โรม กางระเบียบชัด กฟภ.ตัดไฟได้ ร่ายยิบตปท.คว่ำบาตร พันตรีติ่งวิน เจ้าของบริษัทซื้อไฟ
จากกรณีที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ยืนยันพร้อมให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ตัดไฟฟ้าทันที หากหน่วยงานความมั่นคงระบุว่าการจำหน่ายไฟฟ้าให้พม่าเป็นภัยความมั่นคง เพราะ กฟภ.ขายไฟฟ้าตามคำรับรอง และตามข้อสั่งการของหน่วยงานความมั่นคงนั้น
ล่าสุด (1 ก.พ.) นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กถึงกรณีดังกล่าวว่า คุณอนุทินต้องหยุดโบ้ยไปให้หน่วยงานอื่นได้แล้ว ถ้าไม่พร้อมจะทำหน้าที่เป็น รมว.มหาดไทย ก็ไปหาคนอื่นมาทำ เรื่องตัดไฟฟ้าเป็นอำนาจของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ระเบียบการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ว่าด้วยการใช้ไฟฟ้าและบริการ ปี 2562 ข้อ 51.7 ก็ระบุอย่างชัดเจนว่า การไฟฟ้ามีอำนาจในการงดจ่ายไฟหากพบว่า การจ่ายไฟฟ้ากระทบต่อความมั่นคงของชาติ การไฟฟ้าสามารถตัดไฟฟ้าตั้งแต่ท่าขี้เหล็ก เมียวดี จนถึงพญาตองซูได้เลย
คุณอนุทินหยุดแถ หยุดปกป้องแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้แล้ว คนไทยเสียหายจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์รายวัน บางคนคิดสั้นจะฆ่าตัวตาย ครอบครัวแตกสลาย บางคนลูกยังเล็ก ท่านไม่รู้สึกเห็นใจคนเหล่านี้บ้างเลยหรือ จะเลือดเย็นไปถึงไหน
ผมขอยืนยันเป็นครั้งที่ร้อยว่า เรื่องนี้มหาดไทยสามารถสั่งการให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคดำเนินการได้เลย
ผมคิดว่า รัฐบาลต้องไม่ปล่อยให้คุณอนุทินลอยหน้าลอยตาปกป้องแก๊งคอลเซ็นเตอร์แบบนี้ การตัดไฟฟ้ารัฐบาลสามารถทุบโต๊ะสั่งให้ดำเนินการได้ ใครไม่ทำตามก็เอาผิดได้เลย ท่านนายกรัฐมนตรีช่วยทุบโต๊ะเรื่องนี้หน่อยได้ไหมครับ เห็นแก่ประโยชน์ของชาติเถอะครับ
จากนั้น นายรังสิมันต์ได้โพสต์อีกว่า กราบเรียนพี่น้องประชาชน เมื่อวานคุณอนุทินได้แบกแก๊งคอลเซ็นเตอร์อีกครั้ง ผมเริ่มสับสนแล้วว่า คุณอนุทินทำงานให้ใครกันแน่
ถ้าจำกันได้หนึ่งในบริษัทที่เป็นคู่สัญญากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคที่ชื่อว่า SMTY (Shwe Myint Thaung Yinn Industry & Manufacturing Company Limited) ซึ่งบริษัทนี้เป็นของ พันตรี ติ่งวิน หรือ Saw Tin Win คุณอนุทินบอกว่าบริษัทนี้ขาวสะอาด ป.ป.ส.ได้ทำหนังสือถึงคุณอนุทินว่า ไม่พบการกระทำความผิดอะไรเลย ทั้งๆ ที่ติ่งวินคนนี้ มีความสำคัญและถูกจับตามองจากหลายๆ ประเทศ หลายประเทศได้ตัดสินใจคว่ำบาตรพันตรีติ่งวิน
ไม่รู้ทำไม ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ประเทศเราถึงได้ทำงานอย่างบกพร่องได้ถึงขนาดนี้ เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ไม่สนใจว่าการประกอบธุรกิจโดยเฉพาะการขายไฟฟ้าให้กับบริษัทเอกชนมันจะนำมาซึ่งความเสียหายต่อประเทศชาติมากมายเพียงใดทั้งปัญหายาเสพติดและแก๊งคอลเซ็นเตอร์
ต่อไปนี้คือข้อมูลรายละเอียดการแซงก์ชั่น (คว่ำบาตร) โดยประเทศต่างๆ จะเห็นได้ว่าพันตรีติ่งวินคนนี้ ถูกคว่ำบาตรจากหลากหลายประเทศ อาทิเช่น สหภาพยุโรป ฝรั่งเศส สวิตเซอร์แลนด์ และโมนาโก
ติ่งวินโดนคว่ำบาตรจากหลากหลายประเทศ แต่เขากลับเป็นคนดีในสายตาของผู้มีอำนาจในประเทศไทย มอบสัญญาขายไฟฟ้า เพื่อให้นำไปใช้สำหรับแก๊งคอลเซ็นเตอร์และธุรกิจผิดกฎหมายต่างๆ ตามแนวชายแดน
พันตรีติ่งวิน ซึ่งเป็นเจ้าของ SMTY เขาเป็นเบอร์ 2 ของ BGF/KNA ซึ่งให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างชเวโก๊กโก่ และ KK Park เช่า BGF/KNA หัวหน้าใหญ่ชื่อหม่อง ชิต ตู ร่วมทุนกับเสอจื้อเจียง (ปัจจุบันถูกจับอยู่ในไทย เป็นที่ต้องการตัวของจีนอย่างมาก) เปิดชเวโก๊กโก่ ปัจจุบันก็เป็นหุ้นส่วนของแก๊งคอลเซ็นเตอร์นี้
เวลาพวกนี้มาขอซื้อไฟฟ้าจากเรา ก็ต้องอ้างประชาชน อ้างโรงเรียน อ้างโรงพยาบาลเป็นธรรมดา แต่ในทางปฏิบัติมีหรือที่ชนกลุ่มน้อยเหล่านี้จะไม่ให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ตัวเองร่วมทุนใช้ไฟฟ้า มีหรือที่เขาจะบอกว่าพวกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ไปหาไฟฟ้าเอาเอง มีหรือที่จะบอกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ปั่นไฟเอาอย่างเดียว อย่าอุตริมาใช้ไฟฟ้าของประเทศไทยโดยเด็ดขาด พวกแก๊งคอลเซ็นเตอร์จงไปใช้ไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์เอาเอง
ถามจริงๆ มันเมกเซนส์หรือครับ คอลเซ็นเตอร์นี่คือธุรกิจของ BGF ที่มีติ่งวินเป็นเบอร์ 2 เขาปกป้องพวกนี้ เป็นบอดี้การ์ดให้ทุนจีนเทาที่มาลงทุนในพื้นที่เขา มีหรือเขาจะไม่ช่วยเหลือกันเต็มที่ นี่มันแหล่งรายได้ของพวก BGF เลยนะครับ
ถ้ารัฐบาลจะปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และปัญหายาเสพติดอย่างจริงจัง การตัดไฟฟ้าจะเป็นก้าวแรกในการทำลายโครงสร้างของเครือข่ายพวกนี้ ถ้าก้าวแรกยังเดินกันไม่ได้ ชีวิตของคนไทยทรัพย์สินของคนไทย ก็จะตกอยู่ในความเสี่ยงของอาชญากรข้ามชาติเหล่านี้
ได้โปรดสงสารประชาชนเถอะครับ
ถ้าหนูจะแบกคอลเซ็นเตอร์ขนาดนี้ ได้โปรดท่านนายกรัฐมนตรีช่วยลงมาดูเรื่องนี้จัดการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้สิ้นซากเถอะครับ
อ้อ แล้วไม่ต้องส่งคนมาให้ข่าวทำนองขู่ว่า ผมไม่ได้พูดเรื่องนี้ในสภา ไม่มีเอกสิทธิ์คุ้มกันนะครับ เรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์เรื่องนี้ผมตั้งใจมาก ต่อให้โดนฟ้องหมิ่นประมาทอย่างไรก็ไม่อาจจะหยุดผมได้หรอกครับ ผมทราบดีว่าตัวผมเองมีโอกาสที่จะถูกตัดสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิต ผมทำเรื่องนี้ราวกับว่าเป็นวันสุดท้ายของการทำหน้าที่ผู้แทนราษฎร ผมเองก็นับถอยหลังวันเวลาที่จะอยู่ตำแหน่งนี้อยู่แล้ว ดังนั้นผมก็พร้อมที่จะจัดการกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ยาเสพติด และธุรกิจผิดกฎหมายใดๆ จนถึงการทุจริตคอร์รัปชั่นในหมู่ข้าราชการ โดยไม่เกรงกลัวใครทั้งสิ้น จะมีก็แค่ความเสียดาย ถ้าตัวเองมีอำนาจมากกว่านี้ ผมจะไม่มีทางปล่อยให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้เสวยสุขง่ายๆ แบบนี้แน่นอนครับ