วิษณุขู่ กรธ.ต้องรับผิดชอบ หากไม่แก้ตามที่ครม.ขอ

วิษณุขู่กรธ.รับผิดชอบหากไม่แก้ตามข้อเสนอครม.หากเกิดขัดแย้งรุนแรงในอีก 1 ปีข้างหน้าต้องผิดชอบ พร้อมแจงทุกข้อข้องใจหากใครสงสัย

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 24 กุมภาพันธ์ ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงข้อเสนอแนะเรื่องร่างรัฐธรรมนูญของรัฐบาลโดยเฉพาะในข้อ 16 ที่เสนอให้คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) หาแนวทางแก้ปัญหาช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อหลังรัฐธรรมนูญประกาศใช้ว่า หากดูจากคำปรารภในรัฐธรรมนูญ (ชั่วคราว) 2557 จะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ทั้งเรื่องการทุจริตคอร์รัปชั่น การแทรกแซงการใช้อำนาจขององค์กรอิสระ การแทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ ผู้คนขัดแย้งทางความคิดมานานหลายปี จนนำมาซึ่งวิกฤต ทำให้รัฐบาลขณะนั้นต้องยุบสภา หลังจากนั้นก็ไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้ จึงทำให้เกิดปัญหาต่อมาคือองค์กรต่างๆ ทั้ง ส.ส. ส.ว. รวมถึงองค์กรอิสระบางองค์กรก็ได้หมดวาระลงพร้อมๆ กัน เหตุการณ์เหล่านี้ทำให้เกิดเหตุการณ์ชะงักงันในประเทศ ทั้งหมดนี้จึงเป็นปัญหาที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) นำมาคลี่ดู เราไม่ได้พูดเพื่อตำหนิสิ่งเหล่านั้นเพราะว่ามันผ่านไปแล้ว แต่หากเหตุการณ์ลักษณะย้อนกลับมาอีกในช่วงการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น คิดว่าร่างรัฐธรรมนูญจะแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้หรือไม่ ถ้าแก้ได้ก็แล้วไป ถ้าแก้ไม่ได้ก็ให้ช่วยคิดวิธีการแก้ วันนี้กรธ.อาจจะบอกว่าคิดแล้วถึงได้ออกมา 270 มาตรา แต่ ครม.บอกว่ามาตราทั้งหมดนั้นยังมีคนทักท้วงอีก 6-7 ประเด็นคือ ส.ว.แต่งตั้ง บัตรเลือกตั้งใบเดียว การให้พรรคการเมืองเสนอชื่อนายกฯ 3 คน นายกฯเป็นคนนอกได้หรือไม่ รวมถึงองค์กรอิสระและศาลมีอำนาจมาก รวมถึงมีการบัญญัติให้แก้ไขรัฐธรรมนูญทำได้ยากขึ้นเมื่อ ครม.รับทราบเลยถามกลับไปถ้าแก้ไขประเด็นเหล่านี้ได้ก็แก้ไป ถ้าหากแก้ไม่ได้เพราะจะเปลี่ยนแปลงไปทั้งหมดเพราะ กรธ.บอกว่าเป็นหลักการสำคัญ แต่ทำไมไม่คิดอย่างนี้ว่ามันคงไม่ควรสำคัญ ยืนหยัด แน่นหนา ถาวร ไปยาวนานตลอด แก้ไม่ได้ก็ไม่ควรจะแก้ไม่ได้เป็น 10-20 ปี ทำไมจึงไม่ทำว่าช่วงเวลาแรกซึ่งมีความหมายสองอย่าง คือ 1.ในบทเฉพาะกาล 2.บางครั้งอาจใส่ไว้ในกฎหมายลูก

“บางเรื่องที่ กรธ.เห็นว่าถอยไม่ได้ก็ลองถอยสำหรับช่วงเวลาหนึ่งก่อนว่าไม่ถอยในช่วงเวลาแรกได้หรือไม่ สั้นๆ กี่ปีก็สุดแล้วแต่ เช่นเรื่อง ส.ว.จำเป็นต้องมาจากการสรรหาในช่วงเวลาต้นเท่านั้น ต่อไปก็ปล่อยให้ไปเลือกตั้งกันเสีย หรือเลือกนายกฯคนนอกถ้าคิดว่าจำเป็น กรธ.ก็อาจจะยอมให้เป็นคนนอกหรือคนในก็ได้ในช่วงเวลาแรก ต่อจากนั้นก็เข้าสู่ภาวะคือนายกฯต้องเป็น ส.ส. ส่วนรัฐธรรมนูญที่ต้องการปกปักรักษาไม่ให้มีการแก้ไขหรือรื้อได้ง่ายๆ เพราะอุตส่าห์ทำกันมาเกือบตาย ก็อาจปกปักรักษาไว้ในช่วงแรก หลังจากนั้นก็ปล่อยให้แก้ได้โดยไม่ยากลำบากนัก เมื่อถึงจุดหนึ่งที่สถานการณ์บ้านเมืองเปลี่ยนแปลง นี่คือความในใจที่ต้องการจะบอก ไม่มีอะไรนำไปสู่คณะกรรมการยุทธศาสตร์ปฏิรูปและการปรองดองแห่งชาติ (คปป.)” นายกวิษณุกล่าว

นายวิษณุกล่าวว่า ส่วนที่หลายฝ่ายรวมถึงแม่น้ำ 5 สายที่ยังไม่เข้าใจเนื้อส่วนนี้ก็ยินดีที่จะชี้แจง แต่ กรธ.ได้แจ้งมาว่าอยากให้ตนไปชี้แจงก่อน แต่ก็จะไปชี้แจงแบบนี้ ตนยินดีและพร้อมจะเมื่อใดก็ได้ ทั้งนี้ก็ต้องคุยกับนายกฯด้วย เพราะเรื่องนี้ผ่านการพิจารณากันมา ส่วนจะทำอย่างไรให้ประชาชนเข้าใจเจตนาในส่วนนี้นั้นอาจชี้แจงผ่านโทรทัศน์ก็ได้

“เคยมีเรื่องแบบนี้มาตลอด ถ้าให้ยกตัวอย่างก็สามารถยกรัฐธรรมนูญทั้ง 19 ฉบับได้เพราะมีบทเฉพาะกาลของมันอย่างนี้ หรือในกฎหมายลูก แล้วแต่ว่าจะเอาช่วงเวลานี้ไปผลักอยู่ในช่วงใด หรือจะอย่างไรก็ได้ เช่นเขียนรัฐธรรมนูญให้เต็มเอาไว้ แล้วยกเว้นการใช้ชั่วคราวก็ได้ หรือเขียนไว้ให้เต็มเป็นแบบหนึ่ง แต่สำหรับใช้ในช่วงชั่วคราว ชั่วแรกเป็นอีกแบบหนึ่งเพราะแค่ยกเว้น เดี๋ยวมันจะมีปัญหาว่าจะใช้อะไร เราไม่ต้องการให้เกิดภาวะตามใจฉัน ต้องการให้เอารัฐธรรมนูญมาวางทั้งฉบับให้คนเห็น 1-2 ปีแรกจะทำยังไง แล้วต่อจากนั้นจะทำยังไง จะอยู่จะปกครองกันอย่างไร วันนี้ถ้าเรายอมรับและคิดว่าขณะมีการเลือกตั้งหรือหลังจากการเลือกตั้งบ้านเมืองเกิดความสงบเรียบร้อย ใครจะแพ้หรือชนะเลือกตั้ง อีกฝ่ายไม่หือไม่อือ เหตุการณ์เข้าสู่ภาวะปกติทุกอย่างก็ไม่มีอะไรพูดกัน ปล่อยให้เป็นไปตามที่กำหนดเอาไว้ แต่หากยังไม่แน่ใจ ยังห่วงเหตุการณ์แต่ใจก็คิดถึงว่าเอาให้มันสุดสุด เต็มที่ในทางประชาธิปไตย ฝ่ายหนึ่งก็เป็นห่วงว่าถ้าสะดุดหกล้ม ซึ่งทุกคนรู้อยู่แกใจว่ามีโอกาสเกิด แล้วถ้าเกิดเกิดเหตุการณ์ก่อน 22 พฤษภาคม 2557 จะทำอย่างไรเพราะแก้ไขอะไรไม่ได้ เพราะมันสะดุดไปหมด” นายวิษณุกล่าว

ADVERTISMENT

นายวิษณุกล่าวว่า วันนี้ตนให้รวบรวมความคิดเห็นของผู้ที่ออกมาให้ความเห็นอยู่ ด้วยเจตนาดี แต่เอาให้ถึงเหตุการณ์มันเกิดขึ้นแล้วมันรุนแรงอาจรู้สึกเสียดายที่สุดท้ายไม่มีมาตรการอะไรเพียงพอ เอาไว้รับมือ แม้สิ่งที่ กรธ.เขียนก็สามารถแก้ไขปัญหาได้พอสมควรอยู่แล้ว แต่หาก กรธ.ยืนยันว่าที่เขียนมาหมดจดงดงามก็ไม่ว่ากัน คุณรับผิดชอบเมื่อถึงเวลาอีก 1 ปีข้างหน้าแล้วมันเกิดเหตุการณ์ เราถึงพยายามเตือนว่าช่วยเอาเหตุการณ์ก่อน 22 พฤษภาคม 2557 ซึ่งอาจจะเป็นเหตุการณ์ที่ย้อนกลับไปถึงปี 2552 มาพิจารณา ซึ่งเหตุการณ์ต่างๆ เหล่านี้มีผู้ที่รวบรวมว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างเพียงแต่ว่าไม่รู้ว่าใครผิดใครถูก ทำไมผ่านมาถึงวันนี้เหตุการณ์เดิมๆ ยังเกิดขึ้นอีกหรือ ซึ่งมันก็อาจจะเกิดเพราะฉะนั้นมันก็ต้องเผื่อเอาไว้ว่าจะแก้ไขอย่างไร ความจริงทหารและรัฐบาลก็มีอำนาจที่จะแก้เช่นออกพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กฎอัยการศึก หรือ พ.ร.ก.ฉุกเฉินก็ต้องกลับมาถามในเมื่อมีมาตรการเหล่านี้ ซึ่งควรได้ใช้ในเวลาที่ผ่านมาแล้วทำไม่ประสบความสำเร็จ