สถานการณ์ฝุ่นเริ่มดีขึ้น บกปภ.ช.ย้ำรณรงค์ “หยุดเผา หยุดฝุ่น” ต่อเนื่อง 47 จว.ประกาศห้ามเผาเพิ่ม
เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ทึ่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายสหรัฐ วงศ์สกุลวิวัฒน์ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะประธานการประชุมกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากการติดตามสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) พบว่า ในวันนี้สถานการณ์ฝุ่นภาพรวมของประเทศดีกว่าขึ้นกว่าเมื่อวาน
โดยพื้นที่ใจกลางกรุงเทพมหานครมีสถานการณ์ที่ดีขึ้นและเริ่มกลับสู่เกณฑ์มาตรฐาน ส่วนภาคใต้คุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์ดีทุกจังหวัด เช่นเดียวกับภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่สถานการณ์ฝุ่นดีขึ้นเนื่องจากมีมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางเข้ามาทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้อากาศเปิดและลดฝุ่นในพื้นที่ได้เป็นอย่างมาก
ส่วนภาคเหนือตอนบนสถานการณ์ฝุ่นอยู่ในระดับที่ค่อนข้างดี จะมีพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างที่ยังมีค่าเฉลี่ยของฝุ่นอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูงโดยเฉพาะบริเวณจ.สุโขทัยและพิษณุโลก สำหรับแนวโน้มสถานการณ์ในห้วงถัดไปคาดการณ์ว่าในช่วงวันที่ 7-8 ก.พ.จะมีลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดมา ทำให้สถานการณ์ฝุ่นในช่วงดังกล่าวมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอีกครั้ง จึงต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

นายสหรัฐ กล่าวว่า แม้วันนี้สถานการณ์ภาพรวมฝุ่นทั้งประเทศจะดีขึ้น แต่ยังคงต้องติดตามสภาพอากาศ ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญที่อาจเพิ่มหรือลดความรุนแรงของฝุ่น บกปภ.ช. ยังคงย้ำทุกหน่วยงานและจังหวัดเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ รวมถึงควบคุมปัจจัยสำคัญที่เป็นแหล่งกำเนิดฝุ่น ได้แก่ การเผาในที่โล่งซึ่งทำให้เกิดจุดความร้อนเพิ่มขึ้น โดยขอให้ทุกจังหวัดวางแผนรับมือสถานการณ์ฝุ่นตามการคาดการณ์เพื่อป้องกันและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะเพิ่มพลังมวลชนในพื้นที่ขับเคลื่อนกิจกรรม Kick off เคาะประตูบ้าน “หยุดเผา หยุดฝุ่น เพื่อคุณ เพื่อเรา” เพื่อสร้างความตระหนักรู้ให้กับประชาชนเกี่ยวกับมาตรการการห้ามเผา และทราบถึงโทษที่จะได้รับ รวมถึงมีส่วนร่วมในการไม่เผา เพื่อสร้างอากาศที่ดีให้กับทุกคน
วันนี้เป็นวันที่สองของการรณรงค์เคาะประตูบ้านฯ และมีจังหวัดที่ประกาศห้ามเผาเพิ่มขึ้นเป็น 47 จังหวัด ซึ่งประชาชนมีความตื่นตัว และให้ความร่วมมือกับกิจกรรมดังกล่าวเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังได้ขยายความร่วมมือไปยังสถานประกอบการที่ประกอบกิจการที่ทำให้เกิดควันไฟสร้างความรบกวนและเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่ โดยขอความร่วมมือผู้ประกอบการหยุดกิจการที่มีการเผาที่ก่อให้เกิดฝุ่นควัน และจังหวัดยังได้ออกประกาศห้ามบุคคลทำการเผาในที่โล่ง และ ห้ามเผาโดยเด็ดขาด หากฝ่าฝืนจะมีโทษ ดำเนินคดีตามกฎหมาย ขอฝากประชาชนหากพบเห็นผู้กระทำความผิดให้แจ้งได้ที่ศูนย์ดำรงธรรม ตำรวจ นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ทุกแห่ง เพื่อที่จะได้ร่วมใจกันสร้างอากาศที่ดีคืนพี่น้องประชาชน
นายสหรัฐ กล่าวต่อว่า ในส่วนของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้เตรียมพร้อมสรรพกำลัง เจ้าหน้าที่ และเครื่องจักรกลสาธารณภัย สนับสนุนจังหวัดที่มีสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่น PM 2.5 ในการควบคุมสถานการณ์ แก้ไขปัญหา และบรรเทาผลกระทบที่มีต่อประชาชน ซึ่งปัจจุบันกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ร่วมกับกองทัพบก (ทบ.) ได้ส่งเฮลิคอปเตอร์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย KA-32 ไปประจำการ ณ ฐานปฏิบัติการกองพลทหารราบที่ 7 จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 1 ลำ เพื่อสนับสนุนปฏิบัติการดับไฟป่าในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ