รัฐบาลวอน “กษิต” อย่าใจร้อน แนะมองจุดเริ่มต้นของปัญหา ย้ำรัฐบาลเข้ามาสะสาง มีแผนงานชัดเจน แต่หลายอย่างต้องใช้เวลาและความร่วมมือ เพราะปัญหาหยั่งรากลึก
เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีที่นายกษิต ภิรมย์ สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ให้สัมภาษณ์วิจารณ์รัฐบาลว่าไม่มีผลงานนั้น ขอชี้แจงว่า รัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้ามาระงับยับยั้งปัญหาความวุ่นวายของบ้านเมือง ซึ่งประชาชนคงจำได้ดี และรู้ว่าใครบ้างที่มีส่วนเกี่ยวข้อง การเข้ามาสะสางปัญหาที่หนักและหมักหมมมานาน ทั้งความแตกแยก การบริหารงานที่ล้มเหลว การทุจริตคอร์รัปชัน หรือการไม่เคารพกฎหมาย เป็นสิ่งที่ต้องอาศัยเวลา และไม่สามารถทำให้สัมฤทธิ์ผลได้เพียงชั่วข้ามคืน
“ขอให้นายกษิตอย่าใจร้อน และลองนึกทบทวนกลับไปที่ต้นตอของปัญหาว่าเกิดจากอะไร วันนี้ประเทศต้องการความร่วมมือร่วมใจเพื่อแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ สิ่งใดที่รัฐบาลทำได้ก็ได้ดำเนินการอย่างเร่งด่วน แต่บางอย่างจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจาก สปท.และอีกหลายส่วน โดยเชื่อว่า สปท.ส่วนใหญ่คงเข้าใจดี” พล.ต.สรรเสริญ กล่าว
พล.ต.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า เรื่องที่รัฐบาลได้ลงมือวางรากฐานการปฏิรูปไปแล้วมีหลายเรื่อง เช่น การปรับโครงสร้างการเกษตร จัดโซนนิ่ง ส่งเสริมให้เกษตรกรเปลี่ยนพฤติกรรมการปลูกพืชให้เหมาะสม สร้างความสมดุลระหว่างอุปสงค์อุปทานของสินค้าเกษตรที่แท้จริงและยกระดับราคาสินค้าโดยไม่บิดเบือนกลไกตลาด การบริหารจัดการน้ำ การแก้ไขปัญหามาตรฐานการบินและการค้ามนุษย์ การวางโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม การลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเข้มแข็งในระดับฐานรากตามแนวทางประชารัฐ การบูรณาการการทำงานข้ามหน่วยงาน เป็นต้น ส่วนสิ่งใดที่เป็นแผนงานระยะยาวก็จะถูกกำหนดไว้ในยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ซึ่งจะเป็นกลไกที่ทำให้ประเทศมีทิศทางหรือเป้าหมายที่ชัดเจน ให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งนำไปเป็นกรอบแนวทาง เพื่อกำหนดวิธีปฏิบัติที่เห็นว่าเหมาะสมและสอดคล้องกัน โดยไม่ต้องกังวลว่า รัฐบาลและ คสช. จะสืบทอดอำนาจ
“รัฐบาลไม่อยากให้มองการแก้ไขปัญหาของประเทศแบบแยกส่วนหรือต่างคนต่างทำ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช.ย้ำเสมอว่า ทุกฝ่ายต้องร่วมคิดร่วมทำแบบบูรณาการ รัฐบาลมีโรดแมปที่ชัดเจน และแม่น้ำอื่นอีก 4 สายก็รู้ว่าตนเองต้องทำอะไร ที่จะพลิกฟื้นประเทศ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการปฏิรูป การแก้ปัญหาของ พล.อ.ประยุทธ์ ยึดถือผลประโยชน์ของชาติเป็นที่ตั้ง ทั้งมิติในประเทศและต่างประเทศ สิ่งใดที่ยังเป็นปัญหาและเกิดความไม่เข้าใจ ก็จะเดินหน้าแก้ไขต่อไป โดยไม่ให้ปัญหาเหล่านั้นเป็นอุปสรรคในการพัฒนาบ้านเมือง เช่น ปัญหาความชัดเจนเรื่องการปักปันเขตแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน เป็นต้น” โฆษกฯกล่าว