เฉลิมชัย ชง ครม.ไฟเขียว วัดพระมหาธาตุฯ เมืองคอน ขอรับการขึ้นทะเบียนแหล่งมรดกโลก 28 ม.ค.

คนนครเฮ! ‘เฉลิมชัย’ ชง ครม.ไฟเขียว ‘วัดพระมหาธาตุฯ เมืองคอน’ ขอรับการขึ้นทะเบียนแหล่งมรดกโลก 28 ม.ค.

เมื่อวันที่ 26 มกราคมที่ผ่านมา ที่ จ.นครศรีธรรมราช นายปรีชากร โมลิกา ประธานภาคีเครือข่ายภาคประชาชนคนนคร เปิดเผยกรณีนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เตรียมนำเสนอแหล่งมรดกทางวัฒนธรรม วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.นครศรีธรรมราช เพื่อขอรับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลก เสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาในวันที่ 28 มกราคมนี้ ภายหลังจากคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลกมีมติเห็นชอบร่างเอกสารการนำเสนอแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.นครศรีธรรมราช เพื่อขอรับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลก เมื่อวันทึ่ 15 มกราคม 2568 ว่า การนำวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.นครศรีธรรมราช ขึ้นทะเบียนมรดกโลก ช่างยากเย็นแสนเข็ญจริงๆ และสูญเสียงบประมาณไปมาก คณะทำงานก็ทำผิดทำถูก ทุกคนล้วนเป็นคนเก่ง แต่ทำผิด จึงทำให้เกิดความล่าช้า 10 ปี

“ที่ผ่านมา ชาวนครศรีธรรมราชหลายภาคส่วน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันทำงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อผลักดันการขึ้นทะเบียนมรดกโลกของวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จนมาถึงวันนี้ นับเป็นข่าวดีที่มาถึงขั้นตอนที่ ครม.จะให้ความเห็นชอบร่างเอกสารการนำเสนอแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.นครศรีธรรมราช ก่อนไปสู่กระบวนการพิจารณาขั้นสุดท้ายที่คณะกรรมการมรดกโลกจะตัดสินชี้ขาด ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นไปในทางบวก” นายปรีชากรกล่าว

นายปรีชากรกล่าวอีกว่า ทั้งนี้ คาดว่าหากวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.นครศรีธรรมราช ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลก จะเกิดความคุ้มค่าในหลายด้าน โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ที่มีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะสร้างรายได้เพิ่มขึ้นปีละ 500-750 ล้านบาท โดยจังหวัด ชุมชนท้องถิ่น ชุมชนรอบแหล่งมรดกโลก ธุรกิจการท่องเที่ยวและบริการ จะได้รับอานิสงส์มากมาย ทั้งใน และต่างจังหวัดด้วย

ADVERTISMENT

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ นายอภิชาต ศักดิเศรษฐ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการ ทส.ให้สัมภาษณ์ว่า นายเฉลิมชัยเตรียมจะนำเรื่องการนำเสนอแหล่งมรดกทางวัฒนธรรม วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.นครศรีธรรมราช เพื่อขอรับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลก เสนอต่อ ครม.พิจารณาในวันที่ 21 มกราคมที่ผ่านมา แต่ ครม.วันดังกล่าว ไม่ได้พิจารณาเรื่องนี้ เนื่องจากนายเฉลิมชัยได้ลงนามเสนอเรื่องไปถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ตามขั้นตอนแล้ว แต่การเสนอเรื่องมรดกโลก ต้องมีความเห็นประกอบจาก 2 หน่วยงานสำคัญ คือ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) โดยก่อนบรรจุเป็นวาระเข้าที่ประชุม ครม.ทั้ง 2 หน่วยงาน ได้ส่งหนังสือด่วนให้ความเห็นกลับมาครบถ้วนเมื่อวันที่ 22 มกราคม ฉะนั้น คาดว่า สลค.จะดำเนินการตามขั้นตอนนำเรื่องนี้เข้าพิจารณา ครม.ได้ในวันที่ 28 มกราคมนี้ ซึ่งยังทันต่อการยื่นเอกสารต่อศูนย์มรดกโลก กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส ให้ทันภายในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 เพื่อเข้าวงรอบการพิจารณาขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกของคณะกรรมการมรดกโลก

นายอภิชาตกล่าวอีกว่า เหตุผลที่นำเสนอเห็นสมควรให้วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.นครศรีธรรมราชได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลก เนื่องจากเป็นแหล่งมรดกวัฒนธรรมที่แสดงถึงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมทางศาสนาพราหมณ์-ฮินดู พุทธศาสนามหายาน และพุทธศาสนาเถรวาท ในทางตอนใต้ของภูมิภาคเอเชีย ภาคพื้นสมุทรที่โดดเด่นที่สุด เป็นศาสนสถานที่ยังคงใช้งานมาอย่างต่อเนื่องราว 1,500 ปี เป็นศูนย์กลางของประเพณีที่ยังคงดำรงอยู่ด้วยระบบความเชื่อที่หลากหลาย และผสมผสานเป็นเอกลักษณ์ สะท้อนความสัมพันธ์ระหว่างสถานที่ศักดิ์สิทธิ์กับชุมชนโดยรอบอย่างแน่นแฟ้น และเด่นชัด

ADVERTISMENT

“สำหรับพื้นที่นำเสนอขึ้นทะเบียนมรดกโลก มีอาณาเขตครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดของวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ซึ่งได้รับการประกาศขอบเขตที่ดินโบราณสถานทั้งพื้นที่ ประกอบด้วย เขตพุทธาวาส และเขตสังฆาวาส โดยมีพระบรมธาตุเจดีย์เป็นประธานของกลุ่มโบราณสถานภายในวัด อันเป็นคุณลักษณะของแหล่งมรดกวัฒนธรรม และสถานที่ประกอบพิธีกรรม และประเพณีทางพุทธศาสนาที่สืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน โดยก่อนหน้านี้ คณะกรรมการมรดกโลกในการประชุมสมัยสามัญ ครั้งที่ 37 ระหว่างวันที่ 17-27 มิถุนายน 2556 ที่กรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา มีมติรับรองวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.นครศรีธรรมราช ในบัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative Liist) แหล่งมรดกทางวัฒนธรรม ของศูนย์มรดกโลกไว้แล้ว” นายอภิชาตกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image