กกต.ชลบุรีแจ้งความเอาผิด สส.ชวาล พลเมืองดี พรรคประชาชน เหตุไม่แจ้งค่าใช้จ่าย กกต.ตามเวลาที่กำหนด หลักฐานไม่ครบถ้วน
เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้เผยแพร่คำวินิจฉัย กกต.สั่งดำเนินคดีอาญา นายชวาล พลเมืองดี ส.ส.พรรคประชาชน เขต 3 จ.ชลบุรี กรณีปรากฏหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าหลังการเลือกตั้งวันที่ 14 พ.ค.2566 นายชวาล กระทำการฝ่าฝืน พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.2561 มาตรา 67 และมาตรา 155 คือจงใจยื่นบัญชีรายรับรายจ่ายในการเลือกตั้งไม่ถูกต้องครบถ้วนตามความเป็นจริง
เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการโฆษณาหาเสียงเลือกตั้งระหว่างวันที่ 20 มี.ค.66-15 พ.ค.66 ผ่านช่องทางบัญชีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ ชวาล พลเมืองดี จำนวน 6,000 บาทในหมวด “ค่าโฆษณาในสื่อต่างๆ”
แต่จากการไต่สวนได้ความว่านายชวาล มีค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งซึ่งเป็นค่าโฆษณา หาเสียงเลือกตั้งผ่านช่องทางบัญชีผู้ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าวเป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 9,347.51 บาท โดยพยานคนที่ 1 และคนที่ 2 ของนายชวาล ซึ่งเป็นอาสาสมัครและผู้ช่วยหาเสียง ทำการโฆษณาหาเสียงผ่านทางบัญชีผู้ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าว ให้ถ้อยคำถึงสาเหตุที่ไม่ได้แจ้งค่าใช้จ่ายดังกล่าวแก่นายชวาลว่าเกิดจากความหลงลืม และไม่ปรากฏว่านายชวาลได้ติดตามทวงถามถึงค่าใช้จ่าย
กกต.จึงเห็นว่ามีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า นายชวาลจงใจยื่นบัญชีรายรับและรายจ่าย ไม่ถูกต้องครบถ้วนตามความเป็นจริง ตามที่ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.2561 มาตรา 67 กำหนดให้ภายใน 90 วันนับแต่วันเลือกตั้ง ผู้สมัครแต่ละคน และหัวหน้าพรรคการเมือง ที่ส่งผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อต้องยื่นบัญชีรายรับและรายจ่ายต่อ กกต. ตามแบบที่ กกต.กำหนด หากฝ่าฝืนมีโทษตามมาตรา 155 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 5 ปี
ต่อมาเมื่อวันที่ 30 มกราคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ กกต.ชลบุรี ได้เดินทางเข้าพบกับ ร.ต.ท.ศุภกิตต์ คนที รอง สว.(สอบสวน) สภ.เสม็ด พนักงานสอบสวนเวร สภ.เสม็ด พร้อมทั้งแจ้งข้อกล่าวหาว่า เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2566 นายชวาล พลเมืองดี ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชลบุรีเขต 3 พรรคก้าวไกล ขณะนั้นไม่ได้ยื่นบัญชีรายรับและรายจ่ายต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง ภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด หรือจงใจยื่นเอกสารหรือหลักฐานไม่ถูกต้องครบถ้วน หรือจงใจยื่นเอกสารหรือหลักฐานที่เป็นเท็จ
ต่อมาเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2567 คณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้ตรวจสอบแล้วมีมติว่า นายชวาล พลเมืองดี ได้กระทำผิดจริง จึงมาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เสม็ดให้ดำเนินคดีกับนายชวาล พลเมืองดี ในข้อหา ”ไม่ได้ยื่นบัญชีรายรับและรายจ่ายต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง ภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด หรือจงใจยื่นเอกสารหรือหลักฐานไม่ถูกต้องครบถ้วน หรือจงใจยื่นเอกสารหรือหลักฐานที่เป็นเท็จ”
ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561 มาตรา 67 ประกอบมาตรา 155 พนักงานสอบสวนได้รับคำร้องทุกข์ไว้แล้ว โดยการร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีต่อผู้ต้องหา ยังไม่ส่งผลต่อการดำรงตำแหน่งสมาชิกผู้แทนราษฎร จะมีผลต่อเมื่อศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดว่า ผู้ต้องหากระทำผิดจริง และมีคำสั่งถอดถอนผู้ต้องหา จากการเป็นสมาชิกผู้แทนราษฎร หลังจากตำรวจรับแจ้งแล้วจะสอบปากคำผู้กล่าวหา สอบปากคำพยาน และรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อส่งฟ้องต่อไป
ทางด้านนายสุรพงศ์ นำชัยรุจิพงศ์ พรรครวมไทยสร้างชาติ และนายมานิตย์ ภาวสุทธิ์ พรรคเพื่อไทย อดีตผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 ชลบุรี ได้ประกาศพร้อมที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อม หากนายชวาล พลเมืองดี ถูกพิพากษาดำเนินคดี
