บิ๊กตู่ บอก ตัวเองก็เป็นนักประชาธิปไตย ไม่เคยคิดต่อต้าน แต่วอนสังคมอย่าติดกับดักเดิมๆ(คลิป)

“บิ๊กตู่” ระบุต้องท้าทายเผชิญโลกที่เปลี่ยนแปลง ใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์ ลั่นไม่เคยต่อต้านประชาธิปไตย บอกตัวเองก็เป็นนักปชต. วอนรักใครต้องมีสติใช้สมอง อย่าหลงกับดักเดินลงหลุมคนชักจูงให้เกิดความขัดแย้ง

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 17 มีนาคม ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานกล่าวปาฐกถาพิเศษ “การขับเคลื่อนThailand 4.0 ด้านเกษตรอาหาร และเทคโนโลยีชีวภาพ” โดยมีพล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายสุวิทย์ เมษินทรีย์รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมรับฟัง

นายกฯกล่าวตอนหนึ่งว่า ทุกวันนี้ไม่ว่าจะจบคณะอะไรมาทุกอย่างต้องทำงานร่วมกัน เพราะอยู่ห่วงโซ่เดียวกัน ไม่ใช่โซ่ ที่กระทรวงยุติธรรมกำลังจะออกมา เพื่อติดตามคนที่กระทำผิด สำหรับประเทศไทยเองนั้น พื้นฐานอาชีพนคือเกษตรกรรม ที่ต้องดูแลมากเป็นพิเศษ ปัจจุบันปัญหาของโลกที่เรายังต้องติตตาม เรื่องสภาพอากาศ โรคระบาดที่เกิดขึ้นใหม่ ที่เกษตรกรต้องรับมือ พร้อมให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไปคิดว่าจะทำอย่างไร ไม่ให้หนอนหัวดำมีที่ยืนในประเทศไทย

Advertisement

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้เราต้องท้าทาย และเผชิญหน้ากับการเปลี่ยนแปลง เทคโนโลยีปัจจุบันมีความทันสมัยมากขึ้น โดยเฉพาะการใช้โทรศัพท์มือถือ ประเทศไทยมีการพัฒนาในการใช้โทรศัพท์ เฟซบุ๊ก เว็บไซต์สูงมาก ดังนั้นขอให้ใช้ประโยชน์จากโทรศัพท์ให้มากที่สุด อย่าใช้เพียงเพื่อความบันเทิง หรือใช้เพื่อความขัดแย้ง เราจะต้องไม่หยุดนิ่ง จะดำเนินชีวิตแบบเดิมๆ ต่อไปไม่ได้อีกแล้ว หลายคนออกมาเรียกร้องให้กลับไปอยู่จุดนั้น จุดนี้ แล้วทุกคนก็อ้างว่าจะต้องเป็นประชาธิปไตย

“ผมไม่เคยไปต่อต้านพวกท่าน ผมเป็นนักประชาธิปไตยคนหนึ่ง แต่ผมต้องอยู่ในกรอบประชาธิปไตยที่ถูกต้อง ทำอย่างไรประชาธิปไตยจะไม่ถูกบิดเบือน จะต้องไม่ขัดแย้ง ประชาชนจะต้องยืนอยู่ตรงไหน ถือเป็นสิ่งสำคัญของประเทศไทย หลายประเทศทำได้ทั้งหมด มีเพียงประเทศไทยประเทศเดียวที่ทำอะไรไม่ได้สักอย่าง เพราะติดขัดในข้อกฎหมาย ไม่ปฏิบัติตามข้อกฎหมาย คนที่บังคับใช้กฎหมายก็ทำไม่ได้ ล้วนแต่เป็นปัญหาของประเทศ ซึ่งเราต้องร่วมมือกันจัดระเบียบสังคมอีกสักหน่อย แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไปละเมิดสิทธิ เพียงแต่เราต้องดูว่าเวลาที่คนเหล่านี้ไปละเมิดสิทธิผู้อื่น ทำให้ประชาชนสังคม และประเทศเดือดร้อนแค่ไหน โดยเฉพาะคนบางกลุ่มแล้วดูว่าทำไมพวกผมถึงต้องเข้ามาทำแบบนี้ ยืนยันว่าผมไม่ได้รังแกใคร ผมทำเพื่อทุกคนในประเทศนี้ 70 กว่าล้านคน ยืนยันว่าไม่ได้ทำเพื่อใครคนใดคนหนึ่ง เราไม่สามารถจะอยู่นิ่งได้ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ชีวิต การทำธุรกิจ ผมและรัฐมนตรีทุกคนจะต้องเรียนรู้งานทั้งหมด ทั้งในฐานะผู้ปฏิบัติ และผู้กำหนดนโยบาย แต่ทั้งหมดอย่าไปเครียด เราต้องอยู่กับสิ่งที่เป็นปัจจุบันให้ได้ ต้องอยู่กับความขัดแย้งให้ได้ โดยตัวเราจะต้องเป็นผู้ลดความขัดแย้งด้วยตัวเอง ถ้าทุกคนช่วยกันลดความขัดแย้งก็จะลดลง ถ้าทุกคนช่วยกันปรองดองก็จะปรองดองทั้งหมด อย่าไปร่วมขัดแย้งกับใคร ไม่ใช่ใครชวนไปก็ไปกับเขาแล้วเกิดความขัดแย้ง เนื่องจากคนไทยละเอียดอ่อนมีฟิลลิง รักใครก็รักจริง เกลียดใครก็เกลียดจริง เกลียดไม่เลิก เราต้องปรับตัวด้วยเหตุผล จะรักใครต้องรักด้วยเหตุผล เหมือนผู้หญิงรักใครต้องรักด้วยสมอง อย่าใช้แค่ความรู้สึก หรือรูปร่างหน้าตา จะต้องใช้สติปัญญาในการรักคน ผมมีประสบการณ์มาก่อน ต้องใช้สมอง” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เราจำเป็นต้องรู้เท่าทัน และเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เป้าหมายหลักของรัฐบาลคือการนำประเทศ หลุดพ้นจากกับดักรายได้ประเทศปานกลาง กับดักคือหลุมพราง หลอกล่อให้คนเดินเข้าไปมีคนเข้ามาจูงเข้าไปตกหลุมตกร่องตลอดทาง เพราะถ้ารู้ว่าเป็นกับดักก็อย่างหลงเดินเข้าไป หาทางเดินที่ปลอดภัย ประเทศก็เช่นเดียวกันถ้ายังมัวติดกับดักเดิมๆ ทั้งความขัดแย้ง ความไม่เข้าใจ ประชาธิปไตยที่นอกกรอบมากเกินไป ประชาชนขาดหลักคิดที่ดี การศึกษาที่ไม่ต้องเนื่องไม่เรียนรู้ คิดวิเคราะห์ไม่ได้ ก็จะทำให้ประเทศติดอยู่กับกับดักเดิมๆ และเกิดปัญหาคนที่จ้องหาผลประโยชน์กับความอ่อนแอต่างๆ

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image