พิธา เปิดเบื้องหลังวันโหวตนายกฯ แนะเช็กชื่อ 45 ส.ว.ขาดประชุม รับปากไว้ทุกคน สุดท้ายเท

พิธา เปิดเบื้องหลังวันโหวตนายกฯ แนะกลับไปเช็กชื่อ 45 ส.ว.ขาดประชุมได้เลย ทุกคนเคยรับปากไว้หมดแล้ว สุดท้ายเบี้ยว

เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง ร่วมพูดคุยกับ สรยุทธ สุทัศนะจินดา และ ไบรท์-พิชญทัฬห์ จันทร์พุฒ ในรายการ กรรมกรข่าว คุยนอกจอ ถึงประเด็นไม่คิดตัดใจไม่ยุ่งเรื่องการเมืองว่า การเมืองเป็นเรื่องของทุกคน อยากช่วยเหลือเพื่อนที่ร่วมงานกันมาตามที่กฎหมายอนุญาต นั่นคือเป็นผู้ช่วยหาเสียง ผมโดนสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ไป 10 ปี คิดว่าตอนนี้ใช้เวลาเรียนรู้ แชร์ประสบการณ์ให้คนรุ่นใหม่ สบายใจด้วย สนุกด้วย ได้ทำอะไรที่ได้ความรู้มากมาย เตรียมตัวไว้เผื่อ (ในอนาคต) ประชาชนต้องการ

ในช่วงหนึ่งมีการกล่าวถึงความห่างเหินกับพรรคเพื่อไทย (พท.) นายพิธามองว่า บางทีก็คิดว่าผู้มีอำนาจกำลังหัวเราะพวกเราอยู่ พวกที่เคยเป็นอดีตพรรคฝ่ายค้าน ต่อสู้รัฐประหารด้วยกันมา เขาเห็นเราทะเลาะกัน เขามองอยู่ข้างบนคงสะใจที่สามารถทำแบบนี้ได้

ADVERTISMENT

“บางทีก็คิดว่าคนที่เลือกเพื่อไทยมาตลอดอย่างผม ตั้งแต่ไทยรักไทย พลังประชาชน ผู้ว่าฯครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 แล้วทำไมความสัมพันธ์ของ 2 พรรคถึงได้ห่างเหินขนาดนี้ ทั้งๆ ที่ตอนเป็นพรรคฝ่ายค้านยุค พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แม้เห็นต่างกันบ้าง แต่ไม่ได้ไกลกันขนาดนี้

ไม่เป็นไร เป็นการเลือกตั้งแบบรัฐสภา ฝ่ายค้านอ่อนข้อไม่ได้ เรื่องในอดีตก็คือเรื่องอดีต เรื่องส่วนตัวก็ส่วนตัว แต่การทำงานอ่อนข้อไม่ได้” นายพิธากล่าว

ADVERTISMENT

ในช่วงหนึ่ง นายพิธากล่าวด้วยว่า ผมยังรู้สึกดีมาก ตอนเป็นขบวนการเปลี่ยนผ่าน ไปประชุมที่เพื่อไทยหลายครั้ง ประชุมกับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ก็หลายครั้ง เรามีเป้าหมายเดียวกัน แต่วิธีการต่างกันได้ เป็นสิ่งที่เรายินดียืดหยุ่น จากที่เรามีกำลังวังชา แต่คุณมีประสบการณ์ แล้วเอามารวมกัน ก็สามารถไปได้ไกลมากมาก เพียงแต่เวลาที่เราคุยกันมันสั้นไป

นายพิธากล่าวว่า ยืนยันว่าสิ่งที่ คุณทักษิณ ชินวัตร ปราศรัยบนเวทีว่าจะทำได้ หรือจะเกิดได้จริงเมื่อเป็นพรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาชนเท่านั้น ถ้าอยู่กับพรรคอื่นไม่เชื่อว่าจะทำได้จริง

สรยุทธถามนายพิธาถึงความไม่เข้าใจเหตุผลที่พรรคเพื่อไทยให้โอกาสนายพิธา 2 ครั้งแล้ว กับการไปหาเสียงหนุนจาก ส.ว.ก็ดี หรือพรรคการเมืองก็ดี แต่ทำไม่สำเร็จเอง

นายพิธาระบุว่า ผมไม่เอาเรื่องในห้องประชุมมาบอก เพราะเขาไม่ได้อยู่ตรงนี้ และเป็นมารยาทที่ไม่ดี จำได้ว่า นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภา เคยบอกว่า 3 ครั้งเป็นอย่างต่ำ ในการรวมคะแนนเสียง ผมรู้ว่าตอนโหวตนายกฯครั้งแรก ถ้าไม่ได้ แผน 2 แผน 3 ผมเตรียมไว้หมดแล้ว สิ่งที่เป็น “อุบัติเหตุทางการเมือง” จริงๆ ตามคำพูดของคุณทักษิณ คือจำนวนการเลือกนายกฯของผมเหลืออยู่ครั้งเดียว เพราะครั้งที่ 2 ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเรื่องไอทีวี ซึ่งผมก็ชนะ แต่ครั้งที่ 1 ผมบอกว่ายอมรับ แต่ไม่ยอมแพ้ เพราะมีแผน 2 และ 3 ที่จะเดินเกมต่อ

นายพิธากล่าวว่า เลือกนายกฯครั้งแรก ที่ได้ไม่ถึงเพราะ ส.ว.ไม่มาโหวต 45 คน 45 เป๊ะๆ คนที่มาเลือกนายกฯคือ 205 เสียง หายไป 45 ซึ่ง 45 คนนั้นเคยสัญญาออกทีวีด้วยซ้ำไปว่าจะเลือกผม ซึ่งเรื่องนี้ นายชัยธวัช ตุลาธน อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นคนเดินเกม เป็นคนไปคุย ผมจึงมีความรู้สึกได้ว่ายังมีเวลาเปลี่ยนใจในครั้งที่ 2 และ 3 หรือมากไปกว่านั้น ซึ่งเขาไมได้กำหนดว่าจะเลือก (นายกฯ) กี่ครั้ง

“ครั้งที่ 2 ก็ไม่ได้เป็นความผิดเพื่อไทย เพราะศาล รธน.ส่งหมายให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ทำให้เลือกนายกฯได้แค่ครั้งเดียว ไม่ทันเกิดครั้งที่ 2 นี่เป็น ‘อุบัติเหตุ’ ที่ไม่สามารถเดินตามแผนงานของเราต่อได้ หรือพลิกสถานการณ์ได้ เพราะถูกตัดจบแล้ว ถ้าเป็นครั้งแรกที่ไม่เกี่ยวข้องกับศาล รธน. คงไปกันต่อเรื่อยๆ” นายพิธากล่าว

นายพิธากล่าวถึงความพยายามรวมเสียง เพื่อจัดตั้งรัฐบาลด้วยว่า ช่วงนั้นมีนักข่าวไปถาม นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ว่าถ้าก้าวไกลถอยเรื่อง ม.112 มีเพื่อไทย ก้าวไกล ภูมิใจไทย จะได้ไหม ตอนนั้นคุณอนุทินบอกว่าไม่มีคำว่า “ถ้า” พท.เลือก ภท. ไม่เอาก้าวไกล

“แต่ถ้าผมเป็นเขา จะบอกว่าเราสู้กันมาตั้งแต่เป็นอดีตฝ่ายค้าน เวลาดีเบตก็เห็นตรงกันหลายเรื่อง ปฏิบัติอาจไม่เหมือน แม้แคนดิเดตนายกฯคุณจะไปแล้ว แต่ยังมี ส.ส.อยู่อีก 150 คน ขอเอาคุณมาด้วย แต่เดี๋ยวเจรจากับ ภท. แล้วรอเวลาให้เกิดขึ้นได้ แม้ ภท.บอกว่าจะไม่เอา แต่จะหาวิธีให้เกิดรัฐบาลแบบนั้นให้ได้” นายพิธากล่าว

นายพิธากล่าวเพิ่มเติมว่า จำได้ว่าวันหนึ่งคุณอิ๊งค์เดินมาพร้อมคนอื่นๆ เช่น นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เดินจากตึกเพื่อไทยมาไทยซัมมิท มาอธิบายว่า “มันเป็นไปไม่ได้” ทั้งนี้ ให้รอไปอ่านในหนังสือที่ผมเขียน

“เท่าทีจำได้คือไม่มีการพูดเรื่องโครงสร้าง หรือ ม.112 แต่บอกว่าข้าวต้มมัดไม่มีแล้ว” นายพิธากล่าว

สรยุทธพยายามถามว่า วันนั้นอิ๊งค์พูดเองใช่หรือไม่ นายพิธาบอกว่า จำไม่ได้ เดี๋ยวขอไปนั่งคิดก่อน แต่มันคือการบอกลาว่าคงให้ก้าวไกลไปเป็นฝ่ายค้าน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image