และเชื่อว่าประเทศญี่ปุ่นก็พร้อมให้ความร่วมมือ ฉะนั้น ไม่อยากคาดการณ์ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ขอส่งคำแนะนำให้รัฐบาลดำเนินการให้เต็มที่ที่สุดก่อน

เมื่อถามว่า นอกจากช่องทางทางการทูตมีช่องทางอื่นอีกหรือไม่ที่สามารถทำได้ นายณัฐพงษ์กล่าวว่า จากการพูดคุยกับหน่วยงานโดยเฉพาะใน กมธ.กฎหมายฯ ทุกหน่วยงานแจ้งว่าหากดูจากระบบปัจจุบันถ้าไม่มีการเจรจาทางการทูต คิดว่าอย่างไรก็เป็นไปได้สูงที่จะไม่ทัน ฉะนั้น ตอนนี้เหลือช่องทางสุดท้ายแล้ว ซึ่งก็หวังว่านายกรัฐมนตรีจะใช้เวทีดังกล่าว ในการเจรจาทางการทูต เพื่อให้เกิดการเร่งรัดให้จำเลยกลับมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด และถ้าไม่ใช้อำนาจอธิปไตยของประเทศปลายทางทั้งอังกฤษ และญี่ปุ่น อย่างไรก็จะไม่ทัน

เมื่อถามย้ำว่า กรณีที่พรรคเพื่อไทย (พท.) ออกมาบอกว่า เป็นเรื่องส่วนตัวของ พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท. ที่เป็นจำเลยในคดีดังกล่าว ถือเป็นการปัดความรับผิดชอบหรือไม่ นายณัฐพงษ์กล่าวว่า คดีตากใบที่เกิดขึ้น เป็นข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ และเกิดขึ้นในสมัยที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ดำรงตำแหน่งอยู่ในขณะนั้น ซึ่งมีความเกี่ยวพันไปยังรัฐบาลในปัจจุบัน คิดว่า รัฐบาลควรแสดงสปิริต และให้ความสำคัญเรื่องการคุ้มครองหลักสิทธิมนุษยชน ตอนนี้มีเวทีเจรจาทางการทูตที่นายกฯ สามารถทำได้ และเชื่อว่าสามารถดำเนินการได้ ถ้าพร้อมที่จะดำเนินการเรื่องนี้ให้เกิดความเป็นธรรมกับคนไทย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image