‘จุรินทร์’ ชี้ ปชป.เห็นด้วยกับ ‘เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์’ หรือไม่ ต้องขอดูหน้าตา-เงื่อนไขก่อน ย้ำประชามติเป็นทางออกที่ดีที่สุด ช่วยสร้างความชอบธรรมให้รัฐบาล เชื่อได้คุ้มเสีย
เมื่อวันที่ 20 มกราคม นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ให้สัมภาษณ์ถึงพรรคประชาธิปัตย์เห็นอย่างไรกับเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ว่า สำหรับร่าง พ.ร.บ.ใหม่ที่ผ่านคณะรัฐมนตรี (ครม.) ไปนั้น พรรคประชาธิปัตย์ยังไม่เคยมีการคุยกัน ถ้าสมมุติว่ามีร่างที่ผ่าน ครม.มาอย่างชัดเจน และรัฐบาลตัดสินใจว่าจะเสนอเข้าสภา ตอนนั้นที่ประชุม ส.ส.พรรคจึงจะมีการพูดคุยกันว่าจะมีความเห็นอย่างไร แต่ขณะนี้ยังไม่มีการประชุม ส.ส.เพื่อพิจารณาเรื่องนี้ และต้องรอความชัดเจนด้วยว่าสุดท้ายรัฐบาลจะตัดสินใจเอาเข้าสภาหรือไม่
เมื่อถามว่า ทำไมจึงเสนอให้เรื่องนี้ต้องทำประชามติ นายจุรินทร์กล่าวว่า 1.เป็นเรื่องผลกระทบอย่างกว้างขวาง ทั้งทางสังคม เศรษฐกิจ การเมือง และเป็นประเด็นที่มีความอ่อนไหวมาก 2.ประชาชนมีความเห็นต่าง และ 3.พรรคการเมืองไม่ได้หาเสียงมาก่อนว่าจะทำกาสิโน อาจจะพูดกว้างๆ แต่ไม่ได้ระบุชัดว่าจะทำกาสิโนเพื่อประกอบการตัดสินใจของประชาชน เพราะฉะนั้นข้อยุติที่ดีที่สุดคือการทำประชามติ เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนว่าเห็นด้วยที่จะให้ทำหรือไม่ ซึ่งเป็นทางออกที่ตนคิดว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย ทั้งฝ่ายรัฐบาลเองจะได้มีความชอบธรรมถ้าประชาชนเห็นด้วย แต่ถ้าประชาชนไม่เห็นด้วยก็ยกเลิกได้ เพราะเป็นรัฐบาลในวิถีทางประชาธิปไตยที่ควรรับฟังเสียงประชาชน บางประเทศก็ใช้ประชามติในการตัดสินใจเรื่องสำคัญๆ ของบ้านเมือง ซึ่งประเด็นนี้เป็นเรื่องใหญ่และมีผลกระทบในวงกว้าง จึงคุ้มค่าที่จะทำประชามติ เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายได้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจ
“โดยภาพรวมเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ผมคิดว่าแรงต่อต้านไม่มี แต่ประเด็นใหญ่คือกาสิโน เพราะถ้าจะทำเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ คิดว่าประชาชนไม่ขัดข้องอะไร ฝ่ายที่ต่อต้านส่วนใหญ่เท่าที่รับฟังก็ไม่ได้คัดค้าน เพราะการทำศูนย์การค้า ทำร้านอาหาร การทำแหล่งบันเทิง ก็มีอยู่แล้วในประเทศเรา ในแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ แต่สิ่งที่จะเป็นประเด็นเป็นความเห็นที่ขัดแย้งกันอยู่คือกาสิโน” นายจุรินทร์กล่าว
เมื่อถามว่า หากร่างกฎหมายฉบับนี้เข้าสภา ประชาธิปัตย์ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลจะโหวตอย่างไร นายจุรินทร์กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องมีการพูดคุยกันในพรรคก่อน ขอดูหน้าตาของร่างกฎหมายว่าออกมาเป็นอย่างไร รายละเอียด เงื่อนไขเป็นอย่างไร และเมื่อพูดคุยในพรรคแล้วในภาพรวมพรรคมีความเห็นอย่างไร
ต่อข้อถามว่า การทำประชามติรอบหนึ่งใช้งบประมาณกว่า 3 พันล้านบาทจะคุ้มหรือไม่ นายจุรินทร์กล่าวว่า คิดว่าคุ้มค่า เพราะความเสียหายถ้าเทียบไปแล้วกับ 2-3 พันล้านบาท หากเกิดความเสียหายจะมากกว่านี้จะเป็นความเสียหายมหาศาล โดยเฉพาะปัญหาทางสังคมและผลกระทบทางเศรษฐกิจฐานราก ซึ่งเป็นสิ่งที่ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยเป็นห่วง เพราะฉะนั้นเพื่อหาข้อยุติสำหรับทุกฝ่ายและเป็นทางออกที่ดี เพราะเราก็มีกฎหมายประชามติ และเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ การทำประชามติก็เพื่อเปิดทางให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม และให้ฝ่ายต่างๆ ได้ถามประชาชนในประเด็นที่คิดว่าเป็นเรื่องที่มีความสำคัญ อาจเป็นเรื่องใหม่สำหรับบ้านเรา แต่สามารถทำได้ ทั้งหมดนี้เป็นข้อเสนอและเป็นความเห็น รัฐบาลจะรับฟังหรือไม่ก็สุดแล้วแต่ หรือฝ่ายต่างๆ จะเห็นด้วยหรือไม่ก็แล้วแต่
