เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 24 กุมภาพันธ์ ที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีการตรวจสอบโครงการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ ว่า ขอเรียนว่าศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) ไม่ใช่ผู้บังคับบัญชาของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพียงแต่เป็นการทำงานแบบบูรณาการร่วมกันเท่านั้น ดังนั้น สตง.หรือป.ป.ช. จะชี้แจงในประเด็นอะไรก็เป็นสิทธิของแต่ละหน่วยงาน หากถามตนในฐานะประธาน ศอตช. ว่าจะได้รับอะไรในการทำงานร่วมกัน คือ จะได้รับการชี้แจง แต่การชี้แจงตนยังไม่พึงพอใจ เพราะการทำงานจะต้องตอบคำถามให้ประชาชนทราบได้ทั้งหมด
พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า ส่วนการแถลงผลการตรวจสอบนั้น หาก สตง. ต้องการแถลงเองก็สามารถทำได้ เพราะตนไปบังคับไม่ได้ แต่ถ้าให้ตนเป็นผู้แถลงจะต้องตอบคำถามที่ตนถามไป โดยก่อนหน้านี้ทาง สตง. ได้มาชี้แจงให้ทราบในระดับหนึ่ง ซึ่งตนก็ได้มีคำถามกลับไป เพราะยังมีประเด็นที่เป็นประชาชนและสื่อมวลชนสงสัยอีก 2-3 ประเด็น จึงต้องไปสอบให้เสร็จ เมื่อเรียบร้อยแล้ว ตนจึงจะแถลงได้ แต่ถ้าหน่วยงานยังไม่ชี้แจงมายังตน ก็คงไม่มีสิทธิจะไปเร่งอะไร และก็ยังไม่ตอบคำถาม
“ผมยืนยันในคำพูดของผมทุกคำที่ได้แถลงก่อนหน้านี้ ว่าที่มาที่ไปมันคืออะไร ผมก็ยืนยันตามนั้น และวันที่หน่วยงานที่มาร่วมกันทำงานกับ ศอตช. ได้ให้ข้อมูลเรียบร้อยแล้ว วันนั้นผมจึงจะชี้แจงรายละเอียดให้ทราบ แต่วันนี้สิ่งที่หน่วยงานให้ข้อมูลผมมายังไม่เพียงพอที่จะตอบสังคมให้ชัดเจนได้” พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวและว่า อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 25 ก.พ.นี้ เวลา 13.00 น. จะมีการประชุม ศอตช. ที่กระทรวงยุติธรรม
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้ความคืบหน้าในการตรวจสอบประเด็นดังกล่าว เสร็จไปแล้วกี่เปอร์เซ็นต์ พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า ไม่สามารถตอบได้ สตง.เป็นหน่วยงานที่ตรวจสอบการทุจริตทั้งระบบ เพราะฉะนั้นจะไม่ทราบว่าจุดไหนบ้างที่ควรจะตรวจ ซึ่งมันเป็นเทคนิคการตรวจ ส่วนประเด็นที่ตนถามไปยัง สตง. ก็คือการเอาสิ่งที่สื่อมวลชนและประชาชนสงสัยไปให้เขาตรวจสอบให้ครบถ้วนและครอบคลุม เพราะฉะนั้น จึงไม่สามารถตอบได้ว่าขณะนี้ทางสตง.ตรวจเสร็จไปแล้วกี่เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ ต้องขอย้ำว่า ศอตช. ไม่ได้มีหน้าที่ควบคุมหน่วยงานเหล่านี้ เพียงแต่เป็นการทำงานร่วมกันเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ในส่วนของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) มีการรายงานความคืบหน้ามายังรมว.ยุติธรรม แล้วหรือไม่ พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า มีการรายงานมาแล้ว แต่การตรวจสอบของ ป.ป.ท. จะไม่ลึกเท่ากับสตง.และป.ป.ช. โดยรายงานว่าขณะนี้เหลือการสอบอีก 2-3 ประเด็น ซึ่งอยู่ระหว่างรอการตอบรับจากหน่วยงานที่มีหนังสือไปถึง หากได้ครบแล้วก็จะหมดหน้าที่ของ ป.ป.ท. ซึ่งเหลืออีกเพียงจุดเดียวเท่านั้น ก็จะเสร็จแล้ว
