รัฐบาล เข้มกรมการค้าภายในส่งสายตรวจ จับร้านค้าฉวยโอกาส-ไม่ติดป้ายราคา โก่งราคาเจอโทษหนัก พร้อมชูมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสร้างเงินสะพัด 5 หมื่นล้าน
เมื่อวันที่ 27 มกราคม น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลตรุษจีน 2568 ซึ่งตรงกับวันที่ 29 มกราคม นี้ ประชาชนจะไปเลือกซื้อวัตถุดิบเพื่อประกอบพิธีไหว้บรรพบุรุษ รัฐบาลโดยกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ได้จัดสายตรวจและฝ่ายปราบปรามลงพื้นที่ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาและสัปดาห์นี้
โดย เน้นย้ำดูแลควบคุมราคาสินค้าให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ซึ่งได้ดำเนินการจับกุมและดำเนินคดีไปแล้วหลายรายที่พบการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าเอาเปรียบ ทั้งนี้กรมการค้าภายใน ได้กำชับให้ร้านค้าปิดป้ายราคาอย่างชัดเจน พร้อมเตือนร้านค้าที่ไม่ปิดป้ายแสดงราคาสินค้า มีโทษตามกฎหมาย
น.ส.ศศิกานต์ กล่าวว่า เทศกาลตรุษจีนปีนี้ คาดการณ์ว่าประชาชนจะซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น รัฐบาลได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบการจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม หากพบพฤติกรรมเข้าข่ายการกระทำความผิด สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ทั้งนี้ คาดว่าเม็ดเงินจากการจับจ่ายในช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้ จะอยู่ที่ราว 51,780 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 4.5% ซึ่งสูงสุดในรอบ 5 ปี และเป็นมูลค่าที่ขึ้นไปแตะระดับ 50,000 ล้านบาทเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปีนับตั้งแต่ช่วงโควิด-19
”รัฐบาลเชิญชวนประชาชนจับจ่ายใช้สอยในช่วงเทศกาลตรุษจีน โดยสามารถซื้อสินค้าและบริการผ่านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐได้ เช่น โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ มาตรการ Easy-Receipt 2.0 เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ก่อให้เกิดการหมุนเวียนของเม็ดเงิน ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นการไม่ปิดป้ายแสดงราคา สามารถแจ้งร้องเรียนได้ที่ สายด่วน กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ 1569 หรือ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดในพื้นที่” น.ส.ศศิกานต์ ระบุ