ธงทอง ตรวจติดตามด่านค้าชายแดนหนองคาย คิกออฟใช้ออนไลน์ เพิ่มความสะดวก-ลดขั้นตอนทำงาน

ธงทอง ตรวจติดตามด่านค้าชายแดนหนองคาย คิกออฟใช้ออนไลน์ เพิ่มความสะดวก-ลดขั้นตอนทำงาน

เมื่อวันที่ 10 มกราคม ที่ด่านพรมแดนไทย-ลาว จ.หนองคาย นายธงทอง จันทรางศุ ที่ปรึกษานโยบายของนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการปรับปรุงกฎหมายเพื่อความสะดวกในการประกอบธุรกิจ (คปธ.) ตรวจติดตามการดําเนินงานและความคืบหน้า การใช้ระบบรับบรรทุกสินค้าที่ด่านพรมแดนอัตโนมัติ (Auto load) ซึ่งเป็นความร่วมมือกันระหว่างกรมศุลกากร และกรมวิชาการเกษตร ที่เริ่มตั้งแต่เดือนธันวาคม 2567 โดยใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ ตรวจสอบเลขทะเบียนบนตู้สินค้าเกษตรที่ผ่านการลงทะเบียน ตรวจสอบมาตรฐาน และปิดซีลจากต้นทาง เพื่อช่วยลดขั้นตอนที่ซ้ำซ้อน เพิ่มความรวดเร็วในการขนส่งสินค้าผ่านชายแดนไทย-ลาว เพื่อส่งออกไปยังประเทศจีนผ่านเส้นทางรถไฟได้มากขึ้น ตามนโยบายสมัยนายกรัฐมนตรีนายเศรษฐา ทวีสิน

จากนั้น นายธงทองตรวจการดําเนินการนําเข้าและส่งออกสินค้าของศูนย์บริการการค้าชายแดนเบ็ดเสร็จจุดเดียว หรือ One Stop Service (OSS) จ.หนองคาย และประชุมติดตามการบูรณาการร่วมกันระหว่างกรมศุลกากร กรมสรรพสามิต สำนักงานพาณิชย์จังหวัดหนองคาย กรมปศุสัตว์ และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) สอบถามปัญหาที่ติดขัดในการทํางานต่างๆ

ADVERTISMENT

นอกจากนี้ นายธงทองยังเดินทางไปเยี่ยมชมด่านตรวจคนเข้าเมืองไทย-ลาว ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง สถานีรถไฟหนองคาย และเดินทางไปยังสถานีรถไฟนาทา ที่เตรียมพัฒนาเป็นสถานีเปลี่ยนถ่ายตู้สินค้าขนาดใหญ่ และจะเป็นส่วนหนึ่งของโครงการเชื่อมเส้นทางรถไฟไทย-ลาว ที่จะดำเนินการในอนาคต

ADVERTISMENT

จากนั้น นายธงทองเปิดเผยภายหลังการลงพื้นที่ว่า ภารกิจที่ตนเดินทางมา ก็เพื่อพูดคุยหารือติดตามความคืบหน้า ในการพัฒนาระบบการทำงานของด่านชายแดน จ.หนองคาย เพราะเป็นเหมือนประตูสู่ลาวและจีน ซึ่งสินค้าที่เข้าออกด่านแห่งนี้ นับวันจะทวีปริมาณและความสําคัญมากขึ้น และสมัยที่นายเศรษฐาเดินทางมา ก็เห็นถึงข้อขัดข้องและอุปสรรค มีหน่วยงานทำงานร่วมกัน 8 กรม แต่กฎระเบียบ บุคลากร และสถานที่ทํางานแยกกัน หากสามารถบูรณาการร่วมกันได้ ก็จะเป็นประโยชน์ต่อราชการและผู้ประกอบการ

นายธงทองกล่าวต่อว่า นายเศรษฐาได้มอบนโยบาย One Stop Service ไว้ ให้ทุกหน่วยงานนั่งทํางานร่วมกัน ซึ่งได้เริ่มดําเนินการตั้งแต่ปลายปี 2566 แต่ก็ยังมีข้อจํากัดหลายอย่าง นายเศรษฐาจึงได้ฝากให้ตนในฐานะประธาน คปธ. ช่วยดูแล ซึ่งตนมองว่าระบบออนไลน์และเทคโนโลยี สามารถเข้ามาช่วยเหลือได้ และปรับปรุงกฎหมายให้มีความทะมัดทะแมง

นายธงทองกล่าวว่า การมาครั้งนี้ ตนเห็นความคืบหน้าที่เป็นรูปธรรม คือการนําเทคโนโลยีมาปรับปรุงประสิทธิภาพด่านชายแดน เช่น แบบฟอร์มเอกสารไม่ใช้กระดาษ แต่เป็นระบบออนไลน์แล้ว หรือการตรวจตู้สินค้าเกษตร ไม่ต้องเปิดตู้ตรวจที่ด่าน แต่ตรวจและออกใบรับรองจากต้นทาง และส่งเข้าระบบออนไลน์ ดังนั้น การผ่านชายแดนจะรวดเร็วมากขึ้น ทั้งนี้ ระบบยังไม่สมบูรณ์ 100% แต่เชื่อว่ายังพัฒนาปรับปรุงได้อีก อีกไม่นานจะดีขึ้น

ส่วนจะใช้โมเดลนี้กับด่านชายแดนในจังหวัดอื่นด้วยหรือไม่นั้น นายธงทองกล่าวว่า ที่ จ.หนองคาย เป็นโครงการนําร่อง หากประสบความสําเร็จ จะขยายผลไปใช้ในจุดอื่นๆ ทั่วประเทศไทย เพื่ออํานวยความสะดวกการขนส่งสินค้าและบริการให้มากขึ้น

นายธงทองกล่าวอีกว่า ตนจะนําเรื่องโครงการนี้ไปนําเรียนผู้ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้อง ทั้งนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ทั้งสิ่งที่สําเร็จแล้ว และสิ่งที่ต้องเตรียมในอนาคต เพื่อให้หน่วยราชการทั้งหลายรับแนวทางไปทํางานต่อ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image