เมื่อวันที่ 13 มี.ค.นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น (คปต.) เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวกรณีถูกฟ้องด้วยข้อหาตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หลังจากได้สำรวจความเห็นในเฟซบุ๊กเพื่อวัดว่าประชาชนเชื่อมั่นต่อรัฐบาลและนายกรัฐมนตรีหรือไม่ โดยพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปอท.เห็นว่าการกระทำดังกล่าวก่อให้เกิดความเสียหายต่อรัฐบาลและนายกรัฐมนตรีได้ ประกอบกับการจัดทำโพลดังกล่าวนั้นก็เป็นเพียงการจัดทำความเห็นกับกลุ่มคนเพียงกลุ่มเดียว ผลจึงอาจไม่ตรงกับความเป็นจริง จึงรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดก่อนขอศาลออกหมายจับในที่สุด
โดยนายวีระ ระบุว่า ข่าวที่ออกไปว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจสอบที่บ้านพักของตนนั้นไม่เป็นความจริง ไม่รู้ว่าเจ้าหน้าที่ไปให้ข่าวกับสื่อมวลชนแบบนั้นได้อย่างไร โดยในส่วนการมอบตัวนั้น จะเดินทางไปยังกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บก.ปอท. ในวันพุธที่ 15 มีนาคมนี้ เวลาประมาณ 13.00 น.อย่างแน่นอน เพราะขณะนี้ติดธุระอยู่ต่างจังหวัด ซึ่งคดีดังกล่าวก็ไม่ใช่คดีร้ายแรงอะไร ส่วนตัวอยากต่อสู้ในคดีนี้ด้วย โดยวันที่ตนทำโพลสำรวจนั้น เกิดจากการที่ตนนำข่าวโพลของซุปเปอร์โพลที่ระบุว่า ได้สำรวจความเห็นประชาชนมาพบว่าคนส่วนใหญ่เห็นว่า รัฐบาลประยุทธ์ทำบ้านเมืองสงบ ช่วยเหลือคนยากจน ชีวิตไม่วุ่นวาย จึงนำข่าวโพลดังกล่าวมาถามประชาชนในเพจ โดยคำถาม ตนเองก็ไม่ได้เขียนเอง แต่เป็นเพลงคืนความสุขของรัฐบาลมาถาม ส่วนตัวมองว่ามันเป็นเรื่องเล็กน้อยมาก โพลสำรวจความเห็นใครๆ ก็ทำ ที่กล่าวหาว่าโพลทำกับคนกลุ่มนึง ผมก็เห็นว่าโพลก็ทำกับคนกลุ่มนึงทั้งนั้น วันที่ทำโพลมีคนมาตอบร้อยกว่าคน ก็มีทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย คนชมก็มี คนด่าก็มี มันหลากหลาย มั่นใจว่าศาลจะมองออก
ทั้งนี้ ตนเองไม่ได้จงใจสรุปชี้นำแต่ประการใด ไม่ได้บอกว่าไม่ต้องเชื่อถือรัฐบาลอีก คนที่มาแสดงความเห็น เพราะเขาไม่เชื่อตามเพลงคืนความสุข ลองกลับไปดูถ้อยคำในคำถามได้เลย ไม่มีท่อนไหนยุยงปลุกปั่น ซึ่งการที่เจ้าหน้าที่อ้างว่าต้องออกหมายจับเพราะตนจะหนีเป็นภัยต่อความมั่นคงนั้น ความจริงไม่ได้เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติอะไรเลย แต่เป็นภัยต่อตัวนายกรัฐมนตรีมากกว่า ข้อหาทั้งหมดไม่เหมาะสม และเหมือนมีเจตนากลั่นแกล้งมากกว่า เพราะผู้มีอำนาจเห็นว่าตนไม่กลัว และผู้มีอำนาจกลัวความจริง จึงพยายามใช้ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ปิดปาก หวังจะทำให้ประชาชนในสังคมกลัว ไม่กล้าวิพากษ์วิจารณ์ผู้มีอำนาจ ต่อไปนี้ทุกคนจะต้องกลัวกันหมด
“ต่อไปนี้ประเทศจะอยู่กันยังไง ข้อมูลต่างๆ ที่เปิดเผยไปนั้น ถ้าบอกว่าผิด ก็ขอให้ดำเนินคดีมาเป็นคดีๆ ไปว่าเรื่องนั้นบิดเบือน แต่ไม่ใช่การฟ้องร้องด้วย พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เรื่องทุจริตต่างๆ ที่ไม่จริงนั้น ขอให้เถียงมาว่าไม่จริง แต่ที่ผ่านมาเงียบทุกเรื่อง” นายวีระระบุ
และว่า “ส่วนตัวยังไม่เห็นหมายจับ ซึ่งคดีแบบนี้ที่ถูกต้องออกเป็นหมายเรียกก่อน ไม่ใช่หมายจับ คนอย่างผมไม่เคยกลัวคดี ในชีวิตไม่เคยสร้างชื่อเสีย ไม่เคยทำประเทศเสียหาย มีแต่ต่อสู้เพื่อบ้านเมือง ต่อสู้กับคนโกง คนทุจริต คนขายชาติ มาโดยตลอด” นายวีระระบุ
