กมธ.ฯ ห่วง มาตรการกำจัดเผา แก้ PM2.5 รุนแรง-นานเกินไป หวั่นกระทบเกษตรกรในระยะยาว
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 30 มกราคม นายศักดินัย นุ่มหนู สส.จังหวัดตราด พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ ได้แถลงถึง มาตรการการบริหารจัดการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นและละอองขนาดเล็ก pm 2.5 ในภาคการเกษตร ว่า กมธ. สำนักปลัดกระทรวงเศรษฐและสหกรณ์ ส่งเสริมการเกษตร กรมวิชาการเกษตร กรมการข้าว กรมปศุสัตว์ กรมประมง กรมควบคุมมลพิษ และสำนักงานอ้อยและน้ำตาล ร่วมประชุม โดยกมธ. ทราบดีว่าปัญหา PM 2.5 เป็นเรื่องที่ใหญ่มาก ผลกระทบต่อสุขภาพของพี่น้องชาวไทยทั้งประเทศ เป็นเรื่องที่พี่น้องประชาชนต้องการเห็นการแก้ไขปัญหานี้อย่างเร่งด่วน
กมธ.เกษตร ที่ดูแลประเด็นของพี่น้องเกษตรกรก็มีความเป็นห่วงเป็นใยต่อประกาศของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในเรื่องของมาตรการการบริหารจัดการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นและละอองขนาดเล็ก pm 2.5 ในภาคการเกษตร ตามมติของคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 9 เม.ย. 67 ที่เห็นชอบให้ส่วนราชการและผู้ที่เกี่ยวข้อง ยกระดับในการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศหรือว่าฝุ่นละออง pm 2.5 ที่เกิดจากการเผา ทำให้กระทรวงออกมาตรการที่จะควบคุมพี่น้องเกษตรกรที่ทำการเผาในภาคเกษตร เราก็กังวลว่า จะแก้ปัญหา PM 2.5 ก็จริงอยู่แต่จะมีผลกระทบต่อพี่น้องเกษตรกรด้วยหรือไม่ จะมีมาตรการในการควบคุมอย่างไร
โดยในประกาศระบุว่า หากเกษตรกรมีประวัติการเผาในพื้นที่ทำการเกษตร ก็จะยุติการให้การสนับสนุนหรือความช่วยเหลือในโครงการต่างๆของรัฐ มีระยะเวลา ตั้งวันที่ 1 มิ.ย. 68 ถึง 31 พ.ค. 70 ทำให้กมธ.มีความเป็นห่วงว่า การแก้ไขปัญหาหนึ่ง จะไปสร้างปัญหาให้กับพี่น้องเกษตรกรหรือไม่ ถึงแม้เราอยากให้มีการแก้ไขปัญหา PM 2.5 แต่ว่าวิธีการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลนั้น มีความละมุนละม่อมครบถ้วนรอบด้านดีแล้วหรือไม่ เพราะว่าการช่วยเหลือต่อพี่น้องเกษตรกรอาจจะสร้างความเดือดร้อนก็ได้ โดยผู้ที่ถูกตัดสิทธิ์แล้วก็อาจตะขาดความสนใจดูแลในเรื่องของ pm 2.5 ก็อาจจะทำให้เกิดการเผาอย่างต่อเนื่องได้ เราจึงได้เชิญทุกหน่วยงานมาให้ข้อมูลว่าจะแก้ไขปัญหาเหล่านี้อย่างไรที่จะไม่ให้เกิดผลกระทบต่อเกษตรกร
ทางกมธ.เองก็มีข้อเสนอต่อหน่วยงานต่างๆ อยากให้มีการทบทวนการลงโทษที่น้องเกษตรกรในพื้นที่การเผา เนื่องจากเห็นว่ามีระยะเวลาที่ยาวนานเกินไป ซึ่งไม่ควรต้องตัดสิทธิการรับความช่วยเหลือในทุกโครงการ ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อการทำการเกษตรของเกษตรกรในระยะยาว ทั้งนี้กมธ. อยากให้รัฐระบุว่า โครงการที่สนับสนุนนั้นมีอะไรบ้างที่จะตัดสิทธิ์ให้ไม่ได้รับการสนับสนุน