สยบลือ! อิ๊งค์ พูดชัด ยังไม่ปรับครม. เรียกรมต. จี้งานรายคน ยันไทยมีนายกฯคนเดียว

สยบลือ! อิ๊งค์ พูดชัด ยังไม่ปรับครม. เรียกรมต. จี้งานรายคน ยันไทยมีนายกฯคนเดียว

เมื่อเวลา 11.40 น. วันที่ 7 มกราคม ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์หลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงข้อสังเกตว่าการทำงานของนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน ในเรื่องของค่าไฟฟ้า จะเป็นหลักประกันไม่ให้ถูกปรับพ้นจาก ครม.หรือไม่ ว่า ไม่ทราบ ไม่ทราบเรื่องนี้จริงๆ และเคยคุยหลังไมค์กับสื่อมวลชนว่าไม่เคยพูดถึงเรื่องการปรับ ครม. ยังไม่เคยพูดเลยด้วยซ้ำ และอำนาจการปรับน่าจะเป็นของนายกฯ แต่ตัวนายกฯ ยังไม่ทราบเลย ว่าจะมีการปรับเกิดขึ้น และนายพีระพันธุ์ก็คุยกันอยู่ และในที่ประชุม ครม.ก็เจอกัน ยืนยันไม่มีการปรับ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนหน้านี้นายกฯ เคยระบุว่ายังไม่มีการปรับ ครม.แต่จะเรียกรัฐมนตรีแต่ละกระทรวงมาพูดคุยเพื่อประเมินการทำงาน ในรอบ 3 เดือน น.ส.แพทองธารกล่าวว่า เรื่องนี้เป็นแผนที่คุยกัน และภายในเดือนนี้จะเชิญมาคุยได้ประมาณ 2 กระทรวง และอยากคุยตั้งแต่เริ่มเป็นรัฐมนตรี พอมีงานหลายอย่างไล่เรียงเข้ามา ต้องแยกว่าแต่ละกระทรวงรับผิดชอบอะไรบ้างและตอนนี้เป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น

“การเชิญรัฐมนตรีเข้ามาคุย ที่จริงได้แจ้งทุกท่านตั้งแต่ปี 2567 เรื่องนี้รัฐมนตรีไม่ตกใจแน่นอน เพราะเป็นการอัพเดตสถานะว่านโยบายนั้นทำถึงไหนแล้ว เพราะได้กระจายงานให้รองนายกฯ แต่ละคน แต่ที่เรียกมาคุยเพราะจะได้ทราบว่าคนที่อยู่หน้างานทำอะไรบ้าง จะได้จัดเวลาให้รัฐมนตรีแต่ละคนในการเสนอและพูดคุย เพื่อขอการสนับสนุนซึ่งกันและกัน ทำให้เกิดผลเป็นรูปธรรมมากขึ้น”

เมื่อถามกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวบนเวทีปราศรัยจะเร่งแก้เรื่องทุนผูกขาด หากรัฐมนตรียังไม่สามารถทำได้ก็ต้องเรียกมาคุย ถ้าทำไม่ได้ให้เปลี่ยนตัว นายกฯ ยิ้มและกล่าวว่า ถ้าฟังสิ่งที่นายทักษิณพูดเป็นสไตล์การทำงานของนายทักษิณ ไม่ได้เหมือนกับตน เป็นคนละแบบกัน การที่เรียก รมต.มาคุย ที่จริงไม่ใช่อย่างนั้น เพราะตนมีไลน์ส่วนตัวของรองนายกฯ และรัฐมนตรี ที่สามารถพูดคุยกันได้อยู่แล้ว พร้อมกลับหันไปมองหารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งไม่ได้ยืนอยู่ในที่แถลง และยกตัวอย่างว่า รมว.พาณิชย์ก็คุยกันเรื่องราคาพืชผล และคุยกันทางไลน์พบว่ามีตัวเลขเยอะ โดยถามและเน้นย้ำว่าจะช่วยเรื่องราคาสินค้าเกษตรอย่างไร ที่เป็นการผูกขาดทั้งราคาสินค้าอุปโภคและบริโภคต้องดำเนินการ เพราะไม่อยากให้มีการผูกขาดเกิดขึ้น เมื่อเน้นย้ำเสร็จจากนั้นคือขั้นตอนของการทำงาน การจะเปลี่ยนตัวอะไร ยังไม่ได้พูดถึง

ADVERTISMENT

เมื่อถามย้ำว่า ที่นายกฯ ระบุสไตล์การทำงานแตกต่างจากนายทักษิณ ได้ยึดหลักอะไร หรือกำหนดช่วงเวลาในการจะปรับ ครม.อย่างไร นายกฯ หัวเราะและกล่าวว่า สไตล์ของคุณพ่อเป็นอย่างไรไม่ทราบ แต่สไตล์ของตนจะคุยก่อนและพูดตรงๆ ว่าอยากให้สิ่งนี้ หนึ่ง สอง สาม เกิดขึ้นก่อนได้หรือไม่ และนายกฯ จะสนับสนุนอะไรได้บ้าง ดังนั้นถ้าเป็นการละเลย หรือไม่สนใจการทำงานจะเห็นเจตนาอยู่แล้ว ถ้าเป็นขั้นตอนการทำงานที่เข้าใจได้ต้องสนับสนุนให้ไปต่อ เพราะความมีเสถียรภาพจะทำให้งานเกิด และในกระทรวงต่างๆ หากมีเสถียรภาพการทำงานจะต่อเนื่องในรัฐบาล

“ดิฉัน ไม่มีแผนปรับ ครม. อย่างไรจะบอกอีกครั้ง ตอนนี้ยังไม่คิดปรับ ครม.เลย” นายกฯ กล่าวย้ำ

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากจะมีการปรับจะต้องยึดหลักอะไร นายกฯ กล่าวว่า ทุกอย่างดูจากผลงาน

เมื่อถามว่ารู้สึกอย่างไรที่นายทักษิณ ออกมาเคลื่อนไหวและพูด เหมือนเป็นการล้ำหน้าก่อน นายกฯ กล่าวว่า เข้าใจที่ทุกคนเวลาพูดกันว่านายกฯตัวจริงบ้าง หรือที่แปลว่ามีหลายนายกฯ ที่ผ่านมาต่างกันตรงที่ว่าตนเป็นลูก ไม่ได้เป็นคู่แข่งกับนายทักษิณ ฉะนั้นการที่โตขึ้นมาในบ้านที่ท่านเป็นหัวหน้าครอบครัว สิ่งที่ท่านพูดอะไรถ้านำมาประยุกต์ใช้ได้และปรับใช้ในชีวิตคือสิ่งดี และมองว่าเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ทั้งฝ่ายค้าน นักวิชาการ รัฐมนตรี หรือใครก็ตามที่คิดว่าเป็นประโยชน์ควรนำมาใช้ เราจะไม่ฟังคนที่ไม่ชอบเราคงไม่ได้ และคุณพ่อ เคยเป็นนายกฯ ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก ฉะนั้นการพูดหรืออะไรตนรับฟังอยู่แล้ว แต่หากรู้สึกไม่แฮปปี้ สื่อไม่ต้องลุ้น เพราะตนจะหลังไมค์ไปแน่นอน ให้คิดง่ายๆ เหมือนคนในครอบครัวคุยกัน ซึ่งตนก็เป็นอย่างนั้น หากถามว่ารู้สึกอะไรหรือไม่ต้องบอกว่าเป็นสไตล์การพูดของท่าน

ผู้สื่อข่าวถามว่าสิ่งที่นายทักษิณพูด และรัฐบาลนำมาทำ จนทำให้มองว่ามีนายกฯอีกคน น.ส.แพทองธารกล่าวว่า นั่นคือการคุยหลังไมค์กัน ส่วนตนกำหนดไว้แล้วว่าจะให้สัมภาษณ์หลังการประชุม ครม.เท่านั้น ฉะนั้นสิ่งที่นายทักษิณพูดก่อน ถือว่าเป็นรอบที่ท่านจะพูดและไม่เป็นไร ต้องดูว่าประโยชน์อยู่ที่ใคร อยู่ที่ประเทศหรือไม่หากเกิดขึ้นจริง ถ้าอยู่ที่ประเทศก็จบ เพราะตนไม่ได้กระทบอะไร ไม่รู้สึกว่ามีนายกฯสองคน สามคนหรือต้องเสียใจอะไร

เมื่อถามย้ำว่าสังคมบอกว่าเป็นการแบ่งทำงาน โดยนายทักษิณเป็นฝ่ายบู๊ และนายกฯเป็นฝ่ายประนีประนอม นายกฯ กล่าวว่า สิ่งที่นายทักษิณพูดหลายอย่างบางทีไม่ได้เกิดขึ้น เพราะหลายอย่างต้องผ่านมติ ครม. นายทักษิณเป็นคนมีวิสัยทัศน์ คิดก่อนว่าต้องอย่างนั้นอย่างนี้ แต่เมื่อไม่ได้ดำรงตำแหน่ง แม้จะมีวิสัยทัศน์แต่จะนำมาปฏิบัติได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับฝ่ายบริหาร ต้องแยกภาพให้ชัดเจน ไม่ได้เป็นไปตามที่พูดทั้งหมด หากกระทบแล้วเป็นเรื่องที่ดีก็ดี

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา มีพรรคร่วมรัฐบาลใดที่ยังดื้อ และรัฐมนตรีคนใดที่ยังสอบไม่ผ่าน น.ส.แพทองธารเหลือบหันไปทางนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย พร้อมป้องปากหัวเราะ ขณะที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม หันไปถามนายอนุทิน ซึ่งยืนอยู่ข้างกันว่าดื้อหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า “ไม่ดื้อ มีแต่น่ารัก” และนายกฯกล่าวย้ำว่า “เขาบอกว่ามีแต่น่ารัก ไม่มีดื้อ นายกฯ ดื้อที่สุด”