เอกนัฏ ยัน รทสช. หนุนมติวิปรัฐบาล ไม่รับร่างพ.ร.บ.ประชามติ เสียงข้างมากสองชั้น ชี้ มีเห็นต่างกันบ้างแต่เอกภาพรัฐบาลยังคงอยู่
เมื่อเวลา 14.10 น. วันที่ 19 ธันวาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่เมื่อวานนี้ (18 ธันวาคม) ที่รัฐสภา พรรคภูมิใจไทยได้โหวตสวนมติวิปรัฐบาลที่ไม่รับร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประชามติ ฉบับกรรมาธิการร่วมฯ และยืนยันร่างของสภาผู้แทนราษฎร โดยยึดหลักเสียงข้างมากชั้นเดียว ว่า ในส่วนของพรรครวมไทยสร้างชาตินั้น เป็นไปตามมติของวิปรัฐบาล เพียงแต่ว่า ส.ส.หลายท่าน และหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ติดภารกิจช่วยน้ำท่วมอยู่ที่ภาคใต้ ช่วงนี้ยังมีหลายพื้นที่ที่ประสบปัญหาอุทกภัยหนักอยู่ โดยหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ส.ส.ชุมพร ส.ส.นครศรีธรรมราช และ ส.ส.สุราษฎร์ธานี ยังติดอยู่ในพื้นที่ ซึ่งสามจังหวัดดังกล่าวก็มีสมาชิกลงไปช่วยอยู่จะครึ่งพรรคแล้ว ซึ่งเราก็ได้แจ้งวิปรัฐบาลแล้วว่าต้องขออภัยในเรื่องนี้ด้วย อีกทั้งตอนนี้ก็เช็กแล้วว่าจำนวนเสียงของ ส.ส.นั้นอยู่ในระดับที่ดีแล้ว เลยขออนุญาตให้อยู่ช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยน้ำท่วมในช่วงนี้
เมื่อถามต่อว่า มติที่ออกมาเป็นการยืนยันโดยให้ทำประชามติชั้นเดียว จะส่งผลดีต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นไปได้เร็วขึ้นหรือไม่ นายเอกนัฏกล่าวว่า สำหรับพรรครวมไทยสร้างชาติ เรื่องการแก้รัฐธรรมนูญไม่ใช่นโยบายของเรา แต่เนื่องจากเป็นนโยบายที่ตกลงร่วมกันของรัฐบาล โดยที่เสนอเป็นหลักคือพรรคเพื่อไทย ซึ่งก็อยู่ที่พรรคเพื่อไทย โดยเรามีความชัดเจนตั้งแต่ร่วมรัฐบาลครั้งแรก โดยมีเงื่อนไขว่าจะต้องไม่แตะมาตรา 112 โดยเฉพาะเรื่องนิรโทษกรรมเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งจะเป็นเรื่องดีที่พรรคเพื่อไทยยืนยันว่าจะนำมาตรา 112 ออกไปจากนิรโทษกรรม ในส่วนของรัฐธรรมนูญได้ให้เงื่อนไขไปว่า จะแก้อย่างไรก็แล้วแต่ก็ไม่แตะหมวด 1 และหมวด 2
นายเอกนัฏกล่าวอีกว่า ส่วนที่เกี่ยวกับการป้องกันปราบปรามการทุจริตประพฤติไม่ชอบ และทั้งหมดคือเงื่อนไขของพรรครวมไทยสร้างชาติที่จะเข้าร่วมรัฐบาล จนถึงปัจจุบันตนเห็นว่าพรรคเพื่อไทยก็ได้ให้ความสำคัญกับเงื่อนไขที่ตกลงกันไว้ โดยที่ย้ำว่าจะไม่แตะหมวด 1 หมวด 2 และจะไม่กระทบกับมาตรฐานของการป้องกันการทุจริต ประพฤติไม่ชอบ ส่วนจะเร็วจะช้าก็ต้องเรียนให้ทราบตามตรงว่าไม่ใช่นโยบายของพรรครวมไทยสร้างชาติ
เมื่อถามต่อว่า มองว่างานของสภาในขณะนี้ส่งผลกระทบต่อเอกภาพของรัฐบาลหรือไม่ นายเอกนัฏกล่าวว่า ไม่ คือวันนี้พรรคร่วมรัฐบาลแต่ละพรรคก็ยอมรับความคิดที่แตกต่าง จนเข้าใจว่าบางเรื่องหรือบางกฎหมายบางฉบับก็เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน เช่น ก่อนหน้านี้ที่จะมี พ.ร.บ.คุ้มครองสิทธิและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์และชนเผ่าพื้นเมือง ที่พรรครวมไทยสร้างชาติมีความคิดเห็นไม่เหมือนกับพรรคอื่น โดยเราได้ค้านเพราะกลัวว่าจะกระทบกับความมั่นคงของประเทศ แต่เราก็เคารพในการให้สิทธิที่เท่าเทียมกัน หากจะแยกชาติพันธุ์ออกไปและกระทบความมั่นคงของประเทศ เราคงไม่เห็นด้วย ทั้งนี้ตนคิดว่าการทำงานในสภาผู้แทนราษฎรก็ต้องเคารพความคิดเห็นที่แตกต่างกัน แตกต่างได้แต่ต้องเคารพความเห็นที่แตกต่างซึ่งกันและกัน มันจะสามารถอยู่ร่วมกันได้ แล้วจนถึงวันนี้ก็ยังไม่เห็นจะเป็นปัญหาอะไร
เมื่อถามต่อว่า ในส่วนของพรรครวมไทยสร้างชาติเห็นด้วยหรือไม่ว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะต้องจัดทำประชามติก่อน นายเอกนัฏกล่าวว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้ที่พิเศษกว่าฉบับก่อนก็คือมีการทำประชามติ ส่วนใครจะว่าอย่างไรก็แล้วแต่ แต่มันมีการทำประชามติ เพราะฉะนั้นหากจะแก้ไขยังไงก็ต้องมีการทำประชามติ