นายกฯ รับ “พระเขี้ยวแก้ว” ประดิษฐานในไทย เฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ-กระชับสัมพันธ์ไทย-จีน 50 ปี
เมื่อเวลา 17.30 น.วันที่ 4 ธันวาคม ที่ท้องสนามหลวง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานฝ่ายฆราวาส สมเด็จพระพุฒาจารย์ เจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม กรรมการมหาเถรสมาคม ประธานสงฆ์ฝ่ายไทย ในพิธีรับพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากสาธารณรัฐประชาชนจีน มาประดิษฐานที่มณฑปพิธีท้องสนามหลวง ในประเทศไทยเป็นการชั่วคราว เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และในโอกาสครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย – จีน ปี 2568
โดยมีพระอาจารย์เหยี่ยนเจว๋ ประธานพุทธสมาคมจีน เจ้าอาวาสวัดกว่างจี้ เป็นประธานสงฆ์ฝ่ายจีน พระสงฆ์ฝ่ายไทยและฝ่ายจีน นายเฉิน รุ่ยเฟิง รัฐมนตรีประจำสำนักกิจการศาสนาแห่งชาติจีน นายหาน จื้อ เฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.วัฒนธรรม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.การต่างประเทศ ร่วมในพิธี
โดยระหว่างขบวนอัญเชิญพระเขี้ยวแก้ว ผ่านเส้นทางถนนเยาวราช เข้าสู่ถนนราชดำเนิน ไปยังลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ มีประชาชนเฝ้ารับ ตลอดทางเป็นจำนวนมาก
การอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) มาประดิษฐานในประเทศไทยครั้งนี้ เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และในโอกาสการครบรอบ 50 ปี แห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย – จีน ในปี 2568 เป็นการสานต่อมิตรภาพอันยาวนานระหว่างไทยกับจีน ผ่านสายสัมพันธ์ทางพระพุทธศาสนาผลักดันการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันระหว่างไทย – จีน ผูกสัมพันธ์แน่นแฟ้นในจิตใจของประชาชนทั้งสองประเทศ โดยเปิดให้ประชาชนเข้าสักการะ ได้ตั้งแต่วันที่ 5 ธันวาคม 67-14 กุมภาพันธ์ 68 เวลา 07.00-20.00 น.
น.ส.แพทองธาร กล่าวเป็นประธานในพิธีรับพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) ว่า ในนามประธานกรรมการอำนวยการการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้มาเป็น ประธานในพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากสาธารณรัฐประชาชนจีนมาประดิษฐาน ในประเทศไทยเป็นการชั่วคราว เนื่องในวาระสำคัญ 2 วาระ คือ การจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และในโอกาสครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย – จีน ในปี 2568
รัฐบาลไทยและรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้มีฉันทามติร่วมกันในการจัดพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากวัดหลิงกวง กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน มาประดิษฐานในประเทศไทยเป็นการชั่วคราว เป็นเวลา 73 วัน ระหว่างวันที่ 4 ธันวาคม 2567 – 14 กุมภาพันธ์ 2568 ที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเป็นการสาน
สัมพันธไมตรีระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีนให้แนบแน่นยิ่งขึ้น อีกทั้งเป็นการเปิดโอกาสให้พุทธศาสนิกชนชาวไทยและชาวจีนในประเทศไทยได้กราบสักการบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคลยิ่งแก่ชีวิต
ในปี พ.ศ. 2545 เป็นครั้งแรกที่สาธารณรัฐประชาชนจีน ได้อนุญาตให้รัฐบาลไทยอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) มาประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ พุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 75 พรรษา 5 ธ.ค. 2545 การอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) ในครั้งนี้ นับเป็นครั้งที่ 2 ที่รัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้อนุญาตให้รัฐบาลไทยอัญเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์และมีค่ายิ่งของประเทศมาประดิษฐานในประเทศไทยเป็นการชั่วคราว เป็นสัญลักษณ์แห่งมิตรไมตรีอันแนบแน่นระหว่างไทยกับจีน ดังคำกล่าวที่ว่า “ไทยจีนใช่อื่นไกลพี่น้องกัน”
“ในนามรัฐบาลและปวงชนชาวไทย มีความปีติยินดีเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีน มา ณ โอกาสนี้ การอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) มาประดิษฐานในประเทศไทยในครั้งนี้ นับเป็นวาระแห่งมิตรภาพระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีนที่จะส่งเสริมให้ความสัมพันธ์มีความแน่นแฟ้นยิ่ง ๆ ขึ้นไป”
จากนั้นเวลา 19.00 น.เข้าสู่พิธีทางศาสนา นายกฯจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย และถวายดอกไม้ธูปเทียนแพเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เจ้าหน้าที่อาราธนาศีล ประธานสงฆ์ฝ่ายไทยให้ศีล พระสงฆ์ฝ่ายไทย 10 รูป เจริญพระพุทธมนต์ นายกฯถวายไทยธรรม รับพร กราบลาพระรัตนตรัย และทำความเคารพเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โอกาสนี้ นายกฯรับเสด็จ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เพื่อถวายพวงมาลัยสักการะ และส่งเสด็จ เป็นอันเสร็จพิธี
สำหรับ บริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวง ได้จัดให้มีนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 จำนวน 5 โซนประกอบด้วย โซนที่ 1 “ดับขันธปรินิพพาน มกุฎพันธนเจดียสถาน” โซนที่ 2 “พุทธะบารมีพระสรีระธาตุ” โซนที่ 3 “พระเขี้ยวแก้ว” โซนที่ 4 “ใต้ร่มเศวตฉัตร ทศมรัช พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว” และโซนที่ 5 “ความสัมพันธ์ ไทย-จีน”